ภูวเดช อารีราษฎร์ เลือกทำสิ่งที่รัก รักสิ่งที่ทำ

ภูวเดช อารีราษฎร์ เลือกทำสิ่งที่รัก รักสิ่งที่ทำ

ภูวเดช อารีราษฎร์ เลือกทำสิ่งที่รัก รักสิ่งที่ทำ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หากใครชอบรสชาติ จัดๆ จ้านๆ ของก๋วยเตี๋ยวเรือ ลองแวะมาร้านสถานีก๋วยเตี๋ยวเรือ ถนนนครอินทร์ ที่นี่ไม่เพียงแต่จะได้ลิ้มรสกับก๋วยเตี๋ยวเรือรสเด็ดเท่านั้น หากยังจะได้พบเบสท์-ภูวเดช อารีราษฎร์ เจ้าของร้านซึ่งมีดีกรีเป็นถึงวิศวกรออกมาคอยต้อนรับอย่างขะมักเขม้นอีกด้วย

ภูวเดช เรียนจบวิศวกรรมโยธา และได้ทำงานในวิชาชีพวิศวกร คุมงานก่อสร้างบริษัทยักษ์ใหญ่ แต่เมื่อได้ทำงานแล้วกลับรู้สึกว่าไม่ใช่ทางที่ชอบ หากกลับเกิดความรู้สึกที่อยากจะเป็นเจ้าของธุรกิจมากกว่า และเมื่อมาถึงวันหนึ่งความขัดแย้งในใจที่เพิ่มมากขึ้นก็ทำให้เขาตัดสินใจทิ้งอาชีพวิศวกรแล้วมาลุยทำก๋วยเตี๋ยวเรือแบบไม่เสียดาย

“ทำงานคุมก่อสร้าง อยู่กับแดดกับลม ก็เหนื่อย แล้วเราเห็นตัวอย่างพ่อกับแม่ที่ทำงานประจำมาทั้งชีวิต ต้องรอเงินทุกสิ้นเดือน และรอโบนัสปลายปี ซึ่งเราไม่อยากเป็นแบบนั้น นอกจากนี้ก็มีกลุ่มเพื่อนๆ ซึ่งส่วนใหญ่เขาออกไปทำธุรกิจเอง หรือช่วยที่บ้านทำธุรกิจมีรายได้เดือนละเป็นแสน เราเห็นตัวอย่าง แล้วมีความคิดอยากทำธุรกิจมานานแล้ว แต่กว่าจะลาออกได้ก็ต้องคุยกันนานกับพ่อแม่”

ด้วยความเป็นคนชอบทานอาหาร และมักจะทำอาหารให้ที่บ้านรับประทาน ธุรกิจที่ภูวเดชคิดไว้จึงเป็นร้านอาหาร โดยเขาลงทุนไปเรียนทำอาหารญี่ปุ่น เพราะอยากเปิดร้านอาหารญี่ปุ่น เล็งทำเลในห้างสรรพสินค้าเป็นหลัก แต่ในระหว่างรอทำเลนั้น วันหนึ่งได้มีโอกาสไปรับประทานก๋วยเตี๋ยวเรือร้านหนึ่งที่เขาบอกว่ารสชาติอร่อยมาก จึงเกิดความคิดแว้บขึ้นมาว่าแล้วทำไมไม่ทำก๋วยเตี๋ยวเรือ ที่สามารถขายให้กับคนทั่วไปได้มากกว่า แล้วคนไทยก็นิยมทานก๋วยเตี๋ยวเรือ ทำเลก็ไม่จำเป็นต้องเป็นในห้างสรรพสินค้า แม้การเปลี่ยนใจจะรวดเร็ว แต่การเสาะแสวงหาสูตรและพัฒนารสชาติ ก็ใช้เวลาหลายเดือนทีเดียว

“เมื่อคิดอยากทำก็ไปหาสูตรเลยคุยกับเขา เขาก็ให้มานิดหน่อย จากนั้นมีญาติมาแนะนำร้านคุณลุงคนหนึ่งเราก็ไปขอสูตร ซึ่งก็ได้แต่สูตรการปรุงน้ำมาอย่างเดียว อย่างอื่นเราต้องกลับมาคิดลองเอง เช่น เนื้อควรจะใช้ตรงไหน เส้นจะใช้ยี่ห้อไหน เพื่อให้อร่อยที่สุด

จากนั้นก็ทำให้ญาติพี่น้องชิม จนทุกคนบอกอร่อยเลยมั่นใจในรสชาติว่าใช้ได้ ต้องถูกปากคนไทยแน่นอน ตอนเปิดร้านจริงๆ ก็มั่นใจแค่ 50:50 ว่าจะไปรอดหรือเปล่า แต่เมื่อมาถึงตรงนั้นแล้ว เราไม่มีทางเลือก ก็ต้องทำให้ดีที่สุด วันเปิดร้านญาติพี่น้องมาเตรียมอุดหนุนให้กำลังใจ แต่ไม่น่าเชื่อใกล้เที่ยงคนเริ่มมาแล้วมาจนแน่นร้าน ปรากฏว่าวันนั้น ญาติพี่น้องไม่ได้กินอะไรเลยแถมยังต้องมาช่วยกันเสิร์ฟอีก จากนั้นก็ขายดีเรื่อยๆ วันหนึ่งได้เป็นหมื่นบาท คิดว่าเป็นเพราะแถวนี้ไม่มีร้านอาหาร แล้วเราก็ทำป้ายใหญ่ชัดเจนด้วย”

“ตอนแรกก็แอบคิดเสียดายว่าเราเสียเวลาไปกับสิ่งที่ไม่ชอบมานานหลายปี ถ้าทำตามฝันตั้งแต่แรก หรือมุ่งไปเรียนด้านนี้เลย ก็อาจจะไปได้ไกลกว่านี้แล้ว แต่จริงๆ แล้ววิชาชีพที่เรียนมาก็ถือว่าได้มาใช้ 70-80% เพียงแต่เป็นเรื่องของวิธีคิด การประยุกต์ใช้ การจัดระบบ สมองไว คนสั่งอะไรมาจำได้หมด”

ภูวเดชไม่เคยคิดเสียใจที่ไม่ได้ทำงานตามวิชาชีพที่อุตส่าห์ร่ำเรียนมา หากกลับดีใจและมีความสุข เพราะนี่เป็นเส้นทางที่เขาตัดสินใจเลือกเอง แถมยังวางเป้าหมายเอาไว้อีกด้วยว่าจะขยายสาขา หรือไม่ก็แฟรนไชส์ และไม่แน่ว่าในอนาคตเราอาจจะได้กินก๋วยเตี๋ยวเรือกระป๋องฝีมือวิศวกรหนุ่มก็เป็นได้

Create by smethailandclub.com
#SMEs #Startup #เอสเอ็มอี

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook