ยางใต้โอด! ยางดิบดิ่งเหลือ′4โลร้อย′ โค่นทั้งสวนก็ไม่คุ้ม จ่อปลุกม็อบขอใช้ม.44ช่วย

ยางใต้โอด! ยางดิบดิ่งเหลือ′4โลร้อย′ โค่นทั้งสวนก็ไม่คุ้ม จ่อปลุกม็อบขอใช้ม.44ช่วย

ยางใต้โอด! ยางดิบดิ่งเหลือ′4โลร้อย′ โค่นทั้งสวนก็ไม่คุ้ม จ่อปลุกม็อบขอใช้ม.44ช่วย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายกสมาคมชาวสวนยางกระบี่ และนายกสมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางพาราแห่งประเทศไทย เรียกร้องให้รัฐบาลหามาตรการเร่งด่วน ให้การช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางพารา หลังราคาตกต่ำสุดในรอบ 10 ปี 4 กิโลร้อยบาท

นายบุญส่ง นายกสมาคมชาวสวนยางจังหวัดกระบี่และนายกสมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางพาราแห่งประเทศไทย ได้ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ตลาดยางพาราในขณะนี้ว่า รายได้เกษตรกรต่ำกว่าค่าแรงขั้นต่ำ เผยการช่วยเหลือปัจจัยด้านการผลิตไร่ละ 1,500 บาท ไม่ทั่วถึงเกษตรกร เสนอรัฐประกันราคากก.ละ 60 บาท แก้ปัญหาเฉพาะหน้าถึงมาตรการเร่งด่วน ให้การช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางพารา นอกเหนือจากการช่วยเหลือปัจจัยด้านการผลิต ไร่ละ 1,500 บาท โดยแบ่งเป็นค่าสนับสนุนวัสดุการเกษตร 700 บาทต่อไร่, เพิ่มคุณภาพการผลิต 200 บาทต่อไร่ และช่วยค่าครองชีพคนกรีดยาง 600 บาทต่อไร่ ซึ่งเป็นการช่วยเหลือเฉพาะหน้า เกษตรกรยังไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างทั่วถึง

แต่ขณะนี้ราคา ยางพาราตกต่ำต่อเนื่อง ล่าสุดยางแผ่นดิบชั้น 3 กก.ละ 25 บาท เท่ากับราคา 100 บาทต่อยาง 4 กิโลกรัม ส่วนเศษยางกก.ละ 14 บาท ถือว่าราคาต่ำสุดในรอบ 10 ปี ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรชาวสวนยางพาราอย่างมาก

เกษตรกรมีรายได้เฉลี่ยต่ำกว่าค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ด้วยซ้ำ ทำให้เกษตรกรหลายรายต้องเลิกอาชีพ หันไปทำอาชีพอื่น ขณะเดียวกันถ้าจะโค่นไม้ยางราคาไม้ยางราคาก็ไม่สู้ดีนัก เพียงไร่ละไม่ถึง 3 หมื่น ซึ่งถ้ารัฐบาลยังไม่แก้ปัญหา จะส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจโดยรวม รวมทั้งอุตสาหกรรมการผลิต เพราะเป็นยางพาราพืชเศรษฐกิจ รายได้หลักของชาวภาคใต้ โดยในจังหวัดกระบี่ มีเกษตรกรชาวสวนยางกว่า 3 หมื่นครัวเรือน

นายบุญส่งได้กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมารัฐบาลนโยบายของรัฐบาลไม่ชัดเจน และขั้นตอนยุ่งยากเกษตรกรเข้าถึงยาก ดังนั้นเพื่อเป็นการแก้ปัญหาให้เกษตรกรในขณะนี้ จึงฝากเสนอภาครัฐแก้ปัญหา โดยเร่งด่วน ด้วยการประกันราคา ไม่ต่ำกว่า กิโลละ 60 บาท เพราะเหลือระยะเวลากรีดยาง ไม่ถึง 2 เดือนจะปิดกรีดในช่วงหน้าแล้ง ทำให้ผลผลิตลดลง เชื่อว่าราคาจะต้องปรับสูงขึ้น แต่เกษตรกรรายย่อยได้ประโยชน์น้อย และเสนอให้รัฐบาลร่วมเจรจากับกลุ่มประเทศผู้ผลิตยางพาราเช่น เวียดนาม ลาว อินโดนีเซีย มาเลเซีย ที่ได้รับผลกระทบจากราคาตกต่ำเช่นเดียวกัน เพื่อหาแนวทางการช่วยเหลือชาวสวนยาง ซึ่งได้เสนอมาโดยตลอด

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 12 มกราคมนี้ บรรดาแกนนำชาวสวนยางในพื้นที่ภาคใต้ทั้งหมด ได้เรียกประชุมแกนนำเป็นการเร่งด่วน ที่จังหวัดตรัง โดยในวันนี้ (5 ม.ค.) จะประชุมนัดแรก ภายในสถาบันเกษตรกรหลายจังหวัด เช่น จ.ตรัง กระบี่ สุราษฎร์ธานี ฯลฯ เบื้องต้นเห็นพ้องว่า จะกำหนดวางแนวทางเคลื่อนไหวเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาราคายางตกต่ำที่สุดในรอบ 100 ปี

สำหรับข้อเสนอ เบื้องต้นมีการพูดคุยว่า อาจจะเสนอให้นายกรัฐมนตรี ใช้มาตรา 44 ประกาศชดเชยราคาให้กิโลกรัมละ 50 - 60 บาท ซึ่งเป็นราคาที่เกษตรกรอยู่ได้ในช่วงนี้ เพราะมีการคาดว่า ในช่วงเปิดกรีดเดือน เม.ย.- พ.ค. ราคาอาจตกลงมากไปกว่านี้ เพราะยางในโกดังรัฐบาล มีกว่า 4 แสนตัน ไม่ได้ระบายออกไปเป็นตัวกดตลาดไว้ ซึ่งถือว่าแนวทางนี้น่าจะเป็นมาตรการเร่งด่วนที่สุด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook