บลจ.เตรียมลดน้ำหนักลงทุนหุ้น CPALL หลังธรรมาภิบาลไม่คืบ
บริษัทจัดการลงทุน หรือ บลจ.ของไทยหลายแห่ง เตรียมที่จะทยอยขายหุ้นที่ถืออยู่ใน CPALL ขณะที่บางแห่งบอกว่าจะไม่ขายแต่จะไม่ซื้อเพิ่ม หลังเรียกร้องให้บริษัทแก้ปัญหาเรื่องธรรมาภิบาลผู้บริหาร แต่ยังไม่มีความชัดเจน
วันที่ 20 ม.ค. 59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธีรนารถ รุจิเมธาภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ เผยว่า ได้ประชุมกับฝ่ายที่ดูแลบริหารพอร์ตการลงทุนในหุ้นค้าปลีกรายหนึ่ง ที่มีปัญหาเกี่ยวกับธรรมาภิบาลแล้ว ซึ่งมีแนวโน้มจะทยอยลดพอร์ต หากบริษัทค้าปลีกดังกล่าวยังไม่มีความชัดเจนเรื่องการแก้ปัญหาออกมา
แต่การทยอยขายหุ้นค้าปลีกดังกล่าว ขึ้นอยู่กับฝ่ายที่ดูแล ว่า เวลาใดที่เหมาะสมจะขายหุ้นออกมา เพราะต้องรักษาผลประโยชน์ของผู้ถือหน่วยลงทุนด้วย หากซื้อหุ้นมาในราคาที่สูงกว่าราคาในขณะนี้ก็อาจต้องรอก่อน
ทั้งนี้ บลจ.ทิสโก้ ถือหุ้นค้าปลีกดังกล่าวน้อยมาก และช่วงที่มีข่าวผู้บริหารใช้ข้อมูลภายใน หรืออินไซด์เดอร์เทรดดิ้ง ก็ไม่ได้ซื้อหุ้นเพิ่ม เพราะหากมีความคลุมเครือบางเรื่องก็อาจมีคำถามจากผู้ถือหน่วยได้
นายธีรนารถ กล่าวย้ำว่า กว่า 80% ของกองทุนที่ บลจ.ทิสโก้บริหาร เน้นลงทุนในบริษัทที่มี ธรรมาภิบาลดี ไม่เพียงแค่ดูจากพื้นฐานของบริษัทเท่านั้น
นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วรรณ ระบุว่า กองทุนวรรณ ได้ลดน้ำหนักหุ้น CPALL มานานแล้ว ตั้งแต่ช่วงที่เข้ามาซื้อหุ้น บริษัท สยามแม็คโคร และเมื่อมีเรื่องธรรมาภิบาลของผู้บริหาร ก็ไม่ได้เข้าซื้อหุ้นเพิ่มอีกเลย โดยปัจจุบันมีหุ้น CPALL ไม่ถึง 1% ของพอร์ตทั้งหมด แต่จะยังไม่ขาย เพราะเห็นว่าเป็นหุ้นมาร์เก็ตแคปใหญ่ ต้องมีไว้ในพอร์ตบ้าง ยกเว้นว่าราคาหุ้น CPALL จะขึ้นมาสูง ในระดับที่ได้กำไรดี
ด้าน นางสุภาพร ลีนะบรรจง รักษาการประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี กล่าวว่า ได้ลดการถือครองหุ้นในบริษัทที่มีข่าวผู้บริหารใช้อินไซเดอร์เทรดดิ้ง ไปแล้ว จากเดิมที่ถือหุ้นติดอันดับ 1 ใน 5 ของหลักทรัพย์ที่ถือครองมากที่สุด
โดยปัจจุบันเหลือหุ้นอยู่บางส่วนเท่านั้น ซึ่งหากภายในสิ้นเดือนนี้ บริษัทดังกล่าวยังไม่แก้ปัญหาให้ชัดเจน บลจ.กรุงศรีก็อาจทยอยลดน้ำหนักการลงทุนลงอีก เพราะการเลือกลงทุนนั้น ไม่ได้ดูเพียงผลตอบแทนหรือกำไรเท่านั้น แต่ให้ความสำคัญกับเรื่องธรรมาภิบาลด้วย