ผุดแฟลตดินแดงโฉมใหม่ 200 ไร่ 3.5 หมื่นล้าน รองรับผู้เช่าเก่า6พันรายตอกเข็มกลางปีประเดิมทำเลมิตรไมตรี

ผุดแฟลตดินแดงโฉมใหม่ 200 ไร่ 3.5 หมื่นล้าน รองรับผู้เช่าเก่า6พันรายตอกเข็มกลางปีประเดิมทำเลมิตรไมตรี

ผุดแฟลตดินแดงโฉมใหม่ 200 ไร่ 3.5 หมื่นล้าน รองรับผู้เช่าเก่า6พันรายตอกเข็มกลางปีประเดิมทำเลมิตรไมตรี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"รัฐบาลบิ๊กตู่"เร่งหาแหล่งเงิน ลุยสร้างแฟลตดินแดงโฉมใหม่ 200 ไร่ มูลค่า 3.5 หมื่นล้าน สร้างที่อยู่อาศัยป้อนผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง 2 หมื่นยูนิต ขนาดพื้นที่ใช้สอย 33 ตารางเมตร รองรับผู้เช่าเดิม 6.5 พันยูนิต อีก 1.3 หมื่นยูนิต ปล่อยเช่ารายใหม่ ข้าราชการและประชาชนทั่วไป 1.3 หมื่นยูนิต คิดค่าเช่าเริ่มต้นเดือนละ 1,000-10,000 บาท ดีเดย์ มิ.ย.นี้ตอกเข็มแปลง G เนื้อที่ 2 ไร่ ขึ้นตึกสูง 25 ชั้น 334 ยูนิต มูลค่า 614 ล้านบาท เล็งดึงเอกชนลงทุน PPP นำร่องโครงการ

นายวิทัศน์ เตชะบุญ รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ภายในปี 2559 นี้ กระทรวงจะเร่งเดินหน้าโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง จำนวน 20,292 หน่วย มูลค่าลงทุน 35,000 ล้านบาทให้เป็นรูปธรรม เนื่องจากเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่จะสร้างที่อยู่อาศัยให้กับผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง ซึ่งโครงการนี้จะเป็นการพัฒนาปรับปรุงพื้นที่ซึ่งเสื่อมโทรมและเป็นอันตรายให้ดีขึ้น ด้วยการสร้างที่อยู่อาศัยใหม่ พื้นที่ใช้สอย 33 ตารางเมตร ให้กับผู้อยู่อาศัยเดิมจำนวน 6,546 หน่วย และกลุ่มผู้อยู่อาศัยใหม่ จำนวน 13,746 หน่วย จะใช้เวลาพัฒนา 8 ปี เริ่มปี 2559-2566

ปล่อยเช่ายาว 30 ปี

ขณะนี้การเคหะแห่งชาติ (กคช.) กำลังทำรายละเอียดต้นทุนการก่อสร้างและความเป็นไปได้ของโครงการ เพื่อนำเสนอให้กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลังพิจารณาประกอบการจัดหาแหล่งเงินลงทุนให้ มี 4 แนวทาง ได้แก่ 1.รายได้ กคช. 2.เงินกู้จากธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 3.เอกชนร่วมลงทุน PPP และ 4.ตั้งกองทุนทรัสต์ ก่อนจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาแผนแม่บทการพัฒนาต่อไป คาดว่าจะเสนอให้ภายในเดือนพฤษภาคมและไม่เกินเดือนมิถุนายนนี้จะเริ่มก่อสร้างได้

"ตอนนี้แหล่งเงินลงทุนยังไม่ชัดเจน หากใช้รูปแบบ PPP จะทำให้เร็วขึ้น ทางคลังให้การเคหะฯทำรายละเอียดงบประมาณที่จะใช้ก่อสร้างและค่าเช่าของรายเดิมและรายใหม่ โดยหลักการจะให้สิทธิเช่ายาว 30 ปี"

ประเดิมแปลงหัวมุมวิภาฯ 2 ไร่

นายวิทัศน์กล่าวว่า แผนแม่บทพัฒนาแฟลตดินแดง ทาง กคช.ได้ทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ไว้แล้ว จะได้รับการอนุมัติภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ในส่วนของโครงการระยะแรกจะนำร่องก่อน คือ แปลง G บริเวณที่ตั้งสำนักงานเคหะชุมชนดินแดง 1 อยู่หัวมุมถนนดินแดงตัดกับถนนวิภาวดีรังสิต เป็นอาคาร 25 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 334 หน่วย มูลค่าลงทุน 614 ล้านบาท เมื่อสร้างเสร็จจะเริ่มย้ายผู้อยู่อาศัยเดิม คือ แฟลต 18-20 และ 21-22 รวม 5 อาคาร 280 หน่วย เพื่อให้เข้าอยู่อาศัยในอาคารใหม่ ที่เหลืออีก 54 หน่วย รองรับผู้อยู่อาศัยรายใหม่

นางสาวอุบลวรรณ สืบยุบล รักษาการผู้ว่าการการเคหะฯ เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังหาแนวทางที่จะทำให้ต้นทุนก่อสร้างโครงการต่ำ เพื่อเสนอให้กระทรวงการคลังพิจารณาก่อนเสนอให้ ครม.อนุมัติ ส่วนที่จะให้เอกชนลงทุนรูปแบบ PPP นั้น เป็นข้อเสนอของกระทรวงการคลัง จะต้องพิจารณารายละเอียดอีกว่าจะให้เอกชนลงทุนทั้งหมดหรือแค่เฉพาะก่อสร้าง เนื่องจากที่ดินแปลงนี้เป็นของกรมธนารักษ์ เอกชนเข้ามาพัฒนาใช้ที่ดินเท่านั้น

ค่าเช่าไม่เกิน 1,500 บาท/เดือน

"โครงการแปลง G พยายามจะให้เริ่มต้นในปีཷ นี้เพื่อเป็นโปรเจ็กต์นำร่อง ถ้าสร้างตึกแรกได้ ทำให้ผู้เช่าเดิมไม่เดือดร้อนที่จะหาที่อยู่ใหม่ ตามแผนจะทยอยย้ายรายเดิมเข้าไปอยู่ในตึกใหม่ที่สร้างเสร็จ ส่วนค่าเช่าสำหรับผู้เช่าเดิมจะไม่ให้เกิน 1,000-1,500 บาท/เดือน ยังไม่รวมค่าส่วนกลาง ขณะที่ผู้เช่าใหม่ จะคิดตามราคาตลาด 8,000-10,000 บาท/เดือน แต่ทั้งนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาราคาที่เหมาะสม"

สำหรับแผนการดำเนินงานจะนำพื้นที่อยู่อาศัยเดิมจำนวน180 ไร่ มาแบ่งพัฒนาเป็นอาคารที่พักอาศัยให้ผู้อยู่อาศัยเดิม 40 ไร่ และ 25 ไร่ จัดเป็นพื้นที่สีเขียว ที่เหลือ 110 ไร่ จะพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยใหม่ เพื่อปล่อยเช่าให้กับข้าราชการ เช่น กระทรวงแรงงาน กระทรวง พม. ข้าราชการ กทม. และบุคคลทั่วไป

เปิดแผนรื้อย้ายผู้เช่าเดิม

ในส่วนของแผนการรื้อย้ายผู้อยู่อาศัยเดิมมี 4 ระยะ (ดูแผนผัง) ระยะแรก จะดำเนินการก่อสร้างอาคารแรกบริเวณแปลง G เป็นอาคารสูง 25 ชั้น 1 อาคาร 334 หน่วย รองรับผู้อาศัยเดิม 5 อาคาร แฟลต 18-22 จำนวน 280 หน่วย ระยะที่ 2 ก่อสร้างอาคารใหม่ในพื้นที่แปลง A และ D1 ทดแทนอาคารที่รื้อถอนในระยะที่ 1 จำนวน 1,247 หน่วย เป็นอาคารสูง 31 ชั้น 1 อาคาร 635 หน่วย และสูง 5 ชั้น 1 อาคาร 612 หน่วย รองรับผู้อยู่อาศัยเดิม 1,160 หน่วย

ระยะที่ 3 สร้างอาคารใหม่ในพื้นที่แปลง A และ D1 ทดแทนอาคารที่รื้อถอนระยะที่ 2 จำนวน 3,333 หน่วย เป็นอาคารสูง 32 ชั้น 3 อาคาร 1,905 หน่วย และสูง 35 ชั้น 2 อาคาร 1,425 หน่วย รองรับผู้อยู่อาศัยเดิม 3,056 หน่วย และระยะที่ 4 สร้างอาคารใหม่แปลง C แทนอาคารที่รื้อถอนในระยะที่ 3 จำนวน 1,632 หน่วย เป็นอาคารสูง 35 ชั้น 3 อาคาร รองรับผู้อยู่อาศัยเดิม 1,350 หน่วย

ติดตามข่าวสาร ผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ค ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
www.facebook.com/PrachachatOnline
ทวิตเตอร์ @prachachat

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook