"เพลินวาน" หยิบอดีตมีเรื่องเล่า มาคลุกเคล้าใส่กับการตลาด

"เพลินวาน" หยิบอดีตมีเรื่องเล่า มาคลุกเคล้าใส่กับการตลาด

"เพลินวาน" หยิบอดีตมีเรื่องเล่า มาคลุกเคล้าใส่กับการตลาด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อ “เพลินวาน พาณิชย์” ซึ่งอยู่ภายใต้การบริหารของนักธุรกิจรุ่นใหม่อย่าง ภัทรา สหวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วนชัย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้ออกมาปัดภาพย่านการค้ายุคสมัยใหม่อย่างสิ้นเชิง ซึ่งไอเดียนี้ได้รับการสานต่อมาจาก “เพลินวาน หัวหิน สู่ เพลินวาน พาณิชย์” เพื่อบุกกรุงเทพมหานครโดยเฉพาะ ซึ่งมีคอนเซ็ปต์หลัก คือ เป็นย่านการค้าที่แฝงกลิ่นอายในยุคสมัยรัชกาลที่ 5

“จุดเริ่มต้นของเพลินวาน พาณิชย์ กำเนิดขึ้นมาจากแรงบันดาลใจของเราเอง ที่เล็งเห็นว่าวัยรุ่นในยุคปัจจุบัน เชื่อได้เลยว่าเกินกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ แทบจะไม่รู้เรื่องของจุดเริ่มต้นหลายๆ อย่างที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นร้านกาแฟร้านแรก หรือมหาวิทยาลัยแห่งแรกก็ตาม เช่นนั้นแล้วเหล่าทีมงานของเพลินวานจึงยกยุคสมัย และบรรยากาศในสมัยนั้น มาตั้งไว้ที่ใจกลางกรุงเทพมหานคร เพื่อเปิดโอกาสให้กลุ่มวัยรุ่นได้มีโอกาสสัมผัส โดยย่านการค้าเพลินวาน พาณิชย์ ได้ถูกแบ่งออกเป็น 5 ตอน 5 สไตล์ ได้แก่ เรด ครอส ที รูม ชุมชนบางรอด ไปรษณียาคาร Siam soo และมหาวิทยาลัยแห่งแรก”

ทั้งนี้ แม้จะเป็นความแปลกใหม่ที่ชวนหลงใหลให้ผู้คนอยากไปสัมผัส แต่ทว่าก็นับเป็นความท้าทายอย่างมากที่ เพลินวาน พาณิชย์ เลือกมาเปิดตัวใจกลางมหานคร เนื่องจากว่าภัทราเองก็ยังไม่รู้ถึงไลฟ์สไตล์ของคนกรุงเทพฯ ดีพอ ว่าจะรับรูปแบบนี้ได้มากน้อยแค่ไหน เพราะถ้าหากสังเกตย่านการค้าโดยทั่วไป มักจะเน้นที่ความหรูหรา และสไตล์ที่โมเดิร์น ซึ่งแน่นอนว่าความแหวกแนวครั้งนี้ ย่อมมีความเสี่ยงอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

แน่นอนว่าการสร้างความต่าง ถ้าผลลัพธ์ออกมาไม่ดี ก็คือดับไปเลย แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ยังพร้อมที่จะเสี่ยง เพราะอย่างที่ได้กล่าวไปแล้ว เรื่องราวประวัติศาสตร์ของไทยเป็นความทรงจำที่น่าเก็บเอาไว้ ถ้าหากเราไม่ลงมือทำอะไรสักอย่าง เชื่อได้ว่าชีวิตคนไทยรุ่นใหม่ๆ อาจขาดหายเรื่องราวที่ควรค่าอย่างยิ่งแก่การจดจำ

ยกตัวอย่างเช่น ร้านเรด ครอส ที รูม ที่ทองหล่อ ถือว่าเป็นการหยิบยกรูปแบบของร้านกาแฟแห่งแรกที่เกิดขึ้นในประเทศไทยช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 มาตั้งไว้ หรือในส่วนของชุมชนบางรอด ที่ตั้งอยู่ ณ สยาม สแควร์ วัน โดยหยิบอดีตสมัยที่เป็นสลัมคลองเตยมาเล่าเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น ร้านตัดผม ร้านขนมหวาน ร้านก๋วยเตี๋ยว ได้ถูกยกมาเป็นชุมชนขนาดย่อม

หรือแม้แต่ Siam soo ที่เป็นของเล่นชิ้นแรก โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากนางรำของไทย หากถามว่าเรื่องราวเหล่านี้ ถ้าไม่ศึกษาจากการอ่าน จะสามารถรู้ความเป็นมาได้อย่างไร ดังนั้น กลยุทธ์ที่เราใส่เข้าไปทั้ง 5 ตอนนั้น จึงเป็นในแง่ของเรื่องเล่า และบรรยากาศที่เสมือนจริง”

ทีนี้ก็ต้องมารอติดตามกันต่อไปว่า ผู้บริหารหญิงไฟแรงคนนี้จะสามารถย้อนยุคเอาใจกลุ่มวัยรุ่นได้มากน้อยขนาดไหน เพราะเดิมที่เพลินวาน หัวหิน ล้วนแล้วมีแต่กลุ่มแฟนคลับที่เป็นรุ่นใหญ่เกือบทั้งสิ้น

และในท้ายที่สุดนี้ ภัทรายังได้เผยถึงแผนในอนาคตด้วยว่า ความย้อนยุคของไทยจะไม่จบอยู่แค่ในประเทศเท่านั้น แต่เธอคนนี้มีแผนที่จะขยายความเป็นไทยไปสู่ต่างประเทศอีกด้วย โดยสถานที่ที่เธอเล็งไว้นั้น คือมหานครนิวยอร์ก เพราะด้วยความเชื่อมั่นที่มีอยู่สูงว่า เสน่ห์ของความเป็นไทยจะสามารถจับใจกลุ่มลูกค้าต่างชาติได้ไม่ยาก และแน่นอนว่าสิ่งที่เป็นตัวชูโรงไม่มีเปลี่ยน คือ การให้ลูกค้าได้สัมผัสบรรยากาศ และประสบการณ์ที่ใกล้เคียงของจริง


เรื่อง นิธิดา วงศาโรจน์
ภาพ กฤษภา ศิลปไชย
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลเพื่อความสำเร็จของธุรกิจเอสเอ็มอี (SME)

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook