พลิกวิกฤตเจ๋ง เกษตรกรลดพื้นที่ยางฯ หันมาปลูกพริกขี้หนู-แตงกวา โกยเดือนละ 3-4 หมื่นบ.

พลิกวิกฤตเจ๋ง เกษตรกรลดพื้นที่ยางฯ หันมาปลูกพริกขี้หนู-แตงกวา โกยเดือนละ 3-4 หมื่นบ.

พลิกวิกฤตเจ๋ง เกษตรกรลดพื้นที่ยางฯ หันมาปลูกพริกขี้หนู-แตงกวา โกยเดือนละ 3-4 หมื่นบ.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธวัชชัย เสนะโกวร เกษตรกรหมู่ที่ 3 บ้านพนมพริก ตำบลแสนตุ้ง อำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด ลดพื้นที่ปลูกยางพาราหันมามาปลูกพริกขี้หนู และแตงกวา แซมต้นเงาะที่ปลูกใหม่ สามารถสร้างรายได้เฉลี่ย 30,000 – 40,000 บาท ต่อเดือน

นายธวัชชัย เสนะโกวร กล่าวว่า จากปัญหาราคายางพาราที่ตกต่ำ จึงมีแนวคิดในการปรับเปลี่ยนอาชีพมาปลูกพืชผักที่สามารถทำให้มีรายได้อย่างต่อเนื่อง จึงหันมาทำสวนเงาะ พร้อมทั้งปลูกพริกขี้หนู และแตงกว่า แซม แทนการทำสวนยางพาราบนเนื้อที่ 4 ไร่ และในพื้นที่อีก 4 ไร่ ปลูกสับปะรดโรงงานแซมต้นเงาะ ทั้งนี้ในส่วนของแตงกวาในรายได้รุ่นแรก 4 ไร่ สามารถสร้างรายได้ 70,000 บาทเศษ ส่วนรุ่นที่ 2 แตงกวา 1 ไร่สามารถสร้างรายได้ 15,000 บาท รวมกันแล้วมีรายได้มากกว่าการจำหน่ายยางพาราทั้งปี

ส่วนของพริกขี้หนู เก็บผลผลิตรุ่นแรก 250 กิโลกรัม ๆ ขายกิโลกรัมละ 75 บาท มีรายได้ประมาณ 18,000 บาท แต่พริกจะมีผลผลิตเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยสามารถเก็บผลผลิตได้ถึง 5 – 6 เดือน หรือจนถึงช่วงเดือนมิถุนายน 2559 คาดว่าในพื้นที่ 4 ไร่จะสามารถเก็บผลผลิตได้เฉลี่ยเดือนละ 1 ตัน หากราคาขาย 30 – 40 บาทต่อกิโลกรัม จะมีรายได้เฉลี่ยเดือนละ 30,000 – 40,000 บาท

นายธวัชชัย เสนะโกวร กล่าวอีกว่า การปรับเปลี่ยนพื้นที่ปลูกยางพารามาเปลี่ยนเป็นปลูกเงาะ และพืชผักพื้นบ้านมีหัวใจอยู่ที่การปรับปรุงดิน เนื่องจาก พื้นที่ที่เคยปลูกยางพาราจะมีสภาพดินที่เป็นกรด จะต้องไถเพื่อพลิกหน้าดิน ใช้โดโลไมท์ 15 – 0 – 0 ในการบำบัดสภาพดินที่เป็นกรด และใช้เชื้อไตรโครเดอร์มา มาเป็นตัวช่วยในการกำจัดเชื้อราในดิน

อย่างไรก็ตามอยากขอแนะนำให้เพื่อนเกษตรกรการปลูกพืชหลากหลาย สามารถช่วยเกษตรกรในการกระจายความเสี่ยงจากราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ มีรายได้ต่อเนื่อง โดยเฉพาะจำพวกผักที่ทุกครัวเรือนต้องบริโภค และให้ผลตอบแทนสูงกว่าการปลูกยางพาราในสถานการณ์ปัจจุบัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook