6 วิธีง่าย ๆ ทำธุรกรรมออนไลน์ให้ปลอดภัย

6 วิธีง่าย ๆ ทำธุรกรรมออนไลน์ให้ปลอดภัย

6 วิธีง่าย ๆ ทำธุรกรรมออนไลน์ให้ปลอดภัย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อโลกสมัยได้เปลี่ยนแปลงไป สิ่งอำนวยความสะดวกก็มีเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือที่มีเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า และสามารถทำอะไรได้ตั้งหลายอย่าง หรือการทำธุรกรรมทางการเงินก็ก้าวไปไกลแล้ว คุณสามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน ขอเพียงแค่คุณมีสัญญาณอินเทอร์เน็ต  ไม่ว่าเทคโนโลยีจะล้ำหน้าไปไกลเพียงใด แต่อันตรายและมิจฉาชีพก็ย่อมมีอยู่ทุกที่ทุกสมัย และแน่นอนค่ะ MoneyGuru.co.th จะไม่ยอมให้คุณผู้อ่านตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพเหล่านี้ เพียงทำตาม 6 ขั้นตอนง่าย ๆ ต่อไปนี้

 

1. รหัสผ่านไม่ควรเกี่ยวข้องกับรายละเอียดส่วนตัว

รหัสผ่านในการทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ ไม่ควรเกี่ยวข้องกับรายละเอียดส่วนตัวของคุณ เช่น วันเกิด วันครบรอบ ฯลฯ แต่คุณก็ควรที่จะตั้งรหัสผ่านที่คุณสามารถจำได้ด้วย และจะปลอดภัยยิ่งขึ้นถ้าคุณสามารถทำให้รหัสผ่านยากขึ้นไปอีก ด้วยการใส่สัญลักษณ์ต่าง ๆ เข้าไป แทนที่จะใส่แค่ตัวอักษร ยกตัวอย่างเช่น ‘Eleph@nt’ แทนที่จะเป็น ‘Elephant’ นอกจากนี้ การเปลี่ยนรหัสผ่านบ่อย ๆ ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งนะคะที่จะทำให้การทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ของคุณมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นค่ะ

 

2. โทรถามเพื่อยืนยันการโอนเงิน

หากคุณทำการโอนเงินออนไลน์ คุณควรโทรไปถามผู้รับเงินด้วยว่าได้รับเงินจากคุณแล้วหรือยัง เพื่อเป็นการยืนยันว่าเงินไปถึงผู้รับจริง ๆ ค่ะ เพราะเพียงแค่จดหมายยืนยันทางอีเมลคงไม่เพียงพอ เนื่องจากว่าทางอีเมลนั้นแฮกเกอร์สามารถเข้าไปดูข้อมูลของคุณได้โดยง่ายค่ะ

 

3. หลีกเลี่ยงการใช้ Wi-Fi สาธารณะ

หลีกเลี่ยงการใช้ Wi-Fi สาธารณะในการทำธุรกรรมออนไลน์ เพราะแฮกเกอร์สามารถที่จะแฮกเข้ามาดูข้อมูลของคุณได้ ดังนั้น ทางที่ดีคุณควรทำธุรกรรมออนไลน์ที่บ้านจะดีกว่าค่ะ เพราะมันปลอดภัยกว่า และเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวได้ยากกว่าค่ะ

 

4. ตั้งรหัสผ่านในการเข้าไฟล์ Word หรือไฟล์ PDF

ไม่ว่าจะเป็นไฟล์ Word หรือไฟล์ PDF แต่ถ้าคุณมีข้อมูลสำคัญในนั้น คุณควรที่จะตั้งรหัสผ่านในการเข้าไฟล์เหล่านั้น และอย่าใช้รหัสผ่านร่วมกันกับไฟล์อื่น ๆ หรือใช้รหัสเดียวกับรหัสผ่านอีเมลเด็ดขาด เพราะมันง่ายต่อการคาดเดา และมีความเสี่ยงสูงหากมีผู้รู้รหัสอีเมลของคุณ แล้วใช้รหัสนั้นเข้าไปดูข้อมูลสำคัญ

 

5. ลบรหัสผ่านต่าง ๆ ที่มีอยู่ในเครื่องออก

เมื่อคุณขายอุปกรณ์ทางไอทีต่าง ๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ Notebook คอมพิวเตอร์ ฯลฯ คุณควรทำให้แน่ใจด้วยว่าคุณลบรหัสผ่านต่าง ๆ ที่มีอยู่ในเครื่องออกไปหมดแล้ว รวมถึงลบข้อมูลที่สำคัญต่าง ๆ ออกไปแล้วด้วย เพราะถ้าหากคุณไม่ลบหรือลืมลบ เมื่ออุปกรณ์เหล่านี้ตกไปอยู่ในมือของผู้ที่ไม่หวังดี ก็อาจจะนำหายนะมาสู่คุณได้ค่ะ

 

6. อัพเดตอุปกรณ์ไอทีอยู่เสมอ

ควรอัพเดตอุปกรณ์ทางไอทีอยู่เสมอ เพื่อให้มีความรวดเร็วและมีความปลอดภัยมากขึ้น เพราะการอัพเดตจะทำให้ระบบต่าง ๆ up-to-date ซึ่งจะทำให้เครื่องปลอดจากไวรัสและภัยคุกคามความปลอดภัยอื่น ๆ นอกจากนี้คุณควรปรับปรุงการตั้งค่าเบราว์เซอร์ของคุณ เพื่อป้องกันคุกกี้และไฟล์อื่น ๆ ที่เก็บข้อมูลผู้ใช้ของคุณด้วยค่ะ

 

การทำธุรกรรมออนไลน์ เป็นสิ่งที่สะดวก รวดเร็วก็จริง แต่การที่ข้อมูลรั่วไหลหรือมีผู้แฮกเข้าไปขโมยข้อมูลที่สำคัญก็มีจำนวนมาก ดังนั้น การทำธุรกรรมออนไลน์ด้วยความระมัดระวังจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากค่ะ และหากใครอยากติดตามข้อมูลข่าวสารทางการเงินแบบนี้อีก ก็สามารถคลิกมาเลยที่ บล็อกการเงิน MoneyGuru.co.th ค่ะ

 

อ้างอิง: Economictimes, Finra, Bankofamerica

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook