เที่ยวเมืองนอก แลกเงินไปหรือ ใช้บัตรเครดิต ?

06 ก.พ. 59 (15:05 น.) พิมพ์

แชร์เรื่องนี้

แชร์เรื่องนี้Line Twitter Facebook

ทำงานมาทั้งปี ต้องขอใช้วันหยุดหนีเที่ยว เปิดประสบการณ์แปลกใหม่ในโลกกว้างกันบ้างแล้ว แต่ก่อนจะเที่ยวเรามาเปิดกระเป๋า สำรวจเงินที่มีอยู่กันก่อน ว่าพร้อมช็อปกระจายต่างแดนหรือยัง?

วิธีการซื้อของหรือจ่ายเงินค่าบริการต่างๆ ในต่างประเทศ ไม่ต่างจากในประเทศไทยมากนัก ในห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ร้านค้า และช็อปปิ้งมอลล์ สามารถใช้เงินสดหรือบัตรเครดิตในการชำระค่าสินค้าหรือบริการต่างๆ ตามร้านค้าแผงลอย ร้านค้าบางแห่ง จะรับเฉพาะเงินสด และบางแห่งระบุชัดเจนว่ารับเฉพาะเงินประเทศนั้นๆ จึงควรสังเกตป้ายก่อนจ่ายเงินกันสักหน่อย
การชำระค่าสินค้า หรือบริการต่างๆ ในต่างประเทศ มีวิธีการจ่ายเงินหลายรูปแบบ เช่น จ่ายเป็นเงินสดของประเทศนั้นๆ โดยแลกไปจากไทย หรือนำไปแลกที่ประเทศนั้น, ใช้บัตรเครดิต, ใช้บัตรเดบิต ฯลฯ แต่ละวิธีการจะมีขั้นตอนที่แตกต่างกัน จึงขอนำวิธีที่นิยมใช้กันทั่วไป มาบอกเล่ากัน ดังนี้

แลกเงินสด พกไว้สบายใจกว่า
ในการแลกเงิน มีทางเลือกหลายช่องทาง ทั้งการแลกกับธนาคารโดยตรง แลกที่บริษัทรับแลกเปลี่ยนเงินที่น่าเชื่อถือ แลกที่สนามบิน เป็นต้น แต่จะแลกอย่างไรให้ได้เรตที่ดีที่สุด และคุ้มที่สุด อยู่ที่คุณเลือกเอง

• การแลกเงินกับธนาคารหรือบริษัทรับแลกเงิน
ถ้าแลกจำนวนไม่มาก การแลกที่ธนาคารถือว่าสะดวกที่สุด เพราะไม่ต้องเสียเวลาและเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทาง แต่ในกรณีที่ต้องการแลกจำนวนมาก เรตของธนาคารจะถูกกว่าบริษัทรับแลกเงิน ทำให้เราขาดทุนส่วนต่างของราคามากกว่า จึงควรคำนวณให้ดีก่อนจะแลก เช่น

อัตราของบริษัท ซุปเปอร์ริช

อัตราแลกเปลี่ยน ของธนาคารกรุงเทพ

จะเห็นว่า ตัวเลขของทั้ง 2 ที่ มีค่าส่วนต่างที่แตกต่างกัน คือ ราคาที่เราไปแลกกับบริษัททั่วไป เรตอยู่ที่ 34.20 บาท ต่อดอลล่าร์ ส่วนธนาคารพาณิชย์ เรตอยู่ที่ ประมาณ 34.33-34.40 บาท ต่อดอลล่าร์ มีส่วนต่าง 0.1-0.2 บาท ต่อดอลล่าร์ ถ้าแลก 100,000 บาท ส่วนต่างก็จะประมาณ 400-600 บาท สามารถเลือกได้ตามความต้องการ

• การแลกเงินที่โรงแรมหรือสนามบิน
การแลกเงินที่โรงแรม หรือเคาน์เตอร์ตามสนามบินในประเทศ ถือเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการแลกเงิน ที่สะดวกและรวดเร็ว เหมาะกับผู้ที่ไม่มีเวลาในการแลกเงินมาก่อนล่วงหน้า
แต่ข้อเสียของการแลกผ่านเคาน์เตอร์โรงแรมหรือสนามบิน คือ จะมีการเรียกเก็บค่าทำธุรกรรมเพิ่ม ทำให้เราจำเป็นต้องแลกเงินได้เรตที่สูงกว่าที่อื่นๆ นั่นหมายความว่า จะได้เงินมาช็อปปิ้งน้อยกว่าที่ควรจะเป็น ดังนั้นจึงขอแนะนำให้ใช้ช่องทางนี้ในกรณีฉุกเฉิน เช่น แลกเพิ่มเติม หรือไม่มีเวลาจริงๆ

• แลกเป็นเงินสกุลสากล เช่น Dollar (USD) หรือ Euro (EUR)
ในกรณีที่สกุลเงินที่ต้องการแลก ไม่มีให้แลกทั่วไปตามบริษัทรับแลกเงิน หรือธนาคารพาณิชย์ แนะนำให้แลกเป็นเงินสากลไว้ก่อน แล้วนำเงินนั้นไปแลกที่ประเทศที่เราเดินทางไป
การแลกเงินสกุลสากลติดตัวไว้มีข้อดีหลายประการ เช่น สามารถนำไปแลกเป็นเงินสกุลท้องถิ่นได้ในราคาสูงกว่าแลกในไทย และแลกคืนได้ราคาสูงกว่านำกลับมาแลกที่ไทย แต่ข้อเสียคือ ความยุ่งยากในขั้นตอน ที่ต้องแลกจากเงินไทย เป็นเงินสากล(ดอลล่าร์หรือยูโร) และเมื่อไปถึงประเทศที่เราไปเที่ยว จะต้องไปแลกจากเงินสากล เป็นเงินท้องถิ่น อีกรอบหนึ่ง

• แลกเงินในต่างประเทศ
ในการแลกเงินที่ต่างประเทศ อัตราแลกเปลี่ยนถือว่าค่อนข้างดี ถ้าผู้แลกมีเวลา และสามารถสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ได้ ขอแนะนำวิธีนี้ แต่ในกรณีที่ไปเที่ยวแบบเวลาจำกัด ช่องทางนี้อาจจะไม่เหมาะ เพราะจะทำให้เสียเวลาในการเดินทาง และไม่สะดวกเท่ากับแลกไปจากบ้านเรา

บัตรเดบิตหรือเครดิต รูดคล่องรูดไว ง่ายดายกว่าพกเงิน
การพกบัตรเครดิต หรือเดบิต ติดตัวไปด้วยถือเป็นทางเลือกที่ดีเลยทีเดียว เพราะในการชำระเงินบางแห่งสามารถเลือกจ่ายเป็นบัตรแทนเงินสดได้
แต่การใช้บัตรไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต หรือเดบิต ทางธนาคารจะคิดค่าความเสี่ยงจากการแปลงสกุลเงินดังกล่าวในอัตราไม่เกินร้อยละ 2.5 จากยอดค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่เกิดจากการแปลงสกุลเงิน

ส่วนค่าธรรมเนียมการจ่ายและสิทธิประโยชน์อื่นๆ ขึ้นอยู่กับบริษัทต้นสังกัดของบัตร ว่ามีมีนโยบายอย่างไร บางแห่งไม่คิดค่าธรรมเนียม บางแห่งเมื่อใช้จ่ายแล้วสามารถสะสมแต้มเพื่อแลกคืนเป็นเงินได้

อัตราค่าเงินหลังรูดบัตรใช้จ่าย ทางบริษัทฯ จะเรียกเก็บเป็นเงินไทยตามอัตราแลกเปลี่ยนของธนาคารต้นสังกัดบัตรนั้นๆ หากสกุลเงินที่ชำระค่าสินค้าไป ไม่ใช่เงินสกุลดอลล่าร์ ยอดค่าใช้จ่ายจะถูกแปลงเป็นดอลล่าร์ก่อนแปลงเป็นเงินไทย เพื่อแจ้งเรียกเก็บตามรอบบิล

ดังนั้นในการชำระเงิน จึงควรสอบถามรายละเอียดต่างๆ จากทางร้านค้าก่อนชำระเงินทุกครั้ง บางแห่งรับบัตรเครดิตแค่บางประเภท บางแห่งถ้าจ่ายเงินสดจะได้รับส่วนลดเพิ่ม
ไม่ว่าจะใช้จ่ายด้วยวิธีใด ทั้งเงินสด หรือการรูดบัตร ก็ย่อมมีทั้งข้อดีและข้อเสียต่างกัน บางประเทศนิยมใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเพราะปลอดภัยกว่าการพกเงินสดจำนวนมาก บางประเทศมีข่าวการโจรกรรมข้อมูลจากการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต เราจึงควรศึกษาข้อมูลการท่องเที่ยวในประเทศนั้นๆ และเลือกใช้จ่ายให้ถูกกับจริตของประเทศดังกล่าว และจบทริปเที่ยวครั้งนี้อย่างมีความสุข