สอนลูกให้ฉลาด รู้ค่าของเงิน

สอนลูกให้ฉลาด รู้ค่าของเงิน

สอนลูกให้ฉลาด รู้ค่าของเงิน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วัยเด็ก คือวัยเริ่มต้นแห่งการเรียนรู้ ถือเป็นช่วงเวลาเหมาะสมที่คุณจะสอนให้เขารู้จักค่าของเงินเสียตั้งแต่ตอนนี้ เพราะการใช้เงินที่ถูกวิธี จะเป็นรากฐานสำคัญให้เขาประสบความสำเร็จในด้านการเงินในอนาคต สามารถช่วยเหลือตัวเอง และดูแลครอบครัวได้โดยที่เขาไม่ต้องกลับมาพึ่งพาคุณอีก


อีกทั้งการที่เขารู้ถึงคุณค่าของเงินยังช่วยให้เขาประสบความสำเร็จในชีวิตได้ง่ายขึ้นอีกด้วย ซึ่งคุณเองก็จะรู้สึกภูมิใจด้วยนะที่ลูกของคุณสามารถประสบความสำเร็จในชีวิตได้อย่างง่ายดายและมีปัญหาทางการเงินเหมือนที่คนอื่นๆ เขามีกัน


วิธีต่อไปนี้ คือวิธีที่คุณสามารถ สอนลูกให้ฉลาด ซึ่งทำได้ในชีวิตประจำวัน และช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีให้เกิดขึ้นในครอบครัวได้อีกด้วย


1 ให้เขามีส่วนร่วมในทุกกิจกรรม
ทุกกิจกรรมที่เกี่ยวกับเงิน ควรอย่างยิ่งที่จะให้เขาเข้ามามีส่วนร่วมด้วยทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการนับเงินที่ได้จากกิจการในบ้าน เพื่อให้เขารู้วิธีหักเงินทุนและกำไรออกจากกัน ว่าทำอย่างไร
หรือทุกครั้งที่คุณจะซื้อของใช้ภายในบ้าน ควรพาเขาไปด้วย เพื่อสอนให้เขาเรียนรู้การใช้เงินอย่างคุ้มค่าโดยการเลือกซื้อสินค้าเหล่านั้น แนะนำเขาว่าควรเลือกอย่างไร เพราะสินค้าบางชิ้น ราคาถูกกว่าแต่ก็ใช่ว่าจะดีกว่าหรือคุ้มกว่าเสมอไป

แต่ทั้งนี้คุณจะต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเขาด้วยนะ ไม่ใช่ว่าคุณเองก็ซื้อของฟุ่มเฟือยเหมือนกันซึ่งนั่นก็จะทำให้ลูกของคุณใช้จ่ายฟุ่มเฟือยตามไปด้วยนั่นเอง ดังนั้นเพื่อสอนลูกให้รู้จักใช้จ่ายเงิน คุณเองก็ต้องทำเป็นตัวอย่างให้เขาดูด้วย

วิธีนี้ จะช่วยให้เขาได้เรียนรู้วิธีการวางแผนทางการเงินด้วยประสบการณ์จริง ซึ่งง่ายต่อการจดจำ ผิดกับวิธีสอนแบบจงใจนั่งสอน ซึ่งส่วนใหญ่เด็กๆมักจะมีอาการต่อต้าน หรือรับฟังเพื่อให้ผ่านหูไปในแต่ละครั้ง


อย่าลืมว่าทุกกิจกรรมต้องไม่เครียด ควรแฝงไปด้วยความแปลกใหม่ ตื่นเต้น และน่าสนุก ซึ่งวิธีแบบนี้จะดึงดูดใจเด็กๆได้ดีกว่า แถมยังทำให้เด็กรู้สึกสนุกกับการใช้จ่ายเงินอย่างประหยัดมากกว่าด้วยนะ


2 อย่าให้อะไรกับเขาง่ายเกินไป
ทุกครั้งที่เขาเอ่ยปากขออะไรที่เกินความจำเป็น และไม่ใช่พื้นฐานในชีวิตประจำวัน คุณควรมีเงื่อนไขเพื่อต่อรองกับเขา เช่น ช่วยทำงานบ้านก่อน 1สัปดาห์ จึงจะได้ในสิ่งที่ต้องการ หรือสอบได้เป็นอันดับ 1หรืออันดับ 2ของห้องให้ได้ เป็นต้น แต่ทั้งนี้เมื่อเขาทำได้ คุณจะต้องทำตามที่ได้พูดไว้จริงๆ เพื่อให้เขามีกำลังใจและอยากที่จะทำสิ่งนั้นอีกเพื่อให้ได้สิ่งตอบแทนในสิ่งที่เขาต้องการนั่นเอง


วิธีนี้จะช่วยให้เขารู้ว่าไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายๆ เขาจะต้องทำงานเพื่อแลกมา ทำให้เขารู้จักคุณค่าของสิ่งนั้น และดูแลรักษามันได้ดียิ่งขึ้น ตรงกันข้าม ถ้าคุณให้เขาทันทีที่เอ่ยปากขอ ไม่นาน เขาก็จะเบื่อและทิ้งมันไปในที่สุด


เด็กบางคน มักจะขอในสิ่งที่เขาเห็นเป็นประจำ และรู้สึกว่ามันดี เช่น โทรศัพท์มือถือ เกมส์ เป็นต้น นั่นเพราะเขาอยากใช้อยากมีตามสังคมนิยม หรืออาจจะโดนเพื่อนๆล้อจากที่โรงเรียน แบบนี้คุณต้องช่วยเขาหาทางออก และให้เขาใช้ชีวิตแบบธรรมดาให้ได้ โดยคุณจะต้องสอนให้เขารู้ว่าสิ่งไหนจำเป็นสิ่งไหนไม่จำเป็นบ้างนั่นเอง


3 สอนเขาให้เก็บเงินเป็น
การออม คือรากฐานของความสำเร็จ และช่วยให้ชีวิตในภายภาคหน้าของเขาดำเนินไปอย่างถูกต้องและมั่นคง ปัจจุบัน หนุ่มสาววัยทำงานต่างก็มีหนี้สินตั้งแต่อายุยังน้อย โดยเฉลี่ยหัวละประมาณ 100,000 บาท ซึ่งถือว่าเยอะมากสำหรับกลุ่มคนที่มีอายุ 25ปีขึ้นไป เชื่อว่าคุณเองก็คงไม่ต้องการให้เด็กๆในปกครองของคุณมีชีวิตเช่นนั้น จริงไหม


ก่อนอื่นให้เริ่มที่การให้เงินรายวันไปโรงเรียน แนะนำเขาว่าควรใช้เท่าไหร่ อย่างไร และกำหนดยอดขึ้นมาให้เขาแบบตายตัว ว่าต้องเหลือเงินกลับบ้านเพื่อออมเท่าไหร่ แล้วจดเป็นบัญชีรายวันให้เขา สิ้นเดือนก็รวบรวมยอด แล้วพาเขาไปฝากธนาคาร เพื่อสอนให้เขารู้จักวิธีการฝากเงิน และเคยชินกับการเข้าธนาคาร


วิธีนี้จะช่วยให้เขามีพื้นฐานการวางแผนทางการเงินที่ดี และไม่ประสบสภาวะล้มเหลวทางการเงินในอนาคต เก็บออมจนเป็นนิสัย และไม่ตกเป็นทาสของบัตรเครดิตเช่นในสังคมยุคปัจจุบัน อีกทั้งยังช่วยในการเก็บออมเงินของเขาได้อีกด้วย ซึ่งจะทำให้เขารู้จักเก็บออมเงินและทำให้เขาประสบความสำเร็จทางการเงินได้อย่างง่ายดายเลยทีเดียว


ทั้งหมดนี้ ล้วนแต่เป็นวิธีการสอนแบบธรรมชาติที่ค่อนข้างได้ผล เพราะเด็กๆมักจะเบื่อง่าย ถ้าเราสอนเขาในเชิงวิชาการมากเกินไป ทำเพราะถูกบังคับหรือกำหนดให้ทำ มากกว่าที่จะทำด้วยความคิดของตัวเอง เมื่อโตขึ้น เขาอาจเบื่อในเรื่องเหล่านี้ และกลายเป็นบุคคลที่ล้มเหลวทางการเงินได้ง่ายๆ


ดังนั้น คุณควรอยู่ตรงกลาง หาวิธีปรับ และสอนเขาไปเรื่อยๆ จนกว่าจะประสบผลสำเร็จ ซึ่งการจะสอนให้เขารู้จักใช้จ่ายเงินอย่างถูกวิธีได้นั้น คุณจะต้องใช้เวลาพอสมควรเลยละ เพื่อให้ซึมซับเข้าสู่จิตใจและกลายเป็นนิสัยได้ในที่สุดนั่นเอง


อยากให้ลูกน้อยของคุณเติบโตขึ้นมาเป็นเด็กที่รู้จักคุณค่าของเงินและรู้จักการเก็บออมเงินเพื่ออนาคตที่ดี ควรสอนเขาตั้งแต่วันนี้นะคะ

Advertorial

สนับสนุนเนื้อหาโดย MoneyHub

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook