9 แนวทางวัยรุ่น สู่การเป็น เศรษฐีเงินล้าน
เศรษฐีเงินล้าน มาลองจินตนาการกันว่า ถ้าคุณสามารถเป็นเศรษฐีเงินล้านได้ มันจะดีแค่ไหนที่มีเงินทองมากมายมาสนอง Lifestyle ตนเอง ยิ่งเป็นช่วงวัยรุ่นเงินล้านยุคนี้ ไม่ใช่เรื่องยากหากใจพร้อมและกายสู้ ไม่หวั่นไหวต่ออุปสรรคนานา เพราะชีวิตไม่ได้เรียนรู้แค่ทฤษฎีในตำรา แต่มันคือการลงมือทำอย่างหนักในจุดหมายที่ต้องการ TerraBKK ขอเสนอ 9 แนวทางวัยรุ่นสู่การเป็นเศรษฐีเงินล้าน มาเรียนรู้พัฒนาตนเองแบบง่ายๆ รายละเอียดดังนี้
แนวทาง 1 # สร้างแรงบันดาลใจ จากความน่าเบื่อ หากคุณกำลังคิดว่า ถ้าคุณอยากเป็น เศรษฐีเงินล้าน แต่คุณต้องมีชีวิตตามขั้นตอนที่แสนน่าเบื่อ ตั้งใจเรียน ทำงานบริษัทดีๆ มันจะใช้เวลานานมากในการเป็นเศรษฐีผ่านอาชีพดั้งเดิมเหล่านี้ เช่น กว่าจะเป็นผู้พิพากษา ,แพทย์ หรือ ที่ปรึกษาทางการเงิน เป็นต้น อาชีพเหล่านี้ได้ผลตอบแทนดีก็จริง แต่ความเป็นจริงแล้ว นานวันไป มักจะมีข้อจำกัดเรื่องรายได้หยุดวิ่ง ณ ตำแหน่งหนึ่ง ซึ่งเป็นเรื่องยากที่เราจะเป็นผู้กำหนดรายได้เองได้ ดังนั้น ลองผลักดันความคิดเหล่านี้ ให้ตัวคุณได้รู้สึกตัวเร็วที่สุด ก่อนตัดสินใจเลือกเส้นทาง จำเป็นจริงหรือที่ต้องใช้เวลาหลายปีในโรงเรียนเพื่อเป็นเศรษฐี ?
แนวทาง 2 # จำนวนปริญญาไม่การันตีการเป็นเศรษฐีเสมอไป หากเป้าหมายการเป็น เศรษฐีเงินล้าน ของคุณไม่เกี่ยวข้องกับการเป็น ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน จำนวนปริญญาที่คุณอุตาสาหะร่ำเรียนมา อาจเป็นข้ออ้างเพื่อเลี่ยงการลงมือทำเสียมากกว่า ก่อนจะเรียน ควรจะรู้ก่อนว่า คุณควรรู้เรื่องนี้ไปทำไม ? การเรียนทุกสิ่งที่อยากรู้ ไม่ได้หมายความว่า ต้องรู้ทุกสิ่งที่เป็นความรู้ พวกความรู้ล้นสมอง จนไม่กล้าทำอะไร มีตัวอย่างให้เห็นอยู่รอบตัว
แนวทาง 3 # สละเวลาเข้าสังคม เพื่อพัฒนาตนเอง มันอาจจะเป็นเรื่องยากที่จะต้องเสียสละชีวิตส่วนตัว การพักผ่อนหย่อนใจ การเข้าสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวัยรุ่น แต่หากคุณต้องการจะเป็นเป็น เศรษฐีเงินล้าน อย่างแท้จริง คุณควรยินดีสละเวลาชีวิตไร้สาระ เพื่อมุ่งเน้นไปที่การทำงาน ใช้เวลานี้ในการศึกษาของจริงภาคสนามให้มากที่สุด สนุกกับการพัฒนาความสามารถหรือการทำงานหรือทักษะที่จำเป็นของคุณ ยิ่งคุณสามารถมุ่งเน้นการทำงานพัฒนาความรู้ความสามารถของคุณมากเท่าไหร่ คุณจะจับทางการเป็นเศรษฐีได้เร็วมากขึ้นเท่านั้น
แนวทาง 4 # ยอมรับความพ่ายแพ้ และมีความผิดพลาดเป็นเพื่อน ไม่ว่าเป้าหมายการเป็น เศรษฐีเงินล้าน ของคุณจะไปในเส้นทางไหน โอกาสอาชีพเหล่านั้นต้องเผชิญกับความพ่ายแพ้เท่าไหร่ จำไว้ว่า ความล้มเหลวอยู่ในทุกตำราเศรษฐีตัวจริง ความล้มเหลวไม่น่ากลัว แต่มันคือเพื่อนแท้ที่ดีที่สุด ความล้มเหลวเป็นเรื่องปกติ แต่วิธีการที่คุณจัดการความล้มเหลวคือสิ่งที่ทำให้คุณแตกต่าง และกลายเป็น เศรษฐีเงินล้าน ในท้ายที่สุด
แนวทาง 5 # ตั้งเป้าหมายให้สูงกว่าเงินล้าน เงินไม่ควรจะเป็นจุดจบของเกมส์ชีวิต คุณควรจะมุ่งเน้นไปที่การทำผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด หรือการบริการที่เป็นไปได้มากที่สุด และเงินนั้นคือผลลัพธ์ของการทำสิ่งนั้น เป้าหมายของคุณควรจะโตขึ้นในแต่ละปี ลักษณะการทำงานที่ไม่เหมือนว่า มันจะหยุดแค่เป้าหมายที่ตั้งไว้ เช่น ถ้าเป้าหมายของคุณคือเงิน 1 ล้านบาทใน 12 เดือน เมื่อเป็นไปได้และเกิดขึ้นจริงแล้ว อะไรคือสิ่งที่คุณอยากจะสนุกไปกับมันมากกว่านั้นอีกบ้าง ?
แนวทาง 6 # อย่าหลอกลวง กุญแจสำคัญที่จะสร้าง เศรษฐีเงินล้าน คือ ความอดทนและความซื่อสัตย์สุจริต คุณควรตรงไปตรงมาให้เป็นมาตรฐานประจำตัวในการทำงานร่วมกับคนอื่น การเสียชื่อเสียงหรือเสียเครดิตมีผลต่อความเป็นมืออาชีพ ในเส้นทางหรือวงการนั้น มากกว่าที่คุณคาดคิด ดังนั้นอย่าเสี่ยงเลยจะดีกว่า
แนวทาง 7 # จับจังหวะตามกระแสให้เป็น อะไรที่ร้อนแรงก็น่าเข้าไปลองเพื่อการเรียนรู้ คุณควรเรียนรู้การเข้าให้ถูกจังหวะ ฝึกจับจังหวะกระแสให้ได้ตั้งแต่ช่วงต้นของกระแสนั้นๆ จะทำให้คุณใช้ประโยชน์จากกระแสเหล่านี้สร้างเงินทุนไปต่อยอดการเป็น เศรษฐีเงินล้าน ได้ วิธีสังเกตกระแสก็เช่น สื่อทางสังคมโดยเฉพาะ Instagram , Facebook เป็นต้น
แนวทาง 8 # ระบบทำงานแบบไม่จำกัด office ยุคนี้การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตสำคัญที่สุด ช่วยให้การขายค้าและผลกำไร มาจากที่ใดในโลกก็ได้ คุณสามารถดำเนินธุรกิจของคุณได้ทุกที่ที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต คุณไม่จำเป็นต้องลงทุนเช่าหน้าร้าน แค่รับ Pre-order ไม่ต้องสต๊อกสินค้า จะทำงานที่ไหนก็ได้ สำคัญที่สุดคือ การลงแรงสร้างระบบทำงาน หากจับตลาดได้จริงค่อยเดินหน้าลงทุนก็ยังทัน มันเป็นโอกาสที่ดีที่ง่ายที่สุดที่จะลองเรียนรู้เปิดธุรกิจของตนเอง
แนวทาง 9 # ธุรกิจประสบความสำเร็จไม่ใช่แค่เรื่องกำไร การสร้างธุรกิจเพื่อตัวเงินและผลกำไรเป็นเรื่องปกติในการทำธุรกิจ กำไรเป็นเรื่องพื้นฐานที่ทุกธุรกิจต้องทำเพื่อความอยู่รอด สิ่งที่บ่งบอกว่าธุรกิจนั้นประสบความสำเร็จ บ่งบอกว่าคุณคือเศรษฐีเงินล้าน ตัวจริง คือสิ่งอื่นที่เหนือกว่านั้น เช่น การสร้างการเรียนรู้ใหม่แก่ผู้คน , การช่วยให้ชีวิตผู้คนง่ายขึ้น หลายบริษัทมุ่งเน้นการเติบโตของจำนวนผู้ใช้มากกว่าผลกำไรเสียด้วยซ้ำไป เพราะไม่มีประโยชน์ในการสร้างสรรค์สินค้ายอดเยี่ยมหากไม่มีคนใช้ –เทอร์ร่า บีเคเค
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ : TerraBKK.com