สระแก้วโมเดล"เคลียร์2เดือนสินค้าก๊อป-เขมรระทึกถูกพ่อค้าไทยชักดาบ

เปิดแผน "สระแก้วโมเดล" ลุยกวาดล้างสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาตลาดโรงเกลือ หวังกู้ภาพลักษณ์ประเทศ พร้อมจัดชุดตรวจเข้มข้นกดดันเป็นระยะ ๆ ปิดเส้นทางกระจายสินค้าในโกดังใหญ่ 3 แห่ง ด้านร้านค้าชาวกัมพูชาหวั่นพ่อค้าไทยชักดาบไม่จ่ายค่าสินค้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้ริเริ่มจัดทำแผนปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาจังหวัดสระแก้ว หรือ "สระแก้วโมเดล" มาตั้งแต่ปี 2558 โดยได้ตั้งคณะทำงานประสานงานเพื่อบูรณาการการป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาจังหวัดสระแก้ว ปัจจุบันผู้ว่าฯสระแก้วเป็นประธาน และ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เป็นที่ปรึกษาคณะทำงาน

นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า ตลาดโรงเกลือเดิมมีการขายส่งเสื้อผ้า สินค้ามือสอง และสินค้าที่รับบริจาค ต่อมาเปลี่ยนรูปแบบเป็นตลาดการค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งส่งผลเสียหายต่อประเทศและภาพลักษณ์ของจังหวัด โดยผู้ประกอบการมากกว่าครึ่งเป็นชาวกัมพูชา ซึ่งจังหวัด

การตั้งคณะทำงานชุดนี้ขึ้นมา เพื่อบูรณาการการทำงานเพื่อมิให้ไทยเกิดความเสียหาย และยังเป็นการช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม อันเนื่องจากการถูกตัดสิทธิ์ทางการค้า การถูกเก็บภาษีขาเข้าจากสินค้าส่งออกของไทย ส่งผลให้ไทยไม่สามารถแข่งขันด้านการค้ากับนานาประเทศได้ โดย DSI ได้ลงมาช่วยสนับสนุนการทำงานเพื่อนำร่องแผนงานนี้ให้แก่จังหวัดสระแก้ว จนเกิดเป็น "สระแก้วโมเดล" ขึ้นมา โดยกำหนดเป็นแผนระยะสั้นและระยะยาว

"เป้าหมายของสระแก้วโมเดล คือ ลดจำนวนสินค้า ร้านค้า และพื้นที่ในการจำหน่ายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาให้น้อยลง จนกระทั่งให้หมดไปในที่สุด และปรับเปลี่ยนมาจำหน่ายสินค้ามือสอง สินค้าโอท็อป สินค้าการเกษตร สินค้าอุตสาหกรรม และสินค้าหัตถกรรม"

ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วกล่าวว่า ในส่วนของแผนระยะสั้นช่วง 2 เดือนนี้ (1 มี.ค.-เม.ย. 2559) ได้แก่ การรณรงค์ประชาสัมพันธ์ การจัดทำแผนที่ แผนผัง จุดจำหน่ายสินค้าละเมิดฯ การจัดทำบัญชีรายชื่อนายทุนหรือผู้มีอิทธิพล การประชุมทำความเข้าใจกับเจ้าของตลาดและผู้ค้ารายใหญ่ เพื่อปรับเปลี่ยนทัศนคติในการทำการค้า รวมทั้งจะมีการจัดตั้งศูนย์ประสานงาน การจัดชุดตรวจอย่างเข้มข้นและกดดันเป็นระยะ ๆ โดยจะมีการติดตามประเมินผลทุก 3 เดือน

ซบเซา - ร้านค้าจำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ในตลาดโรงเกลือปิดตัวหลายร้าน ทำให้บรรยากาศการซื้อขายสินค้าซบเซาต่อเนื่อง

สำหรับแผนระยะยาวนั้น ให้จังหวัดสระแก้วกำหนดวาระการป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาเป็นยุทธศาสตร์จังหวัด การจัดทำบันทึกข้อตกลงร่วมกัน (MOU) กับเจ้าของพื้นที่หรือเจ้าของตลาดและผู้ค้ารายใหญ่ที่มีการจำหน่ายสินค้าละเมิดฯว่าจะไม่จำหน่ายสินค้าดังกล่าว การปราบปรามไม่ให้มีโกดังเก็บสินค้าละเมิดฯในพื้นที่ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งเสริมการตลาดในการขายสินค้ามือสอง สินค้าโอท็อป และสินค้าอื่น ๆ ที่ถูกกฎหมาย เพื่อทดแทนสินค้าละเมิดฯ การตรวจสอบความโปร่งใสการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐที่รับผิดชอบเรื่องนี้

ทั้งนี้ กรมสรรพากรได้เสนอให้ปฏิบัติการตอบโต้ผู้ค้าที่ถือว่าเป็นอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ โดยขอให้ตรวจค้นจับกุมด่วนที่สุด เพื่อหยุดการกระจายสินค้าผิดกฎหมายไปสู่จังหวัดอื่น ๆ และขอให้ปิดเส้นทางกระจายสินค้าในโกดังใหญ่ 3 แห่งของตลาดโรงเกลือ

ด้านแหล่งข่าวจากผู้ประกอบการในตลาดโรงเกลือกล่าวว่า มาตรการกำจัดสินค้าปลอม ทำให้ 2 ตลาดได้รับผลกระทบมากที่สุดเป็นตลาดของเอกชน ได้แก่ ตลาดโกลเด้นเกต พลาซ่า และตลาดเบญจวรรณ ซึ่งพบว่าร้านค้าที่จำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ปิดลงหลายร้าน ส่วนตลาดอื่นได้รับผลกระทบไม่มากนัก

ทั้งนี้ ภาคเอกชนขอเวลา 15 วัน เพื่อให้ผู้ขายรื้อร้านค้าและเก็บสินค้ากลับประเทศ ทำให้บรรยากาศโดยรวมของตลาดโรงเกลือไม่คึกคักเหมือนที่ผ่านมา เพราะนักท่องเที่ยวยังวิตกกังวลกับข่าวที่เกิดขึ้น และไม่มั่นใจว่าตลาดโรงเกลือยังเปิดขายเหมือนเดิมหรือไม่ ขณะที่กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าจากต่างจังหวัดก็ยกเลิกการเดินทางมาในช่วงนี้ ส่วนพ่อค้าชาวกัมพูชาที่จำหน่ายสินค้าละเมิดฯยังคงปิดร้าน และรอลูกค้าประจำนำเงินเชื่อรอบที่แล้วมาจ่าย ขณะที่สินค้ารอบใหม่ก็ไม่สามารถขายได้สะดวกเหมือนที่ผ่านมา จึงคาดว่าพ่อค้าแม่ค้าคนไทยที่มารับสินค้าไปอาจอาศัยสถานการณ์นี้ชักดาบผู้ประกอบการสินค้าชาวกัมพูชา