ทำไมต้อง “กองทุนอินฟาฯ”
ในช่วงเศรษฐกิจและตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวนมากจนเรารู้สึก “กลัว” ทำให้หลายคนต้องมองหากองทุนที่ จ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอและซื้อขายสะดวก มายุคนี้ต้องกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นสินค้าใหม่ในตลาดหุ้นไทย ภาษาเทพเราเรียกว่า “Infrastructure Fund” ตัวย่อ “IF” เป็นกองทุนรวมที่ระดมทุนไปลงทุนในกิจการโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ (ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน) เช่น ไฟฟ้า,ประปา,ถนน,ทางพิเศษ,ทางสัมปทาน,ท่าอากาศยาน,ท่าเรือน้ำลึก,โทรคมนาคม,รถไฟฟ้า,รถไฟใต้ดิน เป็นต้น ชักเริ่มอยากจะรู้แล้วสิว่า
กองทุนอินฟาฯ มีอะไรดีบ้าง??
1. เป็นกองทุนปิด นำไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซื้อขายได้เหมือนหุ้น
2. ขนาดกองทุน ขั้นต่ำ 2,000 ล้านบาท
3. รูปแบบการลงทุน มี 2 ทาง
- ลงทุนทางตรง คือ ซื้อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ หรือสิทธิการเช่า เป็นต้น
- ลงทุนทางอ้อม คือ เข้าถือหุ้นบริษัทที่ทำโครงสร้างพื้นฐานมากกว่า 75% ของจำนวนหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้ว
4. รายได้กองทุน มาจากรายได้การดำเนินงานในอนาคต เช่น เก็บค่าผ่านทาง, เก็บค่าไฟ, เก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้า เป็นต้น
5. ผลตอบแทน เหมือนหุ้น แต่ไม่เสียภาษี
- เงินปันผล ก.ล.ต กำหนดให้จ่ายไม่ต่ำกว่า 90% ของกำไรสุทธิที่ปรับปรุงแล้ว ไม่ต้องเสียภาษี เป็นเวลา 10 ปีต่อเนื่องนับตั้งแต่จดทะเบียนจัดตั้งกองทุน
- กำไรส่วนต่างราคา เหมือนหุ้น ไม่ต้องเสียภาษี
ว๊าว!!! ช่างสุดยอดจริงๆเลย แล้วกองทุนนี้มีความเสี่ยงมั้ยน๊า?? ห้ามหยุดอ่านเลยนะคะ
ประเด็นความเสี่ยงของกองทุนนี้
1. สินทรัพย์ที่กองทุนลง : ราคาจะมีโอกาสสูงขึ้นมั้ย? เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือสิทธิในการเช่าหรือเปล่า? (ยิ่งอายุสั้น ราคายิ่งลด)
2. รายได้ในอนาคต : เสี่ยงมั้ย? มีโอกาสโตขึ้นรึเปล่า?
3. ขนาดกองทุนใหญ่หรือเล็ก : บอกถึงสภาพคล่องเวลาซื้อ-ขาย
4. ผลตอบแทน : เทียบกับกองทุนแบบเดียวกันว่า ดีกว่ามั้ย?
ขอตัวอย่างสักนิด
1. BTSGIF ขนาดกองประมาณ 62,500 ล้านบาท รายได้มาจาก ค่าโดยสารรถไฟฟ้า
2. ABPIF ขนาดกองประมาณ 6,300 ล้านบาท รายได้มาจาก การขายไฟในนิคมอมตะ
3. DIF ขนาดกองประมาณ 58,000 ล้านบาท รายได้มาจาก ค่าเช่าเสาโทรศัพท์
4. JASIF ขนาดกองประมาณ 55,000 ล้านบาท รายได้มาจาก ค่าเช่าเส้นใยแก้วนำแสง
5. EGATIP ขนาดกองประมาณ 20,855 ล้านบาท รายได้มาจาก การขายไฟ
สรุป!! กองทุนอินฟาฯ ได้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ แต่ มีความเสี่ยงสูง ต้องเลือกดูสินทรัพย์ที่กองทุนไปลงว่าดีหรือไม่ และ ธุรกิจมีโอกาสสร้างรายได้เข้ามาสม่ำเสมอหรือไม่ นั่นหมายถึง เราจะได้เงินปันผลต่อเนื่องประมาร 5-10% จะได้ร้องเพลง สบาย สบาย ของพี่เบิร์ดเลยคะ
ผู้เขียน : นฤมล บุญสนอง CFP®