คลังชงแพคเกจครม.กระตุ้นเศรษฐกิจ – เติมเงินอีก 70,000 หมู่บ้าน อังคารนี้

คลังชงแพคเกจครม.กระตุ้นเศรษฐกิจ – เติมเงินอีก 70,000 หมู่บ้าน อังคารนี้

คลังชงแพคเกจครม.กระตุ้นเศรษฐกิจ – เติมเงินอีก 70,000 หมู่บ้าน อังคารนี้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คลังชงแพคเกจกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่อังคาร 29 มี.ค.นี้ ลดภาษีกิน เที่ยวหนุนเที่ยวไทย ปรับโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ให้เงิน 7 หมื่นหมู่บ้าน – ส่วนแจกเงินขยายไปกลุ่มเกษตรกรด้วยคาดทำพร้อมกับขรก-คนจน สรุปต้นเม.ย. พร้อมสั่งการ ธ.ก.ส.รับมือภัยแล้งที่่จะรุนแรงขึ้น

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในการประชุมครม.วันที่ 29 มีนาคมนี้ กระทรวงการคลังเสนอแพคเกจกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ ประกอบด้วย มาตรการลดหย่อนภาษีจากค่าใช้จ่ายในการการกิน เที่ยว ช่วงสงกรานต์ไม่เกิน 15,000 บาท และต่ออายุภาษีลดหย่อนภาษีจากการท่องเที่ยวในประเทศ 15,000 บาทที่หมดอายุไปเมื่อ 31 ธันวาคม 2558 ภาษีทั้ง 2 ตัวนี้จะช่วยทำให้คนไทยหันมาเที่ยวไทยมากขึ้น เนื่องจากรับสิทธิ์ลดหย่อยถึง 3 หมื่นบาท

แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า นอกจากนี้เสนอการปรับโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นการถาวรใหม่ ซึ่งจะเพิ่มค่าลดหย่อนส่วนบุคคลและค่าใช้จ่ายที่นำไปหักภาษีให้มากขึ้น รวมถึงปรับเงินได้แต่ละขั้นของการเสียภาษีให้กว้างขึ้น ซึ่งจะทำให้บุคคลธรรมดาจ่ายภาษีน้อยลง นอกจากนี้ยังมีเรื่องการเติมเงินลงไปในระดับหมู่บ้าน 7 หมื่นแห่ง เพื่อให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านนำไปใช้ในโครงการจ้างงาน ช่วยภัยแล้ง และกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก

แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า ส่วนในเรื่องการแจกเงินผู้มีรายได้น้อยและให้เงินข้าราชการชั้นผู้น้อยนั้น ไม่น่าจะเสนอทัน อังคาร 29 มีนาคม นี้ เนื่องจากต้องรอการโมเดลการขึ้นทะเบียนในส่วนของประชาชนก่อนว่าจะทำอย่างไร และนอกจากประชาชนทั่วไปแล้วรัฐบาลอยากให้ดูไปถึงกลุ่มเกษตรกรด้วย ซึ่งขณะนี้ผู้ที่เกี่ยวข้องกำลังหารือเพื่อสรุปกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและเกษตรกรนั้นควรเป็นกลุ่มใดบ้าง และจะมีการกำหนดรายได้เท่าใด ถ้าสรุปทันน่าจะเสนอครม.ช่วงต้นเดือนเมษายน

นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สถานการณ์ภัยแล้งปีนี้ที่คาดว่าจะรุนแรงขึ้นนั้นเตรียมรับมือไว้แล้ว แม้ที่ผ่านมาก็กระทรวงการคลังออกมาตรการช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ และในเร็วๆนี้ก็จะมีมาตรการเติมเงินให้กับผู้มีรายได้น้อย ซึ่งกลุ่มเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง ก็เป็นกลุ่มเป้าหมายหนึ่งของมาตรการนี้ด้วย ส่วนรายละเอียดของโครงการจะเป็นอย่างไรนั้น อยู่ระหว่างการนำเสนอรายละเอียดให้รัฐมนตรีว่าการกรทรวงการคลังพิจารณา

นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่าขณะนี้รัฐบาลก็อยู่ระหว่างเตรียมมาตรการเติมเงินให้กับผู้รายได้น้อย เกษตรกรที่ประสบภัยแล้งก็เป็นกลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับความช่วยเหลือ ส่วนจะเติมเงินแบบไหนและมีเกษตรกรจำนวนเท่าใดจะได้รับความช่วยเหลือนั้น คงจะใช้ฐานข้อมูลของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นหลัก และทางธ.ก.ส.จะนำเสนอข้อมูลในส่วนที่ธนาคารมีให้เป็นข้อมูลประกอบไปด้วย

นายลักษณ์ กล่าวว่า ธ.ก.ส.ได้ทำมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้งหลายมาตรการ ทั้งการขยายระยะเวลาคืนหนี้ การปลดเปลื้องหนี้สิน และการให้สินเชื่อฉุกเฉินเพื่อใช้จ่ายยามจำเป็น ป้องกันการพึ่งพิงหนี้นอกระบบ ซึ่งมีเกษตรการได้รับความช่วยเหลือไปแล้วมากกว่า 5 แสนราย มาตรการในช่วงแรกที่ออกมาส่วนใหญ่เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้เกษตรกรให้สามารถผ่านพ้นช่วงวิกฤติไปให้ได้ นอกจากมาตรการที่ได้ออกมาแล้ว กำลังดูอยู่ว่าจะมีส่วนอื่นมาเสริมอีกหรือไม่

” ธนาคารได้เร่งบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรที่ได้รับผลกระทบต่อรายได้ และการชำระหนี้ โดยส่งพนักงานลงพื้นที่เยี่ยมเยียนเพื่อให้กำลังใจ สอบถามปัญหาและกำหนดแนวทางแก้ไขร่วมกัน พร้อมทั้งจะพิจารณาขยายระยะเวลาในการชำระหนี้เดิมให้กับเกษตรกรที่ประสบปัญหาภัยแล้งออกไปอีกไม่เกิน 24 เดือนด้วย”นายลักษณ์ กล่าว

นายลักษณ์ กล่าวต่อว่า ในพื้นที่วิกฤติภัยแล้งในเขตชลประทานลุ่มน้ำเจ้าพระยา 22 จังหวัด กรณีเกษตรกรรายย่อยที่มีหนี้เงินกู้ไม่เกิน 500,000 บาท ผลผลิตได้รับความเสียหายหรือทำให้มีรายได้ลดลงมากกว่า 50% จากรายได้ปกติ ธนาคารจะพิจารณาปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ให้ 3% ต่อปี ซึ่งคาดว่าเกษตรกรจะได้รับประโยชน์จากโครงการดังกล่าวทั้งสิ้น 415,176 ราย จำนวนสินเชื่อ 59,832 ล้านบาท จำนวนดอกเบี้ยที่ได้รับการลดทั้งสิ้น 1,792 ล้านบาท

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook