ดูชัดๆ! ลดหย่อน"ภาษีสงกรานต์" และ ท่องเที่ยวได้จากอะไร ใครได้เท่าไร..?
มาดูกันแบบชัดๆอีกครั้ง มาตรการลดหย่อนภาษีกระตุ้นการท่องเที่ยวและสนับสนุนการประชุมสัมมนา ที่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ 15,000 บาท และ มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวและอบรมสัมมนา ที่นำมาหักลดหย่อนภาษีได้อีก 15,000 บาท ใครมีสิทธิบ้างและมีเงื่อนไขอย่างไร
เริ่มต้นจาก มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตามข้อเสนอของกระทรวงการคลัง หรือที่เรียกกันว่า “มาตรการภาษีสงกรานต์”
ผู้ที่มีสิทธิใช้ประโยชน์ในการลดหย่อนภาษีคือ ...
ผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา นั้นหมายถึง ต้องเป็นบุคคลที่อยู่ในระบบภาษีของกรมสรรพากร
สำหรับค่าใช้จ่ายที่นำมาหักลดหย่อนประกอบด้วย 3 ส่วน คือ
1.ค่าอาหารและเครื่องดื่มแต่ไม่รวมถึงการซื้อสุรา เบียร์ และไวน์ที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารภัตตาคาร หรือผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม
2.ค่าบริการที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ หรือ
3.ค่าที่พักในโรงแรมที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม
หักเป็นค่าลดหย่อนในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่รวมกันทั้งหมดแล้วไม่เกิน15,000 บาท
ทั้งนี้ต้องซื้อสินค้าหรือรับบริการและชำระราคาค่าสินค้าหรือบริการดังกล่าวในระหว่างวันที่ 9-17 เม.ย.59 จากผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มและต้องมีหลักฐานการซื้อสินค้าหรือรับบริการเป็นใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปตามมาตรา 86/4แห่งประมวลรัษฎากร
ชัดเจนครับว่าเงื่อนไขสำคัญที่พลาดไม่ได้คือ ค่าอาหารและเครื่องดื่ม ในร้านอาหาร ซึ่งต้องเป็นร้านที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และต้องมีใบกำกับภาษีเต็มรูปตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร และต้องเป็นการกินและเที่ยวในประเทศและ เป็นค่าใช้จ่ายเฉพาะช่วง 9- 17 เม.ย.59 นะครับ
ขอบคุณภาพประกอบจากwww.aommoney.com
มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวและจัดอบรมสัมมนาภายในประเทศ
ผู้ที่สามารถใช้สิทธิ ลดหย่อนภาษีแยก เป็น 2 ส่วนครับ
1 ผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
-ค่าใช้จ่ายจากการจ่ายเป็นค่าบริการให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์
-รายจ่ายเป็นค่าที่พักในโรงแรมให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม
เฉพาะการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ
นำมาหักเป็นค่าลดหย่อนภาษีได้เท่าที่จ่ายจริงแต่ต้องไม่เกิน15,000 บาท
ตั้งแต่วันที่ 1ม.ค.- 31ธ.ค.59
2 บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ที่มีการจัดโครงการอบรมสัมมนาภายในประเทศให้แก่ลูกจ้าง
-ทั้งกรณีที่ดำเนินการเอง
-จ้างผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์
สามารถนำรายจ่ายจากการจ่ายค่าห้องสัมมนาค่าห้องพัก ค่าขนส่งหรือรายจ่ายอื่นที่เกี่ยวข้องรวมถึงรายจ่ายที่ได้จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์เพื่อการอบรมสัมมนาดังกล่าว นำมาหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณภาษีได้เป็นจำนวน 2 เท่าของที่จ่ายจริง
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1ม.ค.-31ธ.ค.59
มาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวและสนับสนุนการประชุมสัมมนา ถือเป็นมาตรการเดิมที่นำมาใช้ต่ออีกในปีนี้ ที่ชัดเจนคือ ในส่วนบุคคลธรรมดา มีสิทธิหักลดหย่อนภาษีจากมาตรการทั้ง 2 มาตรการ รวมไม่เกิน 30,000 บาท ส่วนนิติบุคคลหักค่าใช้จ่ายได้ 2 เท่า นะครับ เงื่อนไขสำคัญคือ ใบกำกับภาษีเต็มรูปห้ามพลาดเด็ดขาดครับ