คุณกำลังเสียเงินมากเพราะลูก ๆ อยู่หรือเปล่า ??

ทุกคนรู้ดีว่าหากเรามีลูก นั่นคือการที่เราต้องเสียเงินอย่างมากมายมหาศาล ทั้งค่ากิน ค่าอยู่ ค่าเสื้อผ้า รวมถึงค่าใช้จ่ายยามพวกเขาเล่าเรียนอีกด้วย อย่างไรก็ตาม คนเป็นพ่อเป็นแม่ก็ย่อมจะยินดีจ่ายค่าต่าง ๆ เหล่านั้นอยู่แล้ว

แต่ในทางกลับกัน เราพบว่าพ่อแม่บางคนก็มักใช้จ่ายกับลูกของพวกเขาเกินความจำเป็น อย่างเช่นซื้อของเล่นให้มากเกินไป รวมถึงจัดงานวันเกิดให้ลูกแบบอลังการหรูหรา ซึ่งการทำเช่นนี้มันเป็นการเฉือนเงินของคุณออกไปโดยไม่มีประโยชน์ แถมยังเป็นการปลูกฝังการใช้เงินที่ไม่ดีให้ลูกคุณอีกด้วย วันนี้ MoneyGuru.co.th จึงนำตัวอย่างพฤติกรรมของพ่อแม่ที่ใช้เงินเกินความจำเป็น และวิธีการแก้ไขมาฝากคุณผู้อ่านค่ะ

1. คุณทำให้ตัวเองมีความเสี่ยง
มันเป็นธรรมดาของคนเป็นพ่อแม่ ที่ชอบซื้อของหรือทำอะไรเพื่อลูก ๆ ของพวกเขาอยู่แล้ว แต่หากคุณใช้จ่ายเพื่อลูก ๆ ของคุณมากไป มันก็จะทำให้พวกเขาไม่เห็นความสำคัญของสิ่งของที่คุณซื้อให้ และมันยังทำให้คุณเสี่ยงต่อวิกฤตทางการเงินอีกด้วย

นอกจากนี้ จากการสำรวจยังพบอีกว่า เกือบ 3 ใน 4 ของผู้ปกครองไม่ได้มีเงินสำรองฉุกเฉินครอบคลุมถึง 3 เดือน และครึ่งหนึ่งของผู้ปกครองไม่ได้มีเงินออมใด ๆ เลย แทบไม่ต้องคิดต่อว่าผู้ปกครองหลาย ๆ คนนั้นไม่มีเงินออมฉุกเฉินถึง 6 เดือนแน่นอนค่ะ

แล้วฉันต้องมีเงินออมสำรองฉุกเฉินเท่าไหร่?
● ผู้ปกครองทุกคนควรแบ่งรายได้เข้าการออมเพื่อการเกษียณ 44%
● ควรแบ่งรายได้เพื่อจ่ายหนี้ 17%
● ควรแบ่งรายได้เพื่อใช้จ่ายในวันหยุด 17%
● ควรแบ่งรายได้เพื่อค่าใช้จ่ายต่อวัน 15%

2. คุณไม่เคยปฏิเสธ
นี่ไม่ได้หมายความว่าเราอยากจะให้คุณปฏิเสธลูกคุณทุกเรื่อง แต่หากคุณปฏิเสธคำขอร้องจากลูกคุณที่อยากจะให้คุณซื้อของเล่นให้ เราอยากให้คุณบอกเหตุผลกับเด็ก ๆ ด้วยค่ะ โดยการบอกสาเหตุว่าทำไมคุณถึงซื้อให้ไม่ได้

นอกจากนี้ หากลูก ๆ คุณซนหรือชอบทะเลาะเบาะแว้งกันเอง คุณอาจใช้วิธีบอกว่าคุณจะไม่ซื้อของให้ ถ้าพวกเขายังทะเลาะกัน วิธีนี้จะทำให้พวกเขาหยุดทะเลาะกันได้ และในทำนองเดียวกัน คุณยังสามารถเตือนลูก ๆ ของคุณในการใช้เงินของพวกเขาได้ด้วย เช่น เตือนว่าถ้าเขาซื้อเกม เขาจะไม่ได้หนังสือที่เขาอยากได้นะ เพราะเงินจะไม่พอ เป็นต้น

การใช้จ่ายเงินกับเด็ก ๆ อาจจะเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับผู้ปกครอองหลาย ๆ คนนะคะ แต่มันจะไม่เป็นเรื่องเล็กแน่นอนค่ะ หากมันทำให้คุณไม่มีเงินเก็บหรือทำให้คุณเป็นหนี้

อ้างอิง: Time