อยากรวยต้องรู้ ! หลักประกันแห่งความสำเร็จ

อยากรวยต้องรู้ ! หลักประกันแห่งความสำเร็จ

อยากรวยต้องรู้ ! หลักประกันแห่งความสำเร็จ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ขึ้นชื่อว่ามั่งมีมีเงินมากหรือที่เรียกว่ารวย ใคร ๆ ก็อยากมี ก่อนอื่นต้องเข้าใจความรวยก่อนว่ามีแค่ไหนถึงจะเรียกว่ารวย เพื่อได้ตั้งเป็นเป้าหมายการทำงานของตัวเองได้ ความรวยนั้นเป็นสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรเปรียบเทียบและไม่ควรแข่งขัน อย่างนั้นเรียกความไร้สติ และความรวยก็ไม่สามารถจำกัดได้ที่ความพอใจของตัวเราเองในขณะใดขณะหนึ่ง เพราะถ้าหากวันหนึ่งที่เรามีทรัพย์สินรวมร้อยล้าน เราอาจคิดว่าไม่รวยพอ เพราะความพอใจเมื่อตอนนั้นเปลี่ยนไป ความต้องการมีมากขึ้นไปอีก

และก็อีกเช่นกันว่า ความรวยของเราไม่ต้องการตัวเลขทางการเงินที่มั่นคง แต่ต้องการความสุขอย่างพอดีพอมีพอกินพอเลี้ยงชีพได้อย่างนั้นก็ไม่ใช่คำจำกัดความของความรวยกล่าวถึงในบทความนี้ ความรวยที่มีความหมายโดยทั่วไป คือการมีฐานะการเงินที่มั่นคง สามารถสร้างอิสระทางการเงินให้กับผู้เป็นเจ้าของได้ในทุก ๆ มิติ ทั้งชีวิตความเป็นอยู่ สังคม ลูกหลาน พ่อ แม่ ญาติพี่น้อง รวมถึงมิติด้านสุขภาพและการท่องเที่ยวพักผ่อนด้วย ทั้งนี้ขึ้นกับการกำหนดรับรู้ด้วยตัวเราเองทั้งสิ้น ว่าแค่ไหนจึงเรียกว่ามั่นคง

เมื่อรู้และมีคำจำกัดความของความรวยของตัวเองแล้ว ก็ต้องรู้จักความสำเร็จในการงานที่ทำเสียก่อน เพราะนั่น เป็นแหล่งหารายได้และเป็นหลักประกันความรวยให้กับเราจริง ๆ เมื่อเรารู้เป้าหมายของความรวยที่ตั้งใจไว้ เราจะต้องทำการพิจารณาไตร่ตรองว่างานที่เราทำอยู่นั้น สามารถทำให้เราถึงเป้าหมายความรวยนั้นได้หรือไม่

ทั้งนี้ ต้องไม่ลืมใส่ปัจจัยด้านอื่นที่นอกเหนือจากปัจจัยด้านรายได้ลงไปพิจารณาด้วย เช่น งานที่ทำสามารถตอบโจทย์เรื่องเวลาของเราได้หรือไม่ มีความเสี่ยงมากน้อยเพียงใด ถ้ามีความเสี่ยงมากแต่ก็มีรายได้ที่สูง เราจะหาทางอุดช่องความเสี่ยงต่าง ๆ นั้นได้อย่างไร ปัจจัยพิจารณา มีมากมายแต่ละบุคคลย่อมมีความแตกต่างกัน ทั้งนี้ ในการพิจารณาประเภทงาน ก็ขอให้พิจารณาให้รอบด้านด้วย


เมื่อรู้เป้าหมายความรวย รู้ว่างานที่ทำมีกำลังมากพอดันให้เราไปสู่ความรวยนั้นได้ ที่เหลือก็เป็นเรื่องของ การลงมือทำ และการจัดการสิ่งที่เกี่ยวข้อง การเริ่มลงมือทำงานให้ประสบความสำเร็จได้ อาศัยประสบการณ์ ความรู้ ความสามารถ ความรอบด้าน จังหวะและโอกาส แต่ก่อนเริ่มลงมือทำ จะต้องอาศัยปัจจัยสำคัญดังต่อไปนี้


Feasibility / Financial เป็นการตรวจสอบความเป็นไปได้ทางธุรกิจ เขียนแผนการเงิน โครงสร้างราคา ต้นทุนทั้งหมด ประเมินยอดขาย ประเมินเงินลงทุน แหล่งทุน ต้องใส่ปัจจัยด้านการเงินทั้งหมดให้ครบถ้วน โดยอาจต้องปรึกษากับผู้จัดการธนาคารด้านสินเชื่อ เพื่อช่วยประเมินแผนธุรกิจและความเป็นไปได้ การทำ Feasibility ไม่สามารถทำได้เสร็จภายใน 3-4 ครั้ง แต่อาจต้องแก้เป็นสิบ ๆ ครั้ง ทั้งนี้ ต้องทำควบคู่กับแผนการตลาด Marketing Oreintation / Business Plan ด้วยเสมอ

Marketing Orientation / Business Plan เป็นการศึกษาธุรกิจทำ ต้องศึกษา Potential Customer ศึกษาพฤติกรรมการบริโภค หากเป็นธุรกิจประเภทบริการก็ต้องศึกษาเรื่องทำเล ต้องดู Traffic การสร้างดีมานด์ในชุมชน และแผนการเข้าถึงกลุ่มลูกค้า ด้วยการประชาสัมพันธ์ตามสื่อต่าง ๆ ด้วย เมื่อศึกษาแล้วก็ต้องกลับไปเช็ค Feasibility ด้วยเสมอ
หลังจากผ่านสองข้อนี้ข้างต้น เราจะสามารถเริ่มการทำงานด้วยความมั่นใจ และมีตัวชี้วัด แต่ทุก ๆ การเคลื่อนไหวด้านธุรกิจ ย่อมต้องอาศัยความสามารถในการจัดการกับปัญหา และแก้ไขให้ทันท่วงทีกับตลาดด้วย ซึ่งจะต้องอาศัยปัจจัยอีก 2 ส่วนนั่นคือ


Customer Orient / Feedback / Satisfaction คือ ต้องสังเกตและรับฟังข้อมูลทั้งทางตรงและทางอ้อมที่ได้จากลูกค้า การมีใบสำรวจความคิดเห็นอาจใช้ได้กรณีที่เป็นร้านอาหาร แต่ธุรกิจบางประเภทจำเป็นต้องใช้วิธีที่ซับซ้อนกว่านั้น การเฝ้าสังเกต พูดคุยโดยตรงหรือถามจากพนักงานอาจได้รับคำตอบที่ค่อนข้างจะ bias (อคติ) อาจทำให้เราตัดสินใจเดินหน้าต่ออย่างผิดพลาดได้ เพราะลูกค้าอาจเกรงใจจึงไม่กล้าพูดตรง ๆ ทำให้เราอาจเข้าใจผิดกับข้อมูลที่ลูกค้าให้ ผู้เป็นเจ้าของจะต้องดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อจะได้วิเคราะห์ข้อมูล Feedback ได้อย่างถูกต้อง

การเพิ่มหนังสือสำหรับผู้ชายในร้านทำผมผู้หญิง อาจทำให้การรอของคุณผู้ชาย ในขณะที่พนักงานให้บริการทำผมให้คุณผู้หญิงลดภาวะการกดดันและเกิดการซื้อซ้ำ (Re-buy) ได้มากขึ้น และถ้าหากปัจจัยหลายอย่างอำนวย ผู้เป็นเจ้าทำผมนี้ อาจมีตู้แช่บริการเครื่องดื่มเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็อาจเพิ่มรายได้ ๆ อีกช่องทางหนึ่ง ข้อควรระวังคือ อย่าให้ธุรกิจรองหรือธุรกิจเสริม มาทำให้ธุรกิจหลักมีผลกระทบ เช่นการมีตู้กดไอศกรีม ในร้านเสริมสวย อาจทำให้ร้านขาดความเป็นมืออาชีพไปในทันที


Learning การเรียนรู้จำเป็นเสมอทุกช่วงเวลาของการทำงาน แม้แต่ในช่วงเวลาที่ยุ่ง และมีปัญหามากที่สุด การเรียนรู้ก็ไม่สามารถหยุดได้ การเรียนรู้ในที่นี้หมายถึงการหาความรู้ใส่ตัวทั้งที่เกี่ยวกับงานและไม่เกี่ยวกับงาน ส่วนใหญ่ได้จากการอ่านเป็นหลัก การพูดคุยกับเพื่อนฝูงในแวดวงธุรกิจ อาจช่วยให้เกิดแนวทาง และช่วยในแง่การจัดการงานในหลาย ๆ เรื่อง แต่การหาความรู้เชิงลึกเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะเมื่อมีฐานความรู้รอบอยู่กับตัว เราก็จะสามารถปรับตัวกับความเปลี่ยนแปลง ในกระแสธุรกิจได้ดีกว่า


ความรวยมักไม่เกิดกับการเป็นพนักงานประจำ การเป็นพนักงานประจำที่มีเงินเดือนสูงมาก ๆ อาจเป็นหลักประกันความรวยด้วยการมีทุนเพื่อเอาไว้ต่อทุน แต่นั่นอาจไม่ใช่ที่ ๆ ทุกคนจะยืนอยู่ การมีข้อจำกัดทั้งในแง่เงินทุนและเวลา กลับไม่ใช่ปัญหาสำหรับผู้ที่ตระหนักรู้ว่าตนเองกำลังจะทำอะไรอย่างไร และเพื่อเป้าหมายใด ความชัดเจนในความคิด ความมุ่งมั่น การวางแผนในสิ่งที่กำลังทำและลงมือทำตามแผน รวมถึงมีการจัดการให้งานบรรลุตามแผนได้อย่างรอบคอบแล้ว นั่นต่างหากคือสิ่งที่ประกันความสำเร็จอย่างแท้จริง

สำหรับผู้ที่ไม่มุ่งมั่น ไม่มีแผนงานและเป้าหมาย อุปสรรคน้อยนิดเพียงแค่การเริ่มต้น ก็สามารถล้มความตั้งใจอยากรวยไปได้โดยง่าย ความกล้าเริ่มทำอย่างชาญฉลาดและมีหลักการ เป็นการสร้าง ความมั่นใจเริ่มธุรกิจได้อย่างดีที่สุด

Advertorial

สนับสนุนเนื้อหาโดย MoneyHub

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook