ปตท. รุก PTT Compact ปูพรมปั๊มโมเดลใหม่ทั่วประเทศ

ปตท. รุก PTT Compact ปูพรมปั๊มโมเดลใหม่ทั่วประเทศ

ปตท. รุก PTT Compact ปูพรมปั๊มโมเดลใหม่ทั่วประเทศ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้โหมขยายจำนวนสถานีบริการน้ำมันขนาดยักษ์ใหญ่ภายใต้แนวคิด PTT Life Station ไปตามถนนสายหลักทั่วประเทศ ท่ามกลางข้อสงสัยของบริษัทน้ำมันคู่แข่งโดยเฉพาะเมเจอร์ออยล์ Brand ต่างประเทศที่ว่า ด้วยเงินลงทุนจำนวนมหาศาลมากกว่า 50-60 ล้านบาทต่อ 1 สถานีบริการน้ำมัน (ไม่รวมค่าที่ดิน) การประกอบธุรกิจปั๊มน้ำมัน ปตท.จะไปรอดหรือไม่ ?


บัดนี้ เมเจอร์ออยล์ ต่างได้รับคำตอบแล้วว่า กลยุทธ์ Life Station หรือความเป็นมากกว่าสถานีบริการน้ำมัน ที่เพียบพร้อมไปด้วยร้านสะดวกซื้อ 7eleven-ร้านกาแฟ Amazon-Jiffy-ศูนย์บริการรถยนต์ PRO Check-ร้านอาหาร/เบเกอรี่แบรนด์ดัง และการให้บริการทางการเงิน สามารถดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคให้เลี้ยวเข้ามาใช้สารพัดบริการที่นอกเหนือจากการเติมน้ำมันที่ปั๊ม ปตท. อย่างถล่มทลาย "เหนือกว่า" คู่แข่งสถานีบริการน้ำมันแบรนด์อื่นๆส่งผลให้เกิดสถานีบริการน้ำมัน ปตท.ผุดขึ้นในถนนสายหลักทั่วประเทศ "ล้ำหน้าคู่แข่ง" ที่มัวแต่ตื่นตะลึงกับปรากฏการณ์ "เมก้าปั๊ม ปตท." สร้างยอดขายปลีกให้กับ ปตท.อย่างเป็นกอบเป็นกำ

จนมาเมื่อ 1-2 ปีที่ผ่านมา บรรดาเมเจอร์ออยล์ต่างประเทศถึงได้ขยับตัวปรับเปลี่ยนรูปโฉมตัวสถานีบริการน้ำมันเป็นขนาดใหญ่ยักษ์กันบ้าง ไม่ว่าจะเป็น เชลล์-เอสโซ่-คาลเท็กซ์ พร้อมสรรหาธุรกิจ Non Oil เข้ามาสู่ปั๊มของตัวเอง หวังให้เกิดการแข่งขันกับปั๊ม ปตท.

ทว่า มาปีนี้ ปตท.กลับรุกเข้าสู่ถนนสายรอง หลังอิ่มตัวกับปรากฏการณ์ "เมก้าปั๊ม" บนถนนสายหลัก ประกาศพลิกโฉมปั๊มน้ำมันบนถนนเชื่อมระหว่างจังหวัดกับอำเภอ หรืออำเภอกับอำเภอ ด้วยรูปโฉมใหม่ PTT Compact Model ล้ำหน้าคู่แข่งเมเจอร์ออยล์ไปอีกก้าวหนึ่งแล้ว

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากความสำเร็จของ PTT Life Station ที่ตอกย้ำความเป็นหนึ่งของการให้บริการสถานีบริการน้ำมันแบบ One Stop Service "เพียงแวะเข้ามาที่ปั๊ม ปตท. คุณก็จะได้พบกับสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน" จากจำนวนปั๊ม ปตท.รวม 1,450 แห่งทั่วประเทศ มาปีนี้ ปตท.ตั้งเป้าที่จะขยายปั๊มน้ำมัน ปตท.ให้ครบ 2,000 แห่ง ภายในสิ้นปี 2559

แต่ที่สำคัญคือ ในจำนวนปั๊ม ปตท.ที่จะเปิดใหม่ในปีนี้อย่างน้อย 50 ปั๊ม จะเป็นสถานีบริการน้ำมันรูปโฉมใหม่ที่เรียกว่า PTT Compact Model หรือปั๊มน้ำมัน ปตท.ขนาดเล็ก ใช้พื้นที่ 1-2 ไร่ ตั้งอยู่บนถนนสายรองที่เชื่อมระหว่างจังหวัดกับตัวอำเภอ เพื่อเปิดพื้นที่ใหม่ให้กับปั๊มน้ำมัน ปตท. แทนที่จะแย่งกันตั้งบนถนนสายหลักที่ปัจจุบันเริ่ม "แน่น" แล้วปั๊ม PTT Compact จะใช้ สูตร 3 : 1 หรือสามสถานีบริการน้ำมันขนาดเล็กเท่ากับ 1 สถานีบริการน้ำมันใหญ่ ตรงนี้จะช่วยลดการลงทุนลงได้ 1 ใน 3 ขนาดที่ยอดขายก็จะอยู่ที่ 1 ใน 3 ของสถานีบริการขนาดใหญ่ด้วยเช่นกัน

เบื้องต้นวางเอาไว้ว่า ปั๊ม PTT Compact จะเริ่มต้นการลงทุนที่ประมาณ 15 ล้านบาทต่อแห่ง (ไม่รวมค่าที่ดิน) บริการพื้นฐานที่จะต้องมีก็คือ 7eleven กาแฟ Amazon และการขายน้ำมันชนิดหัวจ่ายที่เหมาะสมกับพื้นที่นั้น ๆ

"เราตั้งเป้ายอดขายสำหรับปั๊ม Compact Model ไว้ประมาณ 200,000-300,000 บาท/เดือน ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นต้องมียอดขายที่ประมาณ 30,000 บาท กาแฟอเมซอน 100 แก้ว/วัน เป็นโจทย์ที่ให้คนออกแบบปั๊มดูคือ ยอดขายเท่านี้จะดีไซน์อย่างไร เพราะมีนักลงทุนในพื้นที่ที่ต้องการลงทุนปั๊มน้ำมันกับ ปตท. แต่ลงเงินไม่ไหว มันสูงเกินไป เราก็มีปั๊ม Compact ในถนนสายรองให้เป็นทางเลือก นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริม SMEs ในท้องถิ่น ที่จะนำผลิตภัณฑ์เข้ามาจำหน่ายในปั๊ม Compact ด้วย" นายอรรถพลกล่าว

โดยปั๊ม PTT Compact แห่งแรกจะเปิดตัวที่จังหวัดสระบุรี ในอีก 2 เดือนข้างหน้านี้ เพื่อเติมเต็มความต้องการใช้น้ำมันที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 10% จากสถานการณ์น้ำมันมีราคาถูกลง หรือโตมากกว่า GDP เสียอีก ซึ่งจัดเป็นผลดีต่อผู้บริโภค จากภาพรวมแม้จะดูว่าสถานีบริการน้ำมันมีเยอะเกินไปหรือไม่นั้น "ตลาดก็จะเป็นตัวตอบ เพราะตอนนี้ดีมานด์ยังโต และ ปตท.มั่นใจใน Business Model ของเราว่าจะเป็นผู้นำในการแข่งขัน เป็นทางเลือกในการให้บริการที่หลากหลายกับผู้บริโภค"

ขณะที่ นายยอดพงษ์ สุตธรรม กรรมการและผู้จัดการตลาดขายปลีก บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มองปรากฏการณ์ PTT Compact ที่กำลังจะเกิดขึ้นว่า จะยิ่งเพิ่มการแข่งขันในตลาดค้าปลีกน้ำมันให้รุนแรงมากขึ้น เพราะก่อนหน้านี้ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด(มหาชน) เจ้าของแบรนด์น้ำมัน "PT" ได้ขยายจำนวนสถานีบริการน้ำมันอย่างต่อเนื่อง และมีจำนวนปั๊มใกล้เคียงกับ ปตท.แล้ว ทำให้ ปตท.ในฐานะเจ้าตลาดต้องเร่งขยายสถานีบริการน้ำมันให้มากขึ้น เพื่อรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดเอาไว้ โดยเฉพาะสถานีบริการน้ำมันขนาดเล็กที่ลงทุนไม่มาก ทำให้นักลงทุนในแต่ละพื้นที่สนใจที่จะเข้ามาลงทุน "เอสโซ่ยังคงเป้าหมายเดิมที่จะขยายสถานีบริการเพิ่มขึ้นอีก 30 แห่งภายในปีนี้"

ล่าสุดมีรายงานจากกรมธุรกิจพลังงาน แจ้งจำนวนสถานีบริการน้ำมันของผู้ค้า มาตรา 7 แบ่งเป็น ปตท. 1,578 แห่ง พีทีจี 1,150 แห่ง บางจาก 1,072 แห่ง เชลล์ 491 แห่ง เชฟรอน (คาลเท็กซ์) 362 แห่ง และเอสโซ่ 534 แห่ง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook