อยากยกเลิกประกันชีวิต มีทางเลือกไหนไม่ให้เงินขาดทุน

อยากยกเลิกประกันชีวิต มีทางเลือกไหนไม่ให้เงินขาดทุน

อยากยกเลิกประกันชีวิต มีทางเลือกไหนไม่ให้เงินขาดทุน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

การทำประกันชีวิตเป็นการวางแผนที่ปลอดภัยให้กับเราและครอบครัว กับสิ่งที่ไม่แน่นอนที่จะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า ซึ่งเป็นอนาคตที่เราคาดการณ์ไม่ได้ว่าจะเกิดอะไรกับเรา แต่เราควรเลือกทำที่เหมาะสมกับฐานะทางการเงินของเราด้วย ว่าให้มีกำลังที่จะส่งเบี้ยประกันของการประกันชีวิต เพื่อความปลอดภัยของครอบครัวเราด้วย และภาระทางด้านการเงินที่เราจะสามารถส่งเบี้ยประกันชีวิตได้ตลอดระยะเวลาที่ทำประกันชีวิต ซึ่งก็เป็นระยะเวลายาวนานเป็น 10 ปีเลยก็ว่าได้ ที่เราต้องส่งให้ครบกำหนดตามกรมธรรม์ประกันชีวิตของแต่ละประเภท หรือของแต่ละบริษัทประกันชีวิตที่มีอยู่หลายบริษัทด้วยกันให้เราเลือกทำได้อย่างพอใจ


การส่งประกันชีวิตไม่ไหวก็เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างบ่อยครั้งที่เกิดกับคนทั่วไปได้ เพราะในอนาคตก็อาจจะส่งประกันชีวิตไม่ไหว สาเหตุก็มาจากหลายสาเหตุอย่างเช่นออกจากงานไม่ได้ทำงานแล้วก็ไม่มีเงินเดือนเพียงพอที่จะส่งประกันชีวิต หรือมีภาระหนี้สินจากการเจ็บป่วยต้องใช้เงินในการรักษาตัวเอง คนในครอบครัว พ่อแม่ ภรรยาหรือลูกของเราอย่างด่วนก็มี หรืออาจจะมีภัยต่างๆ เช่นไฟไหม้ น้ำท่วม ทำให้บ้านเรือนทรัพย์สินของเราต้องเสียหายจำเป็นต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก ก็ทำให้เกิดปัญหาเรื่องการส่งประกันชีวิตไม่ไหวของเราได้ ทางเลือกในการใช้แก้ปัญหาก็มีอยู่หลายทางให้เราเลือกใช้แก้ไขปัญหามีดังนี้


1.ขอขยายระยะเวลาของกรมธรรม์ออกไป ข้อนี้จะเป็นการดีสำหรับเราที่ส่งประกันชีวิตไม่ไหวตรงที่กรมธรรม์ก็ยังคุ้มครองตามสัญญาอยู่ คือถ้าเราเสียชีวิตญาติเราก็ยังได้รับเงินประกันชีวิตของเราอยู่ตามกรมธรรม์ แต่เราต้องมีเงินส่งเบี้ยประกันชีวิตต่อให้ได้ ถ้าวันข้างหน้าไม่นานจนเกินไปเราก็ส่งเบี้ยประกันชีวิตต่อไป แต่ทั้งนี้การขอขยายเวลาของกรมธรรม์ออกไปนั้น จะต้องมั่นใจด้วยว่าคุณจะสามารถจ่ายเบี้ยประกันตามกำหนดได้ และไม่เกิดปัญหาการจ่ายเบี้ยประกันไม่ไหว ยิ่งกว่าเดิมนั่นเอง


2.ขอลดทุนประกันชีวิต คือเราส่งประกันชีวิตไม่ไหว ก็ขอส่งต่อในวงเงินน้อยลง โดยติดต่อเจ้าหน้าที่ที่ทำประกันชีวิตกับเรา แล้วขอตัดเงื่อนไขบางข้อ หรือลดสิทธิบางประการที่ไม่จำเป็นหรือที่เราพอใจ ข้อนี้ก็ทำให้เราส่งเบี้ยประกันน้อยลงมา เอาตามที่เราพอรับภาระในการส่งเบี้ยประกันต่อเดือนโดยไม่เดือนร้อน และสัญญากรมธรรม์ก็ยังใช้ได้อยู่ คือยังคุ้มครองเหมือนเดิน แต่ทุนประกันชีวิตที่เราจะได้รับนั้นก็น้อยลงตามมากด้วย ซึ่งนี่ก็เป็นอีกหนทางหนึ่งที่ดีสำหรับผู้ที่จ่ายเบี้ยประกันไม่ไหวมากทีเดียว ใครที่รู้ตัวว่าคงจ่ายเบี้ยประกันไม่ไหวซะแล้ว ก็ลองขอลดทุนประกันดู


3.ขอเปลี่ยนงวดการส่งเบี้ยประกันชีวิต ถ้าเราส่งประกันชีวิตไม่ไหว จากโดยส่วนใหญ่บริษัทประกันชีวิตแต่ละบริษัทจะมีสัญญาให้ส่งเป็นรายปี เราก็ขอเปลี่ยนมาเป็น 1เดือน 3 เดือน 6 เดือน ก็ได้ถ้าบริษัทนั้นยินยอมข้อตกลงอันใหม่ เราก็ได้ประโยชน์ตรงที่ทยอยส่งเบี้ยประกันชีวิตในจำนวนเงินน้อย แต่ข้อเสียระยะเวลากระชั้นชิดลงมาอีก แต่ก็เป็นจำนวนที่น้อย ไม่เป็นก้อนใหญ่ เอาแบบทยอยส่งก็ดีไปอีกแบบหนึ่ง ตามความสามารถในการส่งเบี้ยประกันชีวิตของเราด้วย


4.ขอใช้เงินสำเร็จ คือไม่ต้องส่งเบี้ยประกันชีวิต กรมธรรม์ก็ยังคุ้มครองต่อ แต่ทุนประกันจะลดลง ถ้าเราส่งประกันชีวิตไม่ไหวจริงๆ ก็ข้อนี้เป็นทางออกที่ดีของการส่งประกันชีวิตไม่ไหว แต่ก็ต้องดูว่าบริษัทประกันภัยมีเงื่อนไขข้อนี้อยู่หรือไม่ เอาเป็นว่าหากคุณไม่สามารถส่งเบี้ยประกันตามกำหนดได้แล้ว ก็ให้ลองดูเงื่อนไขของประกันดูว่ามีข้อกำหนดในกรใช้เงินสำเร็จได้หรือไม่ ถ้าได้ก็จะช่วยลดการส่งประกันได้ไม่น้อยเลยทีเดียว


5.ขอกู้กรมธรรม์ เป็นการกู้เงินในวงเงินตามอัตราที่เราส่งเบี้ยประกันชีวิตไปแล้วเท่าใด ก็จะกู้ได้ กี่เปอร์เซ็นต์ของเงินที่ส่งไปหรือตามเรททุนประกันได้กี่เปอร์เซ็นต์ตามแต่ละบริษัทประกันชีวิตจะมีเงื่อนไขกำหนดไว้ไม่เหมือนกันในแต่ละบริษัท ซึ่งวิธีนี้ก็เป็นอีกวิธีที่น่าสนใจไม่น้อยเลย ใครที่ไม่สามารถจ่ายเบี้ยประกันได้ทัน ก็ลองใช้วิธีนี้กันดู


6.ขอเวนคืนกรมธรรม์ ก็เป็นการที่ไม่ต้องส่งเบี้ยประกันชีวิตแล้วต่อไป คือ ยกเลิกสัญญา แต่ได้เงินคืนน้อยมาก แต่ก็ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย เป็นทางออกสุดท้ายของการส่งประกันชีวิตไม่ไหว


การทำประกันชีวิตก็เป็นสิ่งจำเป็น เพราะเป็นการวางแผนชีวิตและการเงินไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัย ไม่มีอะไรแน่นอน ถ้าเราเสียชีวิตก็ยังมีเงินมาช่วยเหลือ หรือให้ญาติรับเงินต่อไป โดยเฉพาะครอบครัวเราไม่ได้รับความเดือดร้อนอย่างน้อยลง แต่การส่งประกันชีวิตไม่ไหวก็เป็นปัญหาอยู่ไม่น้อย เพราะต้องรับภาระส่งเบี้ยประกันชีวิตในระยะยาวนานหลายปี โดยในระหว่างระยะเวลาในการส่งต้องมีเงินเพียงพอ และต่อเนื่องที่จะส่งเงินเบี้ยประกันชีวิตไม่ให้ขาดช่วงในการส่ง

แต่ถ้าเราส่งประกันชีวิตไม่ไหวจริงก็มีทางเลือกให้เราได้ใช้อย่างคุ้มค่า จากที่เราส่งไปแล้ว ตามเงื่อนไขของบริษัทนั้นทีแตกต่างกันไป เราก็พิจารณาเลือกให้เหมาะสมและได้ประโยชน์สูงสุดกับเราที่สุด

Advertorial

สนับสนุนเนื้อหาโดย MoneyHub

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook