เกียรติ เผย กูเกิล เตรียมตั้งสำนักงานสาขาในไทย
ประธานผู้แทนการค้าไทย เผย กูเกิล ได้ตัดสินใจที่จะเข้ามาจัดตั้งสำนักงานสาขาในประเทศไทยเร็วๆ นี้ เพื่อดูลู่ทางการจัดตั้งธุรกิจต่างๆ ในไทย
นายเกียรติ สิทธีอมร ประธานผู้แทนการค้าไทย (ทีทีอาร์) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทกูเกิล ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเว็บไซต์อันดับหนึ่งของโลก ได้ตัดสินใจที่จะเข้ามาจัดตั้งสำนักงานสาขาในประเทศไทยภายในเร็ว ๆ นี้ เพื่อดูลู่ทางการจัดตั้งธุรกิจต่าง ๆ ในไทยต่อไป ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีมากที่กูเกิลเลือกที่จะเข้ามาลงทุนที่ไทย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ที่ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญอย่างยิ่ง รวมทั้งยังได้ให้ข้อมูลสิทธิประโยชน์กับนักธุรกิจสหรัฐเกี่ยวกับการจัดตั้งสำนักงานปฏิบัติการภูมิภาค หรืออาร์โอเอช ในไทยที่จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีเป็นจำนวนมาก ซึ่งพบว่าได้รับความสนใจจากเอกชนสหรัฐเป็นจำนวนมาก
ส่วนความคืบหน้าการจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าและคลังสินค้าเกษตรไทย-บาห์เรน ล่าสุด ทีทีอาร์กำลังจัดทำรายละเอียดทั้งหมดให้แล้วเสร็จก่อนที่นายกรัฐมนตรีประเทศบาห์เรนจะเดินทางมาเยือนไทยอย่างเป็นทางการในปลายเดือน มิ.ย.นี้ ซึ่งเบื้องต้นจะมีกองทุนจากบาห์เรนเข้าร่วมทุนกับภาคเอกชนของทั้ง 2 ประเทศ เพื่อลงทุนก่อสร้างศูนย์กระจายสินค้าและคลังสินค้าที่ประเทศบาห์เรน โดยจะมีการกำหนดประเภทสินค้าเกษตรที่จะจัดส่งไปบาห์เรนให้ชัดเจนต่อไป ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีบาห์เรนจะจับคู่ธุรกิจให้กับเอกชนไทยที่จะเข้าไปลงทุนในบาห์เรนด้วย
ก่อนหน้านี้เมื่อปลายเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการลงนามในบันทึกข้อตกลง หรือเอ็มโอยู ระหว่างสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กับหอการค้าและอุตสาหกรรมของบาห์เรน ที่ประเทศบาห์เรน เพื่อขยายความร่วมมือการค้าและการลงทุนระหว่างกัน โดยเฉพาะการจัดตั้งไซโลสินค้าเกษตรไทย-บาห์เรน เพื่อความมั่นคงด้านอาหารของบาห์เรน โดยกองทุนมุมทาลากุท (mumtalakut) ของรัฐบาลบาห์เรน จะร่วมลงทุนกับภาคเอกชนของทั้งสองประเทศ เบื้องต้นมีวงเงินค่าก่อสร้าง 1,000 ล้านบาท รวมถึงจะมีการซื้อสินค้าจากไทย ในระยะแรกจะเป็นสินค้าเกษตรและอาหาร เช่น ข้าว น้ำตาล และสินค้าอาหารแปรรูปแช่แข็ง เป็นต้น โดยกำหนดเป้าหมายว่าต้องมีผลให้เป็นรูปธรรมที่ชัดเจนภายในปี 53 โดยไทยมีเป้าหมายจะใช้บาห์เรนเป็นประตูการค้าสู่กลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับ (จีซีซี) ซึ่งสมาชิกประกอบด้วย ซาอุดีอาระเบีย คูเวต กาตาร์ บาห์เรน โอมาน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
นอกจากนี้ ทีทีอาร์ยังพิจารณาถึงการลงทุนที่ศรีลังกา ซึ่งพบว่ามีโครงการลงทุนหลายโครงการที่เอกชนไทยสามารถเข้าไปร่วมลงทุนได้ โดยเฉพาะโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานที่พบว่าศรีลังกาได้เตรียมการก่อสร้างเป็นจำนวนมาก คาดว่ารายละเอียดทั้งหมดจะแล้วเสร็จภายใน 2 เดือน