ส่องธุรกิจเสริมตำรวจหญิงสวยปากน้ำโพ รายได้เดือนเกือบแสน

เรื่องของผู้หญิง สิ่งที่สำคัญทุกครั้ง เวลาที่จะต้องออกไปร่วมเฉิดฉายตามงานแต่ง งานบวช รวมถึงงานราตรีต่างๆ มักจะต้องจัดเต็มไปด้วยความสวย ทั้งหน้า ผม เสื้อผ้าแต่งกาย และเครื่องประดับ เพื่อให้สะดุดแก่สายตาของผู้พบเห็น จึงทำให้แต่ละครั้ง จะต้องหมดเงินค่าใช้จ่ายในเรื่องความสวยงามไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งสิ่งเหล่านี้ จึงทำให้ น.ส.วาสุกาญจน์ เดชาโชคฐิติวัฒน์ ตำรวจหญิงคนเก่งแห่งสถานีตำรวจภูธร จ.นครสวรรค์ หันมาทำธุรกิจร้านชุดเช่าราตรี ในราคาย่อมเยา เพื่อตอบสนองและเอาใจกลุ่มลูกค้าผู้หญิงทุกระดับ ที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายในเรื่องความสวยงามส่วนตัวก่อนจะออกไปร่วมงานราตรีต่างๆ ทุกครั้ง

ด้วยความที่เป็นคนรักสวยรักงามอยู่แล้ว จึงทำให้วาสุกาญจน์หันมาจับธุรกิจชุดเช่าราตรี เสื้อผ้าที่นำมาให้เช่าล้วนสะท้อนความเป็นตัวของเธอเองทั้งสิ้น โดย น.ส.วาสุกาญจน์ เล่าถึงจุดเริ่มต้นในการทำธุรกิจตัวนี้ว่า ก่อนหน้านี้เคยเปิดร้านขายเสื้อผ้าแฟร์ชั่นผู้หญิงมาก่อน แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เพราะมีปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจ ไม่ค่อยมีกำลังซื้อ จึงทำให้เลิกกิจการในส่วนนั้น และหันมาทำธุรกิจชุดเช่าราตรีแทน เนื่องจากที่ผ่านมา โดยส่วนตัว ชอบเรื่องความสวยความงาม และมักจะดูแลตัวเองให้ดูดีตลอดอยู่แล้ว

ประกอบกับ ในแต่ละปีต้องออกงานสังคม ทั้งงานแต่ง งานบวช และงานเลี้ยงต่างๆ อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งบางเดือนต้องออกงาน 4-5 งาน หมดเงินไปกับการซื้อชุดแต่งตัวและเครื่องประดับครั้งละหลายพัน หนำซ้ำ บางชุดซื้อมาแล้ว ก็ใส่ออกงานเพียงแค่ครั้งเดียว แล้วก็ไม่ได้ใช้อีกเลย จึงทำให้หันมาคิดทบทวบ จนเกิดไอเดียร์ที่จะทำธุรกิจชุดเช่าราตรี เพื่อตอบสนองให้กับกลุ่มผู้หญิงที่ต้องออกงานสังคม แต่ไม่อยากสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายครั้งละมากๆ

หญิงสวยวัย 40 ผู้นี้ เผยถึงธุรกิจร้านชุดเช่าราตรีของเธอต่อว่า สำหรับร้าน “Wasukarn ชุดเช่า” ตั้งอยู่ริมถนนฝั่งตรงข้ามกับร้านอาหารบ้านอีสาน ต.นครสวรรค์ตก อ.เมืองนครสวรรค์ มีบริการให้เช่าชุดราตรี ทั้งชุดแบบยาวและแบบสั้น ตั้งแต่ราคา 300-2,000 บาทขึ้นไป โดยชุดที่ลูกค้าเลือกเช่าไปนั้น จะมี accessories หรือเครื่องประดับ ตุ้มหู สร้อย กำไลข้อมือ รวมไปถึงกระเป๋า และรองเท้า ที่ใส่ให้เข้ากับชุดที่เช่า แถมไปด้วย ส่วนการบริการ ก็จะคอยดูแลและแนะนำลูกค้า ในการเลือกเช่าชุด เพื่อให้ลูกค้าได้ชุดที่ดูดีแล้วเข้ากับบุคลิกของตัวเองที่สุด

ขณะที่มาของชุดราตรี ตนจะศึกษาดูรูปภาพตามหนังสือนิตยสารแฟชั่นต่างๆ ก่อนจะไปหาเลือกซื้อในแหล่งแฟชั่นจำหน่ายที่กรุงเทพฯ นำมาให้ลูกค้าได้เลือกเช่าในหลายลูกแบบ ซึ่งปัจจุบัน มีให้ลูกค้าเลือกเช่าไม่ต่ำกว่า 300 ชุด และหลายๆ ชุด ตนซื้อมาราคาสูงถึง 3,000 บาท แต่นำมาบริการให้เช่าในราคาไม่ถึง 1,000 บาทก็มี จึงสามารถเห็นข้อแตกต่างระหว่างการซื้อและการเช่าได้เป็นอย่างดี

“ตอนที่เปิดร้านในช่วงแรกๆ ตนก็จะนำสินค้าชุดเช่า รวมถึงเครื่องประดับอื่นๆ ถ่ายภาพโปรโมทร้านลงบนเฟซบุ๊ค ซึ่งใช้เวลาเพียงไม่กี่เดือนก็ได้รับผลตอบแทนดี มีลูกค้ามาใช้บริการกันอย่างต่อเนื่อง วันละ 8-10 ราย มีรายได้จากการทำธุรกิจดังกล่าว 60,000-80,000 บาทต่อเดือน ซึ่งก็ถือว่ามีรายได้ดีไม่น้อยกับการทำธุรกิจชุดเช่าราตรีในพื้นที่ของ จ.นครสวรรค์ อีกทั้ง ชุดราตรีที่ซื้อมาให้บริการเช่า หลายๆ ชุด หากถูกผ่านการเช่า 4-5 ครั้ง ก็สามารถถอนทุนคืนได้แล้ว” น.ส.วาสุกาญจน์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม น.ส.วาสุกาญจน์ ไม่ใช่เป็นผู้ที่ทำธุรกิจชุดเช่าเพียงเท่านั้น เพราะปัจจุบัน เธอเป็นถึง พ.ต.ท.หญิง วาสุกาญจน์ เดชาโชคฐิติวัฒน์ ดำรงตำแหน่ง สารวัตรฝ่ายอำนวยการ สังกัดตำรวจภูธร จ.นครสวรรค์ ซึ่งในด้านหน้าที่ จะแบ่งแยกเวลา โดยหลังเลิกงานราชการในช่วงเวลา 17.00 น. รวมถึงวันเสาร์-อาทิตย์ เต็มวัน จะมาดูแลกิจการอย่างเต็มที่

ส่วนในเวลางานที่เธอทำ จะมีพี่สาว ซึ่งก็สวยไม่แพ้กันมาดูแลร้านแทน จึงไม่เสียระบบเวลาทั้งเรื่องงานประจำและธุรกิจที่ทำอยู่ แถมยังชี้แนะด้วยว่า หากข้าราชการตำรวจรายใด อยากทำอาชีพสุจริตเสริม จุดแรกต้องมองเรื่องความชอบและความถนัดของตัวเองก่อน แล้วจงอย่ากลัวที่จะเริ่มต้นทำ เพราะเชื่อว่าความชอบและความถนัดที่มี จะสามารถเกิดแรงผลัดดันในสิ่งที่จะทำ และต่อยอดจนเกิดธุรกิจได้ ซึ่งบางธุรกิจ ก็อาจจะสามารถรองรับในการหาเลี้ยงชีพหลังเกษียณอายุราชการได้ทั้งชีวิต.

ชลิต พุ่มเรือง