มีเงินเย็น แสน – ล้าน – สิบล้านบาท ลงทุนอะไรดีให้งอกเงย ?

มีเงินเย็น แสน – ล้าน – สิบล้านบาท ลงทุนอะไรดีให้งอกเงย ?

มีเงินเย็น แสน – ล้าน – สิบล้านบาท ลงทุนอะไรดีให้งอกเงย ?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ในทุกวันนี้หากใครที่มีเงินก้อนหรือเงินเก็บและคิดหวังจะได้เก็บกินดอกเบี้ยเป็นกอบเป็นกำจากเพียงแค่บัญชีเงินฝากธรรมดานั้นคงจะต้องฝันสลายเสียแล้ว เพราะดอกเบี้ยที่มีอัตราชนิดที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน แทบจะไม่ให้ผลตอบแทนที่งอกเงยขึ้นมาเลย หลายคนที่มีเงินเก็บจึงมองหาช่องทางอื่นที่จะทำเงินก้อนของพวกเขาให้งอกเงยขึ้นมา การจะนำเงินก้อนที่มีโยกย้ายไปไว้ในจุดที่ได้ดอกผลที่งอกเงยนั้น ก่อนอื่นเราต้องตอบคำถามสองข้อนี้ให้ได้เสียก่อน

1. ปัจจัยในเรื่องของระยะเวลา

เราต้องการลงทุนเพื่อให้ได้ผลตอบแทนหรือกำไรที่งอกเงยกลับมาในช่วงระยะเวลาช้าหรือเร็วเท่าไร เช่น 3 เดือน 6 เดือน 1 ปี และเงินก้อนนี้เป็นเงินที่จำเป็นต้องหยิบมาใช้เมื่อไหร่ หรือเป็นเงินเย็นที่ไม่ได้มีความจำเป็นที่จะต้องนำมาใช้ใด ๆ ในระยะยาว เช่น เป็นเงินก้อนที่สะสมไว้เพื่อเป็นทุนสำหรับศึกษาต่ออีกสองปีข้างหน้า ระหว่างนี้จึงอยากจะนำมาลงทุนให้งอกเงยหรือเป็นเงินที่จะเก็บไว้เป็นเงินทุนสำหรับไปเดินทางท่องเที่ยวในอีก 6 เดือนข้างหน้า เป็นเงินที่จะเก็บไว้ออมเพื่อใช้ในยามแก่เฒ่า เป็นต้น

2. การยอมรับความเสี่ยงและการคาดหวังในผลตอบแทน

เราจะต้องสำรวจและตอบตนเองให้ได้ว่า ความเสี่ยงที่มากที่สุดที่พร้อมจะเสี่ยงนั้นเป็นมูลค่าเท่าไรที่เราสามารถยอมรับได้ และผลตอบแทนเท่าไรที่เราตั้งเป้าคาดหวังไว้ว่าต้องการจะได้รับ ซึ่งอย่าลืมว่าการคาดหวังผลตอบแทนสูง ๆ แต่ไม่ต้องการเสี่ยงหรือเสี่ยงน้อยที่สุดนั้นเป็นสิ่งที่ไม่สามารถเป็นไปได้เลยในทางปฏิบัติ

หลังจากนั้นเป็นขั้นตอนที่เราต้องมาพิจารณาว่า เราจะเลือกลงทุนในทรัพย์สิน ทุนหรือ หุ้น ใดที่มีความสัมพันธ์กันอย่างลงตัวระหว่างระยะเวลา และมูลค่าผลตอบแทนตามที่เราต้องการนั้น

มีเงิน 100,000 บาท ลงทุนอย่างไรดี

เรามาเริ่มกันที่เงินก้อน 100,000 บาท ว่าจะลงทุนอย่างไรดีให้งอกเงยเป็นที่น่าพอใจ ตัวอย่างเช่น เราตั้งเป้าคาดหวังผลตอบแทนที่ 1% เราก็ต้องมองหาวิธีลงทุนแบบต่าง ๆ ที่มากกว่า 1% ก็จะเรียกว่าประสบความสำเร็จเกินเป้าหมาย

สำหรับเงินจำนวนนี้ ถ้าเลือกจะลงทุนในธุรกิจก็น่าจะยากมาก อย่างมากก็ได้แค่ธุรกิจส่วนตัว และยังต้องมีเงินทุนหมุนเวียนและเงินสำรองอีก ดังนั้น ถ้ามีเงินเย็นระดับนี้ แนะนำให้นำไปฝากไว้กับธนาคาร ซึ่งมีทั้งแบบออมทรัพย์และฝากประจำจะดีกว่า หรือไม่ก็เลือกมองหาหุ้นปันผลที่มีความมั่นคง กิจการดีและมีประวัติจ่ายปันผลต่อเนื่อง ซึ่งจะมีโอกาสได้ผลตอบแทนต่อปีมากกว่า % ที่คาดหวังด้วย

ทั้งนี้ การลงทุนในตลาดหุ้นนั้นต้องพึงรู้ไว้ก่อนว่ามีความเสี่ยงต่อเงินต้นมากกว่าเงินฝากธนาคาร แต่ถ้าวิเคราะห์หาหุ้นดี ๆ ไม่ซื้อหุ้นปั่น หุ้นเน่า ก็มีโอกาสได้ผลตอบแทนที่ดีกว่าในระยะยาว เงินแสนบาทก็สามารถงอกเงยได้แน่นอน ถ้ามีหลายแสนก็ทบกันไปตามสัดส่วน

หากมีเงิน 1 ล้านบาท จะนำเงินก้อนนี้มาลงทุนอะไรดี

การพิจารณานำเงินก้อน 1 ล้านบาท มาลงทุนเพื่อให้ได้ผลกำไรงอกเงยนั้น มีทางเลือกที่มากกว่าเงินหลักแสน เช่น การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ การลงทุนในหุ้นต่าง ๆ การลงทุนในทองคำ หุ้นทองคำประเภทต่าง ๆ ตราสารหนี้ หรือ ฟิวเจอร์ เป็นต้น ซึ่งหลักในการลงทุนเงินหลักล้าน สำหรับคนในวัยสูงอายุ และคนในวัยหนุ่มสาวนั้นมีหลักในการพิจารณาต่างกันดังนี้

การลงทุนในเงิน 1 ล้านบาท สำหรับคนในวัยสูงอายุ

คนมีอายุนั้นควรพิจารณาการลงทุนที่มีการเสี่ยงไม่สูงมากในอัตราส่วนที่มากหน่อยเมื่อเทียบกับอัตราส่วนเงินทั้งหมดที่จะลงทุน อย่างตราสารหนี้ เช่น พันธบัตรรัฐบาลหรือหุ้นประเภทบริษัทที่มีเกรดในการลงทุนสูงกว่าในระดับ BBB หรือกองทุนรวมในตราสารหนี้ และแบ่งส่วนที่เหลือกระจายลงทุนใน อสังหาริมทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนเป็นค่าเช่าที่มีงวดรับสม่ำเสมอ หรืออาจเป็นกองทุนที่ลงในประเภทของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ก็ได้

การลงทุนในเงิน 1 ล้านบาท สำหรับคนในวัยหนุ่มสาว

คนในวัยหนุ่มสาวนั้น สามารถจะลงทุนในความเสี่ยงที่มากกว่าเพื่อให้ได้รับผลกำไรที่มากกว่าได้ เพราะยังมีทางเลือกในการหาเงินสำรองในรายได้อีกหลายช่องทาง ยังมีแรงและกำลังและช่วงเวลาในการหาเงินมากกว่า จึงสามารถแบ่งส่วนในเงิน 1 ล้านบาท มาลงในตราสารหุ้นในสัดส่วนที่มากกว่าได้ หรือแบ่งส่วนมาลงในกองทุนประเภทสินค้าอุปโภคบริโภคส่วนหนึ่ง และส่วนสุดท้ายซึ่งอาจเป็นสัดส่วนไม่มากเท่าสองส่วนแรกคือ ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และตราสารหนี้

หลักในการลงทุนเงินก้อน 1 ล้านบาท ก็คือ การรู้จักกระจายสินทรัพย์ในการลงทุน เพื่อกระจายความเสี่ยงและผลกำไร ( Asset Allocation) หากมีการพิจารณาการกรายลงทุนที่พอเหมาะในจำนวนเงิน 1 ล้านบาท นี้ จะทำให้ได้รับผลตอบแทนที่พอใจ ในอัตราความเสี่ยงที่พร้อมจะรับได้

กรณีที่มีเงิน 10 ล้านบาท ต้องการทำให้งอกเงยจะลงทุนกับอะไรดี

สำหรับเงิน 10 ล้านบาทนั้น เป็นเงินจำนวนที่สามารถให้ดอกผลได้เป็นกอบเป็นกำและเห็น จับต้องได้ชัดเจนมากขึ้น ดังนั้น คำถามอยู่ที่ว่าคุณสามารถยอมรับความเสี่ยงได้มากน้อยเพียงใด และต้องการผลตอบแทนจากเงินก้อนจำนวน 10 ล้านมาก เท่าไรต่อปี

ในจำนวนเงิน 10 ล้านบาท สำหรับคนในวัยสูงอายุ อาจจะไม่ใช่วัยที่จะต้องนำเงินก้อนนี้มาเสี่ยงอีกแล้ว สามารถนำเงินไปลงทุนในการซื้อสลากออมสิน ยกตัวอย่างเช่น

หากลงทุนในฉลากออมสินเป็นเงิน 5 แสนบาท จะได้ผลกำไรเป็นเงิน 300 บาทต่อเดือน ซื้อ 10 ล้าน จะได้เดือนละ 6,000 บาท และยังมีรางวัลอื่น ๆ ที่อาจจะได้จากฉลากออมสิน ซึ่งรวมแล้วอาจได้ถึง 10,000 บาทต่อเดือน เมื่อครบกำหนด 3 ปี จะได้ดอกเบี้ยอีกเป็นเงินหน่วยละ 3 บาท ดังนั้น เงิน 10 ล้านบาท ใน 3 ปี จะได้ผลตอบแทน 3 แสนบาท และในเงินส่วนที่เป็นรางวัลก็ไม่ต้องเสียภาษีด้วย ข้อดีก็คือไม่มีความเสี่ยงเลยก็ว่าได้

ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เช่น อพาร์ทเม้นท์ เป็นการลงทุนที่ดีแต่ต้องพิจารณาทำเลและองค์ประกอบของอพาร์ทเม้นท์ว่าสามารถมีคนเข้าพักอาศัยที่มีศักยภาพและสามารถให้ผลตอบแทนกำไรทุกเดือน การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เช่นนี้ก็เหมือนดังที่เขาว่ากันว่า เสือนอนกิน เมื่อใช้เงินก้อนซื้ออพาร์ทเม้นท์ก็ไม่ต้องปันผลประกอบการไปให้กับดอกเบี้ยเงินกู้ธนาคาร และเมื่อวันเวลาผ่านไปนอกจากผลตอบแทนที่ได้จากผู้เช่าแล้ว ยังได้กำไรจากมูลค่าของที่ดินที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย

สำหรับผู้ที่ยังชอบเสี่ยงอยู่อาจจะนำเงินมากระจายการลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ และกองทุนต่าง ๆ การกระจายประเภทการลงทุนจะเป็นการกระจายความเสี่ยงได้อย่างดี

ไม่ว่าจะเป็นเงินก้อนในหลักแสน หลักล้าน หรือหลัก10 ล้านก็ตาม การจะทำเงินให้ได้ผลกำไรที่งอกเงย เป็นสิ่งที่น่าคิดและสมควรจะทำ เพื่อบริหารให้เงินทำงานให้เราและเพื่อความมีอิสระทางด้านการเงินที่แท้จริง สิ่งสำคัญอยู่ที่ความรู้และความรอบคอบในการลงทุนนั่นเอง

สนับสนุนเนื้อหาโดย MoneyHub

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook