ออมเงินเดือนละ 5,000 บาท ให้ได้ผลทำอย่างไร ?

ออมเงิน เรื่องง่ายๆ ที่ใครๆก็คิดว่ายาก แต่ก็อยากมีเงินเก็บกันอยู่ดี นี่ล่ะปัญหาที่เครียดพอๆกับโลกจะแตก บางคนก็มีเป้าหมายแล้ว แต่ยังขาดเงินทุนที่จะนำไปต่อยอด เลยคิดอยากจะออมเงินเพื่อเก็บเป็นเงินลงทุน แต่จะทำไงได้ล่ะ ในเมื่อรายได้ที่มีอยู่ตอนนี้ก็ใช่ว่าจะมากมายอะไร เห็นวิธีการที่เขาเก็บกัน ก็เคยลองทำตาม แต่สุดท้ายก็มีเรื่องให้ใช้จ่ายกันอยู่ดี อยากมีเงินเก็บเดือนละ 5,000 แบบใครเขา ก็ยังเป็นเรื่องที่ยากอยู่ ฉะนั้นแล้วก่อนที่เราจะเก็บเงินได้ตามจำนวนนั้นๆ เราก็ต้องมาดูก่อนว่า เราจะสามารถทำได้แค่ไหน

ความพร้อมของตัวเราเองนั่นล่ะค่ะที่สำคัญที่สุด จะเก็บออมเงินทั้งทีต้องคิดดีดีหน่อย ถ้าเรามีเป้าหมายจะเก็บเงินให้ได้เดือนละ 5,000 บาท นั่นแสดงว่าเราต้องมีรายได้ที่มากกว่าเงินออมในจำนวนนี้อย่างน้อยคือ 3 เท่า (เป็นอย่างต่ำนะคะ) เพราะถ้าน้อยกว่านี้ อาจจะเดือดร้อนในการใช้ชีวิตประจำวันค่ะ เอาล่ะ เรามาดูกันดีกว่าว่าจะมีวิธีไหนบ้าง ที่จะช่วยเราออมให้ได้เดือนละ 5,000 บาท

เดือนละ 5,000 จะว่าน้อยก็น้อยจะว่ามากก็มากนะคะ แต่ถ้าเก็บเรื่อยๆ 1 ปี เห็นทีจะได้ 5,000 ×12 = 60,000 บาท โอ้วโห ! เก็บเงินเล่นๆหนึ่งปี ได้ตั้งเกือบแสนเลยล่ะ ถ้าเราคิดว่าสามารถเก็บได้เดือนละ 5,000 บาทแบบไม่เดือดร้อนด้วยนะ แต่ถ้าอยากให้มันงอกเงย หรือทำเงินออมของเราให้เพิ่มขึ้น เราก็ต้องมีวิธีการ เช่น

1. ฝากเงินแบบปลอดภาษี เดี๋ยวนี้ก็มีหลากหลายธนาคารมาก ซึ่งแน่นอนล่ะว่า เราต้องดูที่ผลตอบแทนของดอกเบี้ยที่จะได้รับ แต่เราจะดูที่ดอกเบี้ยอย่างเดียวก็คงไม่พอค่ะ เพราะเงื่อนไขอื่นๆก็มีผลด้วย เช่นบางธนาคารอาจจะมีเงื่อนไขว่าต้องสมัครประกันชีวิตพ่วงต่อด้วย เป็นต้น โดยอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 0.6-1.8 ต่อปี

2. ฝากประจำกับธนาคาร มีให้เลือกหลากหลายเช่นกัน แต่คนส่วนใหญ่อยากฝากประจำกับธนาคารที่ไม่มีเงื่อนไขอะไรให้ยุ่งยาก และสามารถได้รับผลตอบแทนในระยะเวลาอันสั้นๆ ดังนั้น เราก็มีฝากประจำของธนาคารหนึ่งมาแนะนำค่ะ นั่นก็คือ ฝากประจำกับ ME ของ TMB นั่นเอง อัตราดอกเบี้ยสูงอยู่ที่ 3% ต่อปี และ สามารถถอดได้โดยไม่ต้องกลัวว่าดอกเบี้ยจะลดลง เราสามารถเช็คยอดและดอกเบี้ยได้ตลอดเวลา ผ่านทางเว็บไซต์หรือในแอพลิเคชั่น เรียกได้ว่า สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย แถมยัง ไม่มีการกำหนดว่าต้องฝากขั้นต่ำเท่าไหร่ นั่นหมายความว่า เราก็สามารถเก็บฝากเดือนละ 1,000 2,000 3,000 4,000 5,000 หรือมากกว่านั้นก็ได้เช่นกัน แต่ก็ต้องฝากให้สม่ำเสมอเป็นประจำทุกเดือนนะคะ

3. ออมเงินกับกองทุนรวม LTF หรือ RMF บางคนก็สงสัย LTF คืออะไร ? RMF คืออะไร ?

LTF หรือ Long Term Equity Fund การลงทุนในกองทุนรวมแบบระยะยาว มีการปันผลหุ้นและสามารถนำไปใช้ลดหย่อนภาษีได้ เรียกได้ว่าเหมาะกับมนุษย์เงินเดือนและคนที่มีรายได้ประจำ

ส่วน RMF หรือ Retirement Mutual Fund คือ การลงทุนในกองทุนรวมเพื่อสำรองเลี้ยงชีพในระยะยาว จะเหมาะสำหรับคนที่ต้องการเงินบำนาญในวัยเกษียณ ซึ่ง RMF นั้นจะไม่มีการปันผลแบบหุ้นทั่วไป การลงทุนนั้นจะเปรียบเสมือนกับการออมในระยะยาว โดยเริ่มจากปีที่ลงทุนไปจนถึงอายุ 55 ปี ซึ่งการออมขั้นต่ำจะอยู่ที่ 5,000 บาท ถ้าใครวางแผนอนาคตไว้ว่า ตอนแก่อยากมีเงินใช้จ่ายโดยที่ไม่ต้องไปเดือดร้อนลูกหลาน การออมเดือนละ 5,000 กับ RMF ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจนะคะ

นอกจากจะได้ออมเงินแล้ว ยังเป็นการออมที่เป็นทั้งการลงทุนในคราวเดียวกันด้วย ส่วนใครที่สะดวกแบบไหน ก็สามารถติดต่อลองขอคำแนะนำปรึกษากับเจ้าหน้าที่ของธนาคารที่เราไว้วางใจได้เลยค่ะ

สามวิธีข้างต้นที่เราได้หยิบยกกันขึ้นมานั้น ต่างก็เป็นแนวทางสำหรับคนที่ต้องการออมเงิน ขั้นต่ำเดือนละ 5,000 บาท ไม่ว่าจะเลือกแบบไหน สิ่งที่สำคัญที่สุด อาจจะไม่ได้อยู่ที่ว่าผลตอบแทนมากหรือน้อย แต่จะขึ้นอยู่กับเรามากกว่าว่าจะสามารถรับมือกับความเสี่ยงได้มากแค่ไหน ถ้าเรายังอยู่ในระดับเริ่มต้นออม เราอาจจะออมในรูปแบบของการฝากเงินไม่ประจำกับธนาคาร ฝากแบบปลอดภาษี หรือฝากแบบประจำไปก่อน แม้ว่าดอกเบี้ยจะน้อยถ้าเทียบกับการลงทุนกับหุ้น แต่ก็อุ่นใจได้ว่า เงินต้นเราจะไม่หายไปไหน เพราะมีความเสี่ยงต่ำนั่นเอง

ข้อคำนึงอีกอย่างก็คือ การเลือกออมตามความต้องการในการใช้เงิน บางคนต้องการออมเพื่อนำเงินไปลงทุนทำงานอื่น ๆ หรือเรียนต่อ ก็อาจจะเลือกลงทุนในระยะสั้นๆ ไม่เกิน 1-5 ปี แต่ถ้าใครที่คิดว่าอยากจะเก็บออมในระยะยาวบั้นปลายชีวิต อาจจะเลือกออมใน RMF ที่เป็นกองทุนรวมเพื่อวัยเกษียณ ก็ได้เช่นกัน

การออมจะเกิดขึ้นและประสบความสำเร็จนั้น ต้องเริ่มจาการมีวินัยและทำอย่างสม่ำเสมอ เพราะถ้าเราไม่ทำเป็นนิสัยแล้ว ก็ยากที่จะมีเงินเก็บ บางคนก็บอกว่าจะออม จะเก็บ แต่สุดท้าย ก็ไม่เคยได้เริ่มสักที ดังนั้นเก็บไปเถอะค่ะ จะมากจะน้อยเท่าไหร่ก็ถือว่าได้เก็บออม ดังคำสอนที่กล่าวไว้ว่า “ อย่าหมิ่นเงินน้อย อย่ารอคอยวาสนา ” อนาคตเราสร้างได้ เป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่กำลังตั้งใจจะออมเงินด้วยนะคะ สวัสดีค่ะ.

สนับสนุนเนื้อหาโดย MoneyHub