มีหนี้สินอย่างฉลาดก็รวยได้

มีหนี้สินอย่างฉลาดก็รวยได้

มีหนี้สินอย่างฉลาดก็รวยได้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

Tar Kawin 

โอ่ะ! อย่าพึ่งดราม่าก่อนอ่านนะที่รักทุกท่าน

หลายคนเห็นหัวข้อก็อาจจะตกใจว่าทำไมผมบอกว่าการมีหนี้เป็นเรื่องที่ดีได้ เป็นไปได้ยังไง งงกันไปหมดแล้ว มาๆๆ จะอธิบายให้ฟัง เอาจริงๆนะผมว่าเราต้องดูเหตุผลของการมีหนี้ด้วยว่าการที่เราจะเป็นหนี้เนี่ย… มันมีประโยชน์ยังไงต่อชีวิตได้บ้าง ซึ่งส่วนใหญ่ผมจะแบ่งหนี้เป็น 2 ประเภทในชีวิตที่ผมเห็นบ่อยๆนะครับ ได้แก่


1 หนี้ที่เกิดจากการใช้จ่ายเกินตัวและก่อนให้เกิดภาระทางการเงิน

พูดง่ายๆก็คือหนี้ที่เกิดขึ้นเพราะเราอยากได้โน้นนี่ มีเงินเดือน 20,000 ซื้อของที่อยากได้ซะ 50,000 จนทำให้รายจ่ายมากกว่ารายรับและนำเงินอนาคตมาใช้ ใช้บัตรเครดิตมาผ่อน ทำให้เกิดภาระทางการเงินและต้องจ่ายดอกเบี้ยในท้ายสุดจนหนี้ท่วมหัว อย่าให้ยกตัวอย่างเล๊ยยยย ไม่ว่าจะเป็นข้าวของเครื่องใช้ที่อยากได้แล้วมีราคาแพงๆเกินความจำเป็นของตัวเองนี่ล่ะตัวดีเลย 

การที่ซื้อของที่ตัวเองอยากได้มันก็ไม่ใช่เรื่องผิดหรอก แต่มันแค่จะแย่ถ้าเราใช้เงินเกินตัวเท่านั้นเอง เกิดอยากได้ก็ต้องบริหารเงินกันดีๆไม่ให้กลายเป็นหนี้เยอะๆจนใช้ไม่หมดนะครับ

2 หนี้ที่เกิดจากการมองเห็นอนาคตว่าหากเรามีหนี้แล้วจะเกิดประโยชน์ทางการเงินกับตัวเราในอนาคตได้

การเป็นหนี้บางอย่างสามารถสร้างผลประโยชน์ให้กับเราในระยะยาวได้เหมือนกันนะครับ แต่เราจะต้องคิดดีๆก่อนว่าการเป็นหนี้นั้นจะดีหรือเปล่า ตรงนี้อยู่ที่การชั่งน้ำหนักและวัดข้อดีข้อเสียของการมีหนี้ด้วยล่ะ บางคนคำนวณไปมาทั้งความสามารถและความเสี่ยงแล้วคิดว่าโอเคคุ้ม! ก็อาจจะก่อหนี้ขึ้นมาได้เช่นกัน

ตัวอย่างของการมีหนี้แล้วรวยขึ้น เช่น หากเราทำธุรกิจอยู่แล้วเรามองว่า สินค้าของเรานั้น ลูกค้าต้องการเยอะจริงแล้วผลิตไม่ทันเลย ถ้าไม่ตัดสินใจขยายกิจการตอนนี้อาจจะเสียโอกาสในอนาคตได้ เงินก็ไม่มี พอคำนวณๆแล้วต้องตัดสินใจกู้หนี้ยืมสินมาและต้องจ่ายหนี้และผ่อนดอกเบี้ยในอนาคตรวมแล้วประมาณ 1 ล้านบาท แต่เมื่อเราเพิ่มกำลังการผลิตแล้วทำให้เราสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นได้อีกจำนวนมากและสามารถใช้หนี้ได้หมดภายใน 2-3 ปี อย่างงี้ก็คือการเป็นหนี้ที่ทำให้เกิดประโยชน์ในการสร้างความมั่งคั่งในอนาคตได้

อีกตัวอย่างของการมีหนี้แล้วลดค่าใช้จ่ายได้ เช่น หลายๆอาชีพต้องเดินทางไปมาหลายๆที่ต่อวันเพื่อติดต่องานกับลูกค้า ต้องพาพ่อแม่ขึ้นแท็คซี่ไปโน้นไปนี่ รวมถึงอาจจะต้องเดินทางรับไปส่งลูกที่โรงเรียน ก็อาจจะต้องมาคำนวณดูว่าค่าใช้จ่ายด้านการเดินทางในแต่ละวันเป็นเท่าไหร่ แล้วลองมาเทียบดูว่าถ้าซื้อรถยนต์และมีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องแล้ว อย่างไหนจะคุ้มค่ากว่าในระยะยาว บางคนพอคำนวณดูแล้วพบว่า การมีรถเป็นของตัวเองนั้นอาจจะมีหนี้วันนี้แต่ผ่านไป 3 ปี (ตัวเลขสมมติ) อาจจะเป็นจุดคุ้มทุนและทำให้ค่าใช้จ่ายลดลงในระยะยาวได้มากกว่าเดิม


ทั้งหมดนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีคิดนะครับว่าการมีหนี้นั้นไม่ใช่เรื่องเลวร้ายเสมอไปแต่เราจะต้องพิจารณาก่อนเสมอว่าการมีหนี้นั้นมีที่มาที่ไปและเหตุผลอย่างไร คุ้มค่าต่อการมีหนี้ไหม ความเสี่ยงของหนี้เป็นอย่างไร จึงไม่แปลกใช่ไหมครับว่าทำไมหลายๆคนมีหนี้ก็รวยได้

 

มาลองดูตัวอย่างป้าเชงกับนายบอยใน Infographic ข้างล่างเลยจ้า

 

อ่านเพิ่มเติมเรื่องของ Tar Kawin 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook