ตอบคำถามสุขภาพก่อนทำประกันมีความสำคัญแค่ไหน ?

ตอบคำถามสุขภาพก่อนทำประกันมีความสำคัญแค่ไหน ?

ตอบคำถามสุขภาพก่อนทำประกันมีความสำคัญแค่ไหน ?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากโฆษณาที่เราได้ยินกันบ่อยๆ ว่าทำประกันโดยไม่ต้องตอบคำถามสุขภาพก็รับทำประกัน แต่เรารู้หรือเปล่าเวลาจะตอบคำถามก่อนทำประกันนั้นต้องให้ข้อมูลอะไรบ้าง และแต่ละส่วนบริษัทประกันจะไปใช้ทำอะไรกันบ้าง

ส่วนแรกจะเป็นข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไปของเรา ก็เป็นการถามชื่อ นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน ประวัติการทำประกัน การถูกปฏิเสธการทำประกัน การเลื่อนการรับประกัน หรือการถูกเพิ่มเบี้ยประกัน การเสพยาเสพติด ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่หรือเปล่า รวมถึงการถามเกี่ยวกับน้ำหนัก ส่วนสูงและการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนัก ซึ่งคำถามส่วนนี้จะใช้เป็นข้อมูลเบื้องต้นในการรับหรือไม่รับทำประกัน เพราะประกันชีวิตบางกรมธรรม์นั้นหากเราเคยถูกปฏิเสธการทำประกันมาก่อน บริษัทประกันก็อาจจะใช้เป็นเหตุผลในการที่ไม่รับทำประกันกับเราอีก

ถัดมาจะเป็นการถามเกี่ยวกับประวัติสุขภาพภายในครอบครัว เพื่อใช้สำหรับประเมินแนวโน้มการเป็นโรคที่จะเป็นตามกรรมพันธุ์ หรือโรคที่ติดต่อกันได้จากความสัมพันธ์ในครอบครัว ได้แก่ การถามเกี่ยวกับประวัติสุขภาพของบิดา มารดา พี่น้องร่วมบิดา/มารดา โดยจะระบุโรคไว้อย่างชัดเจน คือ โรคหัวใจ โรคหลอดเลือด โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคไต โรคความดันโลหิตสูง การพยายามฆ่าตัวตายหรืออาการป่วยทางจิต โรคเลือด โรคไวรัสตับอักเสบ ตลอดจนจะสอบถามประวัติการเป็นโรคเอดส์ และโรคไวรัสตับอักเสบของสามี/ภรรยา

สำหรับการตอบคำถามสุขภาพก่อนทำประกันนั้นก็จะมี 2 แบบ คือ แบบสั้นและแบบละเอียด ซึ่งก็แล้วแต่เงื่อนไขของกรมธรรม์แต่ละฉบับว่าจำเป็นต้องตอบคำถามสุขภาพหรือไม่ เพราะไม่ได้เป็นการบังคับว่าต้องตอบคำถามหรือไม่ตอบคำถาม แต่อย่างที่เรารู้กันอยู่ว่าถ้าไม่ต้องคำถามสุขภาพ หากเป็นโรคมาก่อนทำประกันแล้วไม่แจ้ง ก็จะเป็นช่องโหว่ที่ทำให้บริษัทประกันไม่จ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับเราได้ เรามาลองดูคำถามสุขภาพในแต่ละแบบที่บริษัทจะใช้ถามกับเรากัน

คำถามสุขภาพแบบสั้นจะมีเพียง 2 คำถาม คือ

• ถามว่าเรามีสุขภาพทางร่างกายและจิตใจสมบูรณ์ดีไม่มีอวัยวะส่วนใดของร่างกายพิการ/ทุพพลภาพ หรือไม่ป่วยเป็นโรคเอดส์ หรือภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือไม่เป็นโรคร้ายแรงใดๆ ซึ่งถ้าหากตอบว่าใช้ เราอาจจะต้องบอกรายละเอียดเพิ่มเติม

• และจะถามว่าในระหว่าง 3 ปีที่แล้ว เราเคยให้แพทย์ตรวจหรือเข้าสถานพยาบาลทำการรักษาตัว ตรวจโลหิต ความดันโลหิต ปัสสาวะ เอกซ์เรย์ ตรวจหัวใจ หรือตรวจอย่างอื่นหรือไม่ ถ้าเราตอบว่าใช่ก็ต้องบอกรายละเอียดเพิ่มเติมด้วยอีกเหมือนกัน

ส่วนคำถามสุขภาพแบบละเอียดนั้น จะเป็นคำถามเกี่ยวกับโรค อาการของโรค และประวัติสุขภาพของเราในรอบระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ได้แก่

• คำถามเกี่ยวกับโรคที่แพทย์เคยวินิจฉัย โรคที่รับการรักษา เช่น โรคจอประสาทตา โรคต้อหิน โรควัณโรค หรือเบาหวาน เป็นต้น ซึ่งเราอาจจะต้องระบุรายละเอียดสักนิด เพื่อประโยชน์ในการทำประกัน

• คำถามถัดมาจะเป็นเรื่องอาการของโรค จะเป็นอาการที่เรารูสึกได้ว่าเป็นแต่ยังไม่ได้รับการรักษา ซึ่งจะมีการระบุอาการให้เลือกอย่างชัดเจน เช่น มีอาการเจ็บหรือแน่นหน้าอก เหนื่อยง่ายผิดปกติ หรือในรอบระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา เรามีอาการต่อไปนี้ หรือไม่ คือ อ่อนเพลีย น้ำหนักลด หรืออาจจะเป็นคำถามเฉพาะกลุ่มผู้หญิง เช่น ตั้งครรภ์อยู่หรือเปล่า อายุครรภ์กี่เดือน เป็นต้น

• คำถามประวัติการรักษาอาการป่วยของเรา โดยจะถามประวัติภายในระยะเวลา 5 ปี ที่ผ่านมาทั้งสุขภาพและอุบัติเหตุ เช่น มีการตรวจสุขภาพ มีการตรวจชิ้นเนื้อ การรักษาอาการบาดเจ็บต่างๆ การผ่าตัด เป็นต้น

และถ้าหากเป็นการทำประกันเกี่ยวกับสุขภาพหรือโรคร้ายแรง ก็อาจจะมีคำถามเกี่ยวกับโรคเพิ่มเติมจากคำถามในส่วนแรก เช่น เคยเป็นโรคติดเชื่อในหูชั้นกลาง ไซนัสอักเสบ ภูมิแพ้ เป็นต้น และส่วนสุดท้ายของการตอบคำถามสุขภาพก่อนทำประกัน จะเป็นเหมือนขอคำรับรองและขออนุญาตจากเรา ใน 3 เรื่อง คือ ขอให้เรารับรองข้อมูลที่ได้ตอบมาว่าเป็นความจริง ขอให้เรายอมให้บุคคลอื่นทราบเกี่ยวกับข้อมูลสุขภาพของเรา และยอมให้บริษัทแจ้งข้อมูลสุขภาพกับหน่วยอื่นเพื่อใช้สำหรับพิจารณารับประกันภัยหรือจ่ายประโยชน์

อย่างที่บอกไปแล้วการตอบคำถามสุขภาพบริษัทจะใช้เป็นข้อมูลในการพิจารณารับทำประกัน เมื่อทำประกันแล้วพบว่าเราแจ้งข้อมูลเท็จเราก็อาจจะไม่ได้รับเงินประกันคืนเลยก็ได้ หรือบางครั้งถ้าไม่ถามแต่ถ้าเรารู้ตัวเป็นอะไรมาบ้างก็แจ้งไปก่อนเลยก็ได้ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาทั้งสองฝ่าย

สนับสนุนเนื้อหาโดย MoneyHub

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook