บริหารเงินอย่างไร เมื่อเป็นหนี้

การเป็นหนี้ ถือเป็นความเสี่ยงของชีวิต เพราะว่าการเป็นหนี้เป็นการยืนยันว่าคุณไม่สามารถก้าวข้ามความจนไปได้ คุณก็ไม่สามารถที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้นได้ เพราะฉะนั้น การที่คุณจะมีชีวิตที่ดีขึ้นได้ ควรเริ่มด้วยการไม่มีหนี้จะเป็นการดีที่จะทำให้ชีวิตของคุณได้ก้าวข้ามความเสี่ยง และสามารถสร้างชีวิตให้อยู่ในระดับที่ดีขึ้นกว่าเดิมได้

ไม่มีสูตรการปลดหนี้ที่ไหน เขียนเป็นกฎเหล็กไว้ว่า “หาเงินได้เท่าไหร่ ชำระหนี้ทั้งหมด” ก็จริงอยู่ที่ว่า หากคุณเป็นหนี้ก็ควรที่จะชำระทั้งหมด แต่ไม่ใช่ว่าคุณต้องเอาเงินที่มีทั้งหมดไปใช้เพื่อชำระหนี้เพียงอย่างเดียว เพราะนั่น เท่ากับว่าคุณจะต้องสร้างหนี้ใหม่ในอนาคตอีกอย่างแน่นอน

บริหารเงินอย่างไร เมื่อเป็นหนี้

การบริหารเงินที่ได้รับเข้ามา คุณสามารถแบ่งเงินออกเป็น 3 ส่วนด้วยกัน นั่นก็คือ เงินที่คุณต้องใช้หนี้, เงินที่ต้องใช้ในปัจจุบัน และเงินที่สร้างความมั่นคงในอนาคต การแบ่งเงินแบบนี้จะช่วยให้คุณสามารถปลดหนี้ได้อย่างรวดเร็วแถมยังสามารถมีเงินเหลือใช้ในอนาคตอีกด้วย ทั้งนี้เคล็ดลับการเป็นเศรษฐีเงินล้าน คุณควรที่มีการบริหารเงินอย่างเป็นอัตโนมัติ เริ่มจากรักษาสมดุลของช่วงเวลา โดยการเก็บเงินที่สร้างได้ในปัจจุบัน เพื่อชำระหนี้ที่เกิดขึ้นในอดีต และออมไว้เพื่ออนาคต อย่างเช่น

คุณมีเงินอยู่ 100 บาท ควรแบ่งเงินออกเป็น 3 ส่วน ดังนี้ 50% คือเงินที่ต้องใช้หนี้, 40% คือเงินที่ใช้ในชีวิตประจำวัน, 10% คือเงินที่ออมไว้ใช้ในอนาคต โดยการรักษาสมดุลของช่วงเวลาไม่ควรหนักไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งมากเกินไป เพราะถ้าหากคุณทุ่มเทกับการชำระหนี้มากเกินไป โดยการหาเงินได้เท่าไหร่แล้วนำมาชำระหนี้จนหมด จะทำให้คุณไม่มีเงินเหลือไว้ใช้ในปัจจุบันและไม่มีเงินออมไว้ใช้ในอนาคตอีกด้วย

ถ้าเป็นหนี้ ควรมีการเตรียมตัวอย่างไร

 ตั้งสติ และวางแผนการชำระหนี้

คุณควรจดจำนวนเงินที่เป็นหนี้ทั้งหมด และดูว่าคุณมีหนี้อะไรบ้าง จากนั้นก็จัดรายการว่าคุณต้องชำระหนี้อันไหนก่อน อันไหนหลัง เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด และคุณสามารถใช้หนี้ได้เป็นระบบมากขึ้น

ตาราง วางแผนในการชำระหนี้

 จัดกลุ่มเจ้าหนี้ออกเป็น 2 กลุ่ม

ได้แก่ จำนวนเงินเป็นหนี้สูงสุด และอัตราดอกเบี้ยจ่ายที่สูง เป็นการจัดลำดับในการชำระหนี้ ให้ตรงตามกำหนด เป็นการป้องกันไม่ให้ดอกเบี้ยสูงขึ้นอีกด้วย อย่างไรก็ตามคุณไม่ควรที่จะไปกู้หนี้นอกระบบมาเพื่อชำระหนี้ที่เป็นอยู่ เพราะนั่นจะทำให้คุณมีหนี้มากกว่าเดิม และจะทำให้คุณเป็นหนี้ไปเรื่อย ๆ จนไม่สามารถชำระหนี้ได้รวดอย่างที่คุณต้องการ

 สำรวจรายรับ – รายจ่ายในแต่ละเดือน

รายรับที่ได้ในแต่และเดือนกับค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต้องใช้ว่า คุณสามารถชำระหนี้ได้ในจำนวนเท่าไหร่ เพื่อคำนวณความเป็นไปได้ และเพื่อให้สามารถชำระหนี้ได้ทั้งหมดในเวลาอันรวดเร็วอีกด้วย

การเจรจาว่าคุณสามารถจ่ายชำระหนี้ได้เท่าไหร่ เป็นการกำหนดจำนวนเงินที่คุณสามารถชำระหนี้ได้ หากเจ้าหนี้เป็นผู้กำหนดเอง แต่เราไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามที่กำหนดและตรงตามเวลาที่กำหนดก็จะไม่ทำให้อะไรดีขึ้น คุณควรทำการเจรจาขอชำระหนี้ในจำนวนเงินที่คุณสามารถชำระได้ตรงเวลาที่กำหนดจะดีกว่า

สร้างเครดิตทางการเงิน คือการชำระหนี้ตรงต่อเวลา เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ให้กับเจ้าหนี้ เป็นการสร้างระบบการเงินในอนาคตที่คุณสามารถขอกู้เงินเพิ่มเติมได้อีก
เลือกวิธีการชำระหนี้ให้คุณได้ประโยชน์สูงสุด วิธีดังต่อไปนี้เป็นเพียงวิธีพื้นฐานเท่านั้น ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนว่าจะนำไปประยุกต์ใช้กับอย่างไร

 การชำระหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูง ๆ ก่อน เพื่อไม่ให้เกิดมีอัตราดอกเบี้ยเพิ่มมากกว่าเดิม

 การลดเจ้าหนี้ ก็คือการเลือกชำระหนี้ที่มีจำนวนน้อยกว่าก่อน และเลือกชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้ที่มีจำนวนหนี้มากทีหลัง เป็นการลดเจ้าหนี้ให้น้อยลง เพื่อในอนาคตจะได้ไม่ต้องชำระหนี้มากกว่าเดิม

 มีหลายองค์กรที่มีสูตรในการคำนวณ การจ่ายหนี้ได้อย่างเหมาะสม ซึ่งเราสามารถขอไฟล์นั้นมาใช้คำนวณหนี้ของตนเองได้ เพื่อหาว่าวิธีไหนที่สามารถให้จำนวนหนี้ของเราลดลงได้เร็วที่สุด

 สร้างวินัยในการออมเงินหลังหมดหนี้

เป็นการสร้างความมั่นคงทางการเงินในอนาคต และจะส่งผลดีให้คุณไม่ต้องไปกู้เงิน และเป็นหนี้อีก หลังจากที่คุณสามารถชำระหนี้ได้จนหมดแล้ว ให้คุณเริ่มเก็บออมจากจำนวนที่คุณต้องจ่ายหนี้ในอดีต เป็นมาเป็นการออมเงินเพื่อเป็นการเพิ่มพูนเงินที่คุณจะนำไปสร้างความมั่นคงในอนาคตได้นั่นเอง

สิ่งจำเป็นที่ควรรู้ เกี่ยวกับการสร้างหนี้ ก็คือ ไม่สร้างหนี้ก้อนใหญ่พร้อม ๆ กัน อย่างเช่น ไม่ผ่อนบ้านพร้อมกับผ่อนรถ เป็นต้น คุณควรผ่อนอย่างใดอย่างหนึ่งให้เรียบร้อยเสียก่อน เพื่อให้คุณมีเวลาพักในการหาเงิน หาคุณมีหนี้ใหญ่ ๆ หลายที่อาจจะทำให้คุณไม่สามารถผ่อนชำระอะไรได้เลยก็เป็นไปได้ทั้งนั้น

สนับสนุนเนื้อหาโดย MoneyHub