“ออมทอง” ในสภาวะดอกเบี้ยขาลง

“ออมทอง” ในสภาวะดอกเบี้ยขาลง

“ออมทอง” ในสภาวะดอกเบี้ยขาลง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ในสภาวะอัตราดอกเบี้ยขาลง การออมเงินธนาคารแล้วรับผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ยที่ไม่ถึง 1% หรือฝากประจำไม่เกิน 2% ถือว่าน้อยมาก และถ้ายังจำกันได้เหตุการณ์ไม่นานมานี้มีสถาบันการเงินแห่งหนึ่งปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลงมาเหลือ 0% ต่ำสุดในรอบหลายสิบปี เท่ากับว่าถ้าเราเอาเงินไปฝากธนาคารเราจะไม่ให้ผลตอบแทนกลับมาเลย ลองคิดดูว่า ถ้าหากเรามีเงิน 1 แสนบาท ฝากประจำกับธนาคารรับดอกเบี้ย 2% จะได้ผลตอบแทนต่อปีเพียงแค่ 2,000 บาทเท่านั้น ซึ่งเหตุการณ์แตกต่างจากในอดีตที่ดอกเบี้ยฝากประจำกับธนาคารที่สูงเกินกว่า 10% ทำให้การออมเงินในธนาคารถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากเมื่อเทียบกับการลงทุนในสินทรัพย์รูปแบบต่างๆ แต่การออมเงินในปัจจุบันไม่ได้สวยงามอย่างในอดีตแล้ว ถ้าหากไม่คิดปรับตัวอาจจะทำให้ผลตอบแทนของเราต่ำกว่าที่ควรจะเป็น

อีกปัจจัยหนึ่งที่เข้ามากัดกินความมั่งคั่งของเรา (Wealth) นั่นก็คือ เงินเฟ้อ (Inflation) ปัจจัยด้านเงินเฟ้อถือเป็นปัจจัยสำคัญที่คนทั่วไปมักจะละเลย ทำให้การตัดสินใจลงทุนของคนเหล่านี้เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดและไม่สามารถให้ผลตอบแทนได้สูงกว่าอัตราเงินเฟ้อ ผลตอบแทนที่ต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อจะส่งผลให้เงินของเรามีขนาดเล็กลง กล่าวคือ เงิน 100 บาทในปีนี้เมื่อเทียบกับปีที่แล้วจะซื้อของได้น้อยลงนั่นเอง ดังนั้นการนำเงินไปลงทุน TerraBKK Research อยากแนะนำว่า ผลตอบแทนอย่างต่ำๆ ต้องมากกว่าอัตราเงินเฟ้อซึ่งส่วนใหญ่แล้วเงินเฟ้อจะอยู่ประมาณ 4% ต่อปี

คำถามคือมีสินทรัพย์ประเภทไหนบ้างที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อ? คำตอบคือ สินทรัพย์ที่สามารถชนะเงินเฟ้อได้จะต้องเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่สูง การจะหาสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่สูง สิ่งที่จะต้องแลกกลับมาก็คือความเสี่ยงที่เพิ่มสูงขึ้นนั่นเอง แต่ไม่ว่าการลงทุนไหนๆ ก็มีความเสี่ยงทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการฝากธนาคารที่ต้องเสี่ยงกับธนาคารล้มละลายซึ่งมีให้เห็นในสมัย Hamburger Crisis หรือสมัยต้มยำกุ้ง จนเกิดเป็นคำพูดคำนึงว่า “การลงทุนมีความเสี่ยง แต่การไม่ลงทุนนั้นเสี่ยงกว่า”

ในครั้งนี้ TerraBKK Research จะขอนำเสนอสินทรัพย์เพื่อการลงทุนประเภทหนึ่งที่มีคุณสมบัติช่วยป้องกันเงินเฟ้อ มีสภาพคล่องสูง ใช้เงินลงทุนเท่าไรก็ได้ และให้ผลตอบแทนในระดับที่น่าพอใจ สินทรัพย์ชิ้นนั้นก็ คือ ทองคำ (Gold)

ทองคำ ถือเป็นสินทรัพย์ที่อยู่คู่กับโลกใบนี้มาอย่างยาวนาน จากเอกลักษณ์ของทองคำที่มีค่าเช่นเดียวกับเงินสดและถูกใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนกับผู้คนทั่วโลกจึงทำให้ทองคำมีสภาพคล่องสูง นอกจากนั้นยังถูกนำมาเป็นเงินทุนสำรองประกันความผันผวนของค่าเงินอีกด้วย สิ่งหนึ่งที่ทำให้ทองคำน่าลงทุนนั่นก็คือ ทองคำสามารถป้องกันเงินเฟ้อได้จากคุณสมบัติด้านสภาพคล่องและความเสี่ยงที่ต่ำจึงถูกมองเป็นสินทรัพย์เก็บมูลค่าที่น่าเชื่อถือในระยะยาว ขณะที่มูลค่าของสินทรัพย์อื่นอาจจะด้อยค่าล่า แต่ทุกครั้งที่เกิดความไม่ชอบมาพากลของเศรษฐกิจ การเมือง หรือเหตุการณ์ไม่แน่นอนต่างๆ ทองคำจะกลายมาเป็นแหล่งพักเงินที่ปลอดภัยที่สุด

ถ้าหากเรามองในแนวโน้มใหญ่ของโลก TerraBKK พบว่า โลกทุกวันนี้แตกต่างจากในอดีตไปมากโดยเฉพาะโลกการเงิน จากเดิมที่หลายๆ ประเทศไม่ว่าจะเป็น อเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น ต่างก็มีเศรษฐกิจที่ดี แต่ทุกวันนี้ประเทศเหล่านี้กลับชะลอตัวลงและต่างพิมพ์เงินออกมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของตนเอง (Quantitative Easing : QE) ทำให้ปริมาณเงินบนโลกใบนี้เพิ่มขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ด้วยปริมาณเงินที่ออกมาอย่างมหาศาลส่งผลให้เงินเหล่านี้ไหลเข้าสู่ ตลาดเงิน ตลาดทุน และเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดเงินเฟ้อในที่สุด แต่สิ่งที่เป็นผลกระทบทางอ้อมคือ ค่าเงินที่ขาดความน่าเชื่อถือจากการที่ไม่มีสินทรัพย์หนุนหลัง

ขอบคุณภาพจาก : efinance


ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยเรื่องการขาดความน่าเชื่อถือของค่าเงินและปริมาณเงินที่ล้นโลกอยู่ทุกวันนี้ เมื่อมองไปในอนาคตเครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการพิมพ์เงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจคงเป็นกระแส (Trend) ของโลกไปอีกซักระยะหนึ่ง จากความไม่น่าเชื่อถือในตัวสกุลเงินของแต่ละประเทศและเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องสิ่งเหล่านี้ล้วนแต่ส่งผลดีกับทองคำในระยะยาว ทำให้ทองคำถูกมองเป็นสินทรัพย์ที่ช่วยรักษามูลค่าและถือเป็นเงินตราที่มีความน่าเชื่อถือและปลอดภัยที่สุด

ถ้าหากเราดูราคาทองคำก็พอจะเห็นได้ถึงอุปสงค์และอุปทานของทองคำได้อย่างชัดเจน ปัจจุบันราคาทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากและในช่วงเวลานี้ก็กลับมาปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง

นอกจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำตามเศรษฐกิจโลกแล้ว ราคาทองคำยังผันผวนตามความมั่นคงของประเทศอีกด้วย ยิ่งภาวะที่มีการก่อการร้าย สงคราม หรือความไม่แน่นอน ทองคำจะกลายเป็นสิ่งเดียวที่คนทั่วโลกเชื่อถือและใช้ในการแลกเปลี่ยนมากที่สุด

ปัจจุบันการลงทุนในทองคำสามารถลงทุนหรือออมได้หลายรูปแบบผ่านทาง ร้านทอง กองทุนรวมทองคำ หรืออาจจะเป็นการออมทองแบบ Dollar Cost Average ก็มีให้เลือกลงทุนเช่นเดียวกัน แต่สิ่งหนึ่งที่นักลงทุนอาจจะต้องพึงระวังในการลงทุนทองคำ คือ ความผันผวนของราคาทองคำที่ขึ้นลงอยู่ตลอดเวลาอาจจะทำให้นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำอาจจะไม่เหมาะ แต่ในระยะยาวแล้วทองคำจะช่วยรักษามูลค่าจากเงินเฟ้อได้ บทความโดย : TerraBKK เคล็ดลับการลงทุน TerraBKK ค้นหาบ้านดี คุ้มค่า ราคาถูก

อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ : TerraBKK.com

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook