หยุดชำระหนี้บัตรเครดิต มีผลต่อเครดิตบูโรหรือไม่ ?

หยุดชำระหนี้บัตรเครดิต มีผลต่อเครดิตบูโรหรือไม่ ?

หยุดชำระหนี้บัตรเครดิต มีผลต่อเครดิตบูโรหรือไม่ ?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สำหรับคนที่ทำบัตรเครดิตแล้วขาดวินัย ที่มักจะใช้จ่ายเกินความสามารถของตนเอง ทำให้การชำระค่าบัตรเครดิตในแต่ละเดือนไม่เพียงพอและต้องจ่ายขั้นต่ำ จนถึงการหยุดชำระหนี้บัตรเครดิต ไปเลยก็มี เพราะเหตุนี้จึงทำให้ไปสู่หนทางแห่งการเป็นหนี้บัตรเครดิตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะไม่สามารถหาเงินมาชำระหนี้บัตรเครดิตได้ ทำให้ดอกเบี้ยเพิ่มมากขึ้นทุกวัน แถมเงินต้นก็สะสมเพิ่มขึ้น แค่เพียงเงินเดือนจะมาปิดหนี้ก็ยังไม่เพียงพอ แม้จะชำระขั้นต่ำไปเรื่อยๆ แต่ก็ไม่หมด จึงตัดสินใจไม่ชำระ ซึ่งเป็นการ หยุดชำระหนี้บัตรเครดิต นั่นเอง

การตัดสินใจหยุดชำระหนี้บัตรเครดิต เป็นผลดีหรือไม่ ?

ในสังคมไทยการเป็นหนี้บัตรเครดิต ถือได้ว่าเป็นปัญหาที่สร้างความทุกข์ให้กับผู้คนจำนวนมาก ทั้ง ๆ ที่ผู้คนเหล่านี้ก็รู้กฎ และกติกา มารยาทต่างๆ ในการใช้บัตรเครดิต แต่ก็ยังเผลอและอดใจไม่ไหวที่จะใช้จ่ายเกินเงิน การตัดสินใจหยุดชำระหนี้บัตรเครดิต สามารถทำได้ในกรณีที่ไม่สามารถหาเงินมาปิดหนี้ได้ แต่อย่างพึ่งดีใจ เพราะสิ่งที่คุณจะต้องเจอ คือ ทางสถาบันการเงินจะเริ่มทำการส่งจดหมายแจ้งเตือนให้ลูกหนี้ ได้ทำการชำระหนี้ภายในระยะเวลาที่กำหนด และหากลูกหนี้ยังนิ่งเฉย โดยที่ไม่สะทกสะท้าน ทางสถาบันการเงินก็จะทำการจำหน่ายเรื่องออกไปที่สำนักงานกฎหมาย เพื่อทำการดำเนินการทางกฎหมาย

และเมื่อเรื่องไปถึงฝ่ายกฎหมาย แน่นอนว่าคุณกำลังจะตกที่นั่งลำบาก เพราะ หน้าที่ของฝ่ายกฎหมาย คือ ให้ลูกหนี้ชำระหนี้ให้เร็วที่สุด และเมื่อเรื่องถึงศาล ศาลก็จะบังคับให้คุณชำระหนี้ ซึ่งในจังหวะนี้คุณอาจจะลองขอประนอมหนี้ ด้วยการชำระเป็นงวดๆ แต่หากคุณไม่สามารถนำเงินมาชำระได้ แม้จะได้รับการผ่อนปรน ทางสถาบันการเงินก็อาจจะมีการยึดทรัพย์ของคุณและจัดการนำไปขายทอดตลาด เพื่อนำเงินมาชำระหนี้

ผลเสียของการหยุดชำระหนี้บัตรเครดิต

การตัดสินใจหยุดชำระหนี้บัตรเครดิต คือการที่คุณ ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย เพราะ ไม่มีจะจ่ายจริงๆ ซึ่งในหลักของความเป็นจริงแล้ว สถาบันการเงินเองก็เหมือนกับว่าได้ให้เงินคุณไปใช้จ่ายก่อนล่วงหน้า หน้าที่ของผู้ใช้บัตรเครดิต ก็คือต้องชำระคืนตามระยะเวลาที่สถาบันการเงินได้กำหนด หากล่าช้ากว่าที่กำหนด สถาบันการเงินก็จะคิดอัตราดอกเบี้ยตามที่ได้แจ้งไว้ตั้งแต่เริ่มสมัคร คุณไม่ต้องมาโวยวายว่าสถาบันการเงินโหด คิดดอก เบี้ยแพง เพราะก่อนที่คุณจะโวยวายควรกลับไปอ่านเงื่อนไขให้ชัดเจน ซึ่งสุดท้ายก็ต้องเป็นหนี้ และต้องหาเงินมาจ่าย อย่าปล่อยให้ดอกเบี้ยบานปลายเกินแก้ไข

การเป็นหนี้เป็นเรื่องที่เสี่ยงมาก แต่เมื่อเป็นหนี้แล้ว ลองไปเจรจากับทางสถาบันการเงิน เพื่อหาแนวทางแก้ไข ซึ่งทางสถาบันการเงินยินดีที่จะช่วยเหลือคุณอยู่แล้ว เพียงแต่คุณอย่าหนีหนี้ หรือหยุดชำระหนี้บัตรเครดิต เพราะจะทำให้เกิดผลเสียต่าง ๆ ตามมาอีกมากมาย อย่างน้อยก็การทำธุรกรรมทางการเงินในอนาคต ที่คุณอาจเสียโอกาสแบบน่าเสียดาย

หยุดชำระหนี้บัตรเครดิตอย่างไร ไม่ให้เสียเครดิต

หลายคนไม่กล้าหยุดชำระหนี้บัตรเครดิต ทั้ง ๆ ที่เห็นว่าถูกเรียกเก็บดอกเบี้ยในอัตราที่สูงผิดปกติ เพราะกลัวว่าข้อมูลจะไปแสดงที่เครดิตบูโร ทำให้กลายเป็นเครดิตไม่ดี จนไม่สามารถไปทำธุรกรรมร่วมกับสถาบันการเงินอื่น ๆ ได้ การพบความผิดปกติ จ่ายเงินคืนไปเท่าไหร่เป็นแต่ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม เงินต้นแทบไม่หด ซึ่งหากตรวจสอบพบว่าบริษัทสินเชื่อเรียกเก็บดอกเบี้ยสูงผิดปกติ หลายคนอาจยอมทนก้มหน้าชำระหนี้ต่อไปเพราะกลัวว่าข้อมูลการขาดชำระหนี้จะไปแสดงที่เครดิตบูโร จนไม่สามารถทำธุรกรรมกับสถาบันการเงินอื่น ๆ ได้ แต่มีบางคนที่จะหยุดชำระหนี้ และไม่หวั่นเกรงในปัญหากับเครดิตบูโร เพราะไม่ใช่คนโกง

แนะนำลูกหนี้หยุดชำระหนี้บัตรเครดิต หากรู้ว่าเป็นหนี้จำนวนมาก

การที่จะไปกู้สถาบันการเงินอะไรนั้นต้องดูให้ดีก่อน อ่านให้ดี และตรวจเอกสารให้เรียบร้อย หรืออ่านให้ฟังก็ได้หากว่าอ่านไม่ออก ให้เขาคำนวณให้ดูก่อน เพราะว่าตอนนี้สถาบันแต่ละสถาบันจะมีการคำนวณไม่เหมือนกัน ดอกเบี้ยไม่เท่ากัน ก็ให้เขาคำนวณให้ดูตั้งแต่ต้นเลย จะได้ไม่ผิดพลาด แต่ถ้าคุณพลาดไปแล้วให้หยุดชำระหนี้บัตรเครดิตและไม่ต้องตกใจในคำขู่ และถ้ามีใครมายึดอะไรที่บ้านสามารถแจ้งตำรวจจับได้ทันที ไม่ต้องไปกลัวพวกนี้ก็แค่คนทวงหนี้ธรรมดา และก็ไม่ต้องไปด่า เพราะเขาก็ทำตามหน้าที่ของเขา ที่ต้องมาทวงหนี้เพราะกินเงินเดือน

หากรู้ว่าเป็นหนี้จำนวนมากหยุดชำระหนี้บัตรเครดิตทันที

รอให้ศาลเป็นผู้พิจารณาให้เสร็จ หากรู้ว่าเป็นหนี้จำนวนมากหยุดชำระหนี้บัตรเครดิตทันที โดยใช้เวลาช่วงนี้เก็บเงินไว้ชำระหนี้ทีหลัง มีลูกหนี้ที่มีปัญหา เรื่องหนี้บัตรเครดิต หรือหนี้สินเชื่อบุคคล ที่มักได้รับการแนะนำว่า หากมีปัญหาหนี้บัตรเครดิตหลายใบ และมีปัญหาในเรื่องการผ่อนชำระ โดยปัญหาค่อนข้างวิกฤติ และหากยังชำระต่อไป ต้องประสบปัญหาต่อค่าใช้จ่ายในครอบครัว ซึ่งอาจจะต้องใช้วิธีการหมุนเวียนไปกดเงินจากบัตรเครดิตใบอื่นมาจ่าย เพราะยังห่วงเรื่องเครดิตของตัวเอง ซึ่งถือว่าเป็นแนวทางไม่ถูกต้อง


แนวทางที่ดีที่สุดคือ หากปัญหาหนี้ไม่มาก ให้เลือกชำระขั้นวงเงินขั้นต่ำก่อน หากภาระหนี้จำนวนมากแนะนำให้หยุดชำระหนี้บัตรเครดิตทันที เพื่อรอให้ศาลเป็นผู้พิจารณา โดยจะใช้เวลาอีก 4-5 เดือน เพื่อใช้เวลาในช่วงดังกล่าวเก็บเงินเป็นกองทุนเพื่อรอชำระหนี้บัตรเครดิตต่าง ๆ ภายหลัง ลูกหนี้ที่หยุดชำระหนี้บัตรเครดิต ระยะเวลาฟ้องร้องที่เจ้าหนี้จะต้องใช้สิทธิในการฟ้องร้อง คือหากเป็นหนี้บัตรเครดิต ระยะเวลา 2 ปี และหนี้สินเชื่อบุคคล 5 ปี หนี้ระหว่างบุคคลทั่วไป 10 ปี

สำหรับการยึดทรัพย์นั้น ทรัพย์สินที่เป็นเครื่องใช้ในครัวเรือนที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต มูลค่ารวมกัน 50,000 บาทแรก แต่ห้ามเจ้าหนี้ยึด โต๊ะรับประทานอาหาร เก้าอี้ เครื่องครัว โทรทัศน์แต่หากเป็นเครื่องประดับอย่าง สร้อย แหวน นาฬิกา สามารถยึดได้ ส่วนกรณีลูกหนี้มีเงินเดือนไม่ถึง 10,000 บาทต่อเดือน ก็ห้ามเจ้าหนี้ทำการอายัด แต่ภาระหนี้ไม่ได้หมดไป เพียงแต่ว่าให้ชะลอไว้ก่อน หากลูกหนี้เป็นข้าราชการ หรือลูกจ้างประจำส่วนราชการ ก็ห้ามเจ้าหนี้อายัดเงินเดือนเช่นกัน

สนับสนุนเนื้อหาโดย MoneyHub

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook