อ.สมเกียรติ แนะ 12 สาขาวิชาชีพที่จะเป็นอนาคตยุค 4.0
นักวิชาการ ชี้ ถึงยุค เทคโนโลยีเปลี่ยนโลก ประเทศไทยต้องปรับตัวรับมือให้ทันทุกภาคส่วน ประเทศจะรวยหรือจน ขึ้นอยู่กับสิ่งเหล่านี้ แนะนักศึกษา เตรียมตัวให้ดีศึกษาใน 12 สาขา ที่จะเป็นอนาคตของโลก
เมื่อวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา ดร.สมเกียรติ โอสถสภา นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์การเมือง ได้นำเสนอบทความถึงความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่กำลังจะเป็นอนาคตของโลก ที่เราเรียกกันว่ายุคอุตสาหกรรม 4.0 ในเฟซบุ๊กส่วนตัว Somkiat Osotsapa
โดยชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของเทคโนโลยีที่เกิดขึ้น ดังนั้น ภาครัฐต้องเตรียมรับมือและวางแผนสำหรับการเปลี่ยนแปลงนี้ โดยเฉพาะนักศึกษา ที่กำลังศึกษาในมัธยมต้นต้องวางแผนอนาคตในการศึกษาเพื่อรับการการเปลี่ยนแปลงในอนาคตนี้ด้วย
ทั้งนี้มีรายละเอียดที่น่าสนใจดังนี้
Somkiat Osotsapa
20 กรกฎาคม เวลา 22:21 น.
วันนี้ เห็นพาดหัวข่าวหุ่นยนต์เข้ามาทำงานแทนคนในโรงงานต่างๆ กระทั่งโรงงานผลิตอาหาร เรื่องนี้เตือนไว้ตั้งแต่ปี 2556 รัฐบาลที่แล้ว มาเร็วมากครับ ที่จริงเป็นรายงานคาดการณ์เทคโนโลยีปี ค.ศ. 2030 นี่แค่ปี 2016 ก็มากันแล้ว เร็วมากๆ พิสูจน์ว่าความรู้ในห้องเรียนนี่มันจริงมาก 55 เวลาอาจารย์สอนไม่ควรนั่งคุยกันหลังห้อง นั่งดูเมสเสจไรงี้
เทคโนโลยีที่เปลี่ยนโลก ประเทศจะจน จะรวยอยู่ที่เรื่องนี้
เขียนไว้เมื่อสองปีที่แล้วครับ เดือนตุลาคม 2556 ก่อนที่ราคาน้ำมันดิ่งทั่วโลก ผลจากเทคโนโลยีขุดเจาะน้ำมันใหม่ ราคาน้ำมันเหลือครึ่งเดียวเอง เล่นเอาบริษัทน้ำมันทั่วโลกจุก ส่งออกเม็ดพลาสติก ปิโตรเคมีไม่ออก การส่งออกลดทั่วโลก ข้อมูลพวกนี้มาจากหลายแหล่ง เช่น ซีไอเอ เอิร์นส แอนด์ ยัง แมคคินซี่ ไปดูมาเองบ้าง
เทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนโลก ประเทศไทยเตรียมรับมือ
เด็กที่เข้า ม.1 ปีนี้ อีก 17 ปีข้างหน้า อายุจะเพิ่ง30 ปีเท่านั้น ความเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีครั้งยิ่งใหญ่กำลังก้าวเข้ามา ประเทศไทยจะเป็น cow,star,dog หรือหมาขี้เรื้อนในเวทีโลก ขึ้นอยู่กับการวางนโยบายประเทศที่สอดรับกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงเร็วมาก เปลี่ยนทุกเดือน
เทคโนโลยี 12 ชนิดกำลังพัฒนาและถูกประยุกต์ใช้ด้วยอัตราเร่ง เทคโนโลยีเหล่านี้จะเปลี่ยนต้นทุนการผลิต จะเปลี่ยนโลก เปลี่ยนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แยกรวย จน จะกำหนดทิศทางการศึกษาทั้งมัธยม และอาชีวะ ทำให้อเมริกากลับมาเป็นประเทศที่เศรษฐกิจดี แก้ปัญหาหนี้ได้ ถ้าไทยไม่ทำอะไรวันนี้ ประเทศจะจนมาก ล้มเหมือนโนเกีย แบล็กเบอร์รี่ใน3-4 ปี เหมือนร้านขายผ้าไหม ผ้าขาวม้าหลายแห่งที่ไม่พัฒนา ล้มไปแล้ว
mobile internet
automation of knowledge
internet of things
cloud technology
advanced robotics
autonomous vehicles
genomics
new energy storage
3d printing
advanced materials
advanced oil and gas recovery
renewable energy
ผมคิดว่าจะรวมเรื่องในสองสามโพสต์เข้าด้วยกัน เพื่อสะดวกในการทำความเข้าใจภาพรวม และเพื่อน้องๆจะได้ใช้เป็นแนวทางเลือกเรียน เตรียมนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น หรือใครจะเอาข้อมูลไปดูเลือกหุ้นก็ได้
ผมเชื่อว่าการสร้างประเทศไทยให้เข้มแข็งด้านเทคโนโลยี ต้องเริ่มที่การกระตุ้นให้เด็กๆของเราคิดการใหญ่ สร้างบริษัทของคนไทยเข้าตลาดหลักทรัพย์ บริษัทจะทำหน้าที่ไฟแนนซ์การวิจัย ดัดแปลง และจ้างเพื่อนฝูงเด็กโอลิมปิกมาร่วมกันทำงาน ประสบการณ์เห็นชัดจากศิษย์เก่าสวนกุหลาบ ที่สร้างบริษัท เอาเข้าจดทะเบียน หรือไปเป็น CEO ในกิจการสร้างโทรคมนาคม เอทานอล น้ำตาล เลนซ์แว่นตา ก่อสร้าง ปิโตรเคมี พลังงาน ด้านบริหารการเงิน โรงแรม บันเทิง เหล็ก หม้อแปลงไฟฟ้า น้ำมัน รถยนต์ การวิจัยเกิดจากบริษัทเหล่านี้ ยุคนี้ต้องสร้าง passion กันตั้งแต่เป็นนักเรียนมัธยม ประเทศอื่นก็มาแนวนี้ สร้าง หรือ ประยุกต์ ธุรกิจเทคโนโลยีไม่ได้ เทคโนโลยีก็ไปไม่ได้
Robotics หุ่นยนต์อัตโนมัติ
โรโบติกส์ ลดต้นทุนการผลิตรถยนต์ไปแล้ว 20% ต่อไปจะถูกใช้มากขึ้นในทุกอุตสาหกรรม อันนี้เรียกว่า precision tech เน้นความเที่ยงตรง ความเร็ว ลดต้นทุน
แต่คนไม่ตกงานหรอก เหมือนกับใช้เครื่องจักรในนาข้าว มันไปแทนแรงควาย ลดแรงคนนิดหน่อย แต่ได้ผลผลิตเยอะขึ้น จะมาสร้างงานใหม่ที่เกี่ยวข้องเช่น ขาย ขนส่ง ส่งออก ชิ้นส่วนมหาศาล ประเทศที่ไม่มีเทคโนโลยีและคนพวกนี้ ตีลังกา ตกเวทีโลกไปเลย
ข้อมูลที่เอามาเผยแพร่นี่ปกติเขาเก็บกันเงียบ เป็นผลประโยชน์ คนทั่วไปเข้าไม่ถึง คิดไม่ออก ตามไม่ทัน จนต่อไป ตอนนี้ราคาโรบอทลดลงกว่าเดิม 75-85%> baxter สองปีที่ผ่านมา ยอดขายโรบอททั่วโลกเพิ่มขื้น 170% ขายดี เพราะต้นทุนต่ำลง ราคาถูกลงกว่าเดิมมาก การพัฒนาหุ่นยนต์อัตโนมัติทำให้ต้องมีแผนผลิตคน อบรมคนทำงานทั่วโลก 320 ล้านคน ยังมีระดับบริหาร ฝ่ายสนับสนุนต่างๆ น้องๆที่เรียนวิศวะอย่าทิ้งภาษานะครับ รู้ภาษาโรบอท และอังกฤษ ไม่งั้นเป็นบ๋อยในช้อป
ตลาดใหญ่ๆ เช่น ตลาดการผ่าตัด มูลค่า 2-3 ล้านล้านเหรียญ ตลาดแรงงานอุตสาหกรรม 6 ล้านล้านเหรียญ ต่อไปคนมีความรู้จึงอยู่ได้ ไปคุมเครื่องพวกนี้ รู้วิธีซ่อมบำรุง แก้ไข ประยุกต์ เงินเดือนสูง เพราะของเขาแพง เป็นเซลล์ขายก็ดีครับ ฝ่ายบำรุงรักษาก็ดี ตั้งบริษัทก็ได้ อบรมก็ได้ จะได้พึ่งแรงงานต่างด้าวน้อยลง ทดแทนรุ่นพี่ผู้ชราด้วย โรบอทเข้ามาทำแทน ไม่ต้องห่วงว่าประเทศไทยจะมีคนทำงานไม่พอ
แผนประเทศไทยมีแล้วยังครับ เราต้องมีโครงการผลิตบัณฑิต ฝึกอบรมพนักงาน และสร้างแรงจูงใจให้โรงงานต่างๆใช้เทคโนโลยีใหม่ จะได้แข่งขันได้
Mobile Internet เช่น ไอโฟน ไอแพด สมาร์ทโฟน เมื่อปี1975 ราคาของ super computer ที่เร็วที่สุด คือ 5 ล้านเหรียญ ราว 100-150 ล้านบาท สมรรถนะก็พอกับ Iphone 4> MFLOPS.ในปัจจุบัน ที่ราคาแค่ 9 พันบาท ถูกลงมหาศาล วันนี้ยอดขาย smartphones และ tablets เพิ่มขึ้นมากกว่าเมื่อปี 2007 ถึง 8เท่าตัว กิจการ3 G ,4G มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย 4300 ล้านคน คนจะทำงานด้านนี้ร่วมหนึ่งพันล้านคนทั่วโลก ตลาดใหญ่ครับ เราต้องมีส่วนในการผลิตใน Global Value Chain กระทรวงวิทย์คิดออกหรือยังว่ามันคืออะไร มาเลย์ เกาหลี จีนมี
เทคโนโลยี mobile internet จะสร้างมูลค่า gdp ให้โลก1.7 ล้านล้านเหรียญ ค่าจ้างงานทั่วโลกที่เกี่ยวข้องกับการติดต่อสื่อสาร คือlogistics,finance,transport,consult มีมูลค่ารวมถืง 25ล้านล้านเหรียญ คิดเป็น 70% ของค่าจ้างงานทั่วโลก คนยุคต่อไปที่ขาดความรู้ด้านการสื่อสารด้วย mobile internet ทำงานลำบาก ช้ากว่าชาวบ้านเยอะ จะเสียเปรียบในที่ทำงาน ยิ่งงานระดับอินเตอร์ถึงเงิบครับ รัฐบาลวางแผนขับเคลื่อนอย่างไร อยากรู้
Internet of Things
วันนี้และในอนาคต การใช้อินเตอร์เน็ต เชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นจะขยายตัวกว้างขวางมาก ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา อัตราการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตกับอุปกรณ์อื่นเช่น TV เพิ่มขึ้น 300%.
ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา ราคาเซนเซอร์อุปกรณ์เชื่อมต่อ M2M คือจาก machine to machine ลดลงถึง 90 % เมื่อราคาถูกลง การเชื่อมต่อจึงขยายตัวกว้างขวาง ตลาดอุปกรณ์ M2m เชื่อมอินเตอร์เน็ตกับการขนส่ง ระบบความปลอดภัย สาธารณสุข ระบบบริการอื่นๆ โรงงาน บ้าน รถยนต์
ผู้ดูแลอสังหาฯมากมายหลายแห่งในอเมริกา มานั่งกดสั่งงานปิดเปิดระบบให้ผมดู ขณะนอนพักผ่อนที่เมืองไทย นี่เป็นตลาดขนาดใหญ่ ลูกค้าของธุรกิจอินเตอร์เน็ตเชื่อมต่อมีค่าใช้จ่ายดำเนินการราว36 ราว 36 ล้านล้านเหรียญ รายจ่ายด้านเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตจิ๊บๆมาก เราควรผลิตคนด้านไหน อย่างไร เข้าไปแอบดูการประดิษฐคิดค้นด้านนี้ของเกาหลีแล้วน่าที่งมาก ประธานาธิบดีเกาหลีเป็นพวกคลั่งเทคโนโลยี่และการวิจัย มีของออกมาขายเยอะ แล้วจะเอา invention list ของเกาหลีมาให้ดู เพียง 10-20 ปีไปโลด บางเทคโนโลยีใช้เวลาคิดจนพร้อมวางตลาดแค่3 ปี
Advanced gas and oil exploration,
คือ ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ของโลกพลังงาน สะเทือนอนาคตไทยมาก รวมถึง high speed train เรื่องพลังงาน เทคโนโลยีใหม่ในช่วง2-3 ปีที่ผ่านมา ประสิทธิภาพการขุดเจาะแก๊ส น้ำมันเพิ่มขึ้น 2-3 เท่าตัว หมายความว่าใช้เงินลงทุนเท่าเดิมได้ผลผลิตมากขึ้น ทำให้ได้แก๊สเพิ่ม22 พันล้านบาร์เรล น้ามันเพิ่ม 30 ล้านบาร์เรลทั่วโลก
สัมปทานแก๊ส น้ำมันในอ่าวไทย เราได้อะไรเพิ่มบ้างไหม ส่วนแบ่งนะครับ จะทำสัญญาใหม่ ดูส่วนแบ่งรายได้ให้ดี ยุคนี้มันเจาะได้ลึกขึ้น กว้างขึ้น คุณภาพดีขึ้น กลั่นได้ของดี รายได้จากการขายน้ำมันจะเพิ่มขึ้น 3.4 ล้านล้านเหรียญ แก๊สเพิ่ม800 พันล้านเหรียญ ราคาน้ำมัน แก๊ส หินน้ำมันจะเป็นเท่าใดหนอ ระวังว่าการสกัดน้ำมันจากหินน้ำมันจะทำให้ราคาน้ำมัน และแก๊สทั่วโลกลดลง จน ปตท. ยืนเป็นมัมมี่หนังจีน
ระบบenergy storage>พลังงานแสงอาทิตย์
ตั้งแต่ ค.ศ.2000 เป็นต้นมา ราคาโซลาเซลล์ลดลง85% ประหยัดค่าไฟฟ้าและผลิตไฟฟ้าปีละ 3.5 ล้านล้านเหรียญ ตลาดคาร์บอน 80000 ล้านเหรียญ ค่าไฟของไทยแพงไปมั้ย ตั้งราคารับซื้อจากผู้ผลิตสูงมากไปหรือเปล่า
แบตเตอรี่
ราคาแบตที่ใช้ลิเที่ยมไอออนลดลง40% รถยนต์หนึ่งพันล้านคันจะใช้เทคโนโลยีนี้ ที่เรียกว่า รถไฟฟ้า โปรดักส์แชมป์เปี้ยนรถยนต์ตัวที่สามของไทย จะมีชาวโลกได้ใช้ไฟฟ้าเพิ่ม1.2 พันล้านคน ลดการใช้แก๊สและน้ำมันมูลค่า2.5 ล้านล้านเหรียญ เพิ่มรายได้ให้คนที่ไม่เคยใช้ไฟ 100000 ล้านเหรียญ
โจทย์
รัฐบาลควรทำอะไร มีนโยบายอย่างไร หน่วยงานใดรับผิดชอบ คนไทยได้เสียอย่างไร ต้องปรับอะไรบ้าง การศึกษาควรปรับปรุงอย่างไร ผมคิดออกแล้วนะครับ ลอกการบ้านเค้ามาจากหลายๆประเทศเอามาทำเป็นยำปลาดุกฟูแบบไทย
โซลาเซลล์
พลังงานใหม่ ตั้งแต่ ค.ศ.2000 ราคาโซลาเซลล์ลดลง85% เพิ่มการเข้าถึงไฟฟ้า มีมูลค่าการผลิตปีละ 3.5 ล้านล้านเหรียญ ตลาดคาร์บอน 80000 ล้านเหรียญ ค่าไฟของประชาชนจะลดได้เท่าใด มันแพงไปมั้ย
จบแค่นี้ก่อนนะครับ ยังไม่ครบทุกเทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนโลกตอนนี้จนถึงสิบปีข้างหน้าเลย มันมาเร็วกว่าที่คิดตั้ง 5-6 ปี มาเร็ว เคลมเร็ว น้ำมัน แก๊ส เม็ดพลาสติก ปิโตรเคมีไทยจอดไปแล้ว เพิ่มเติมวันนี้ อาจเป็น turn around แล้วมั้ง