จ่ายคืนบัตรเครดิตช้าได้มากที่สุดกี่วัน ?
ปกติการใช้บัตรเครดิตรูดเพื่อซื้อสินค้าและบริการต่าง ๆ จะเหมือนกับเป็นการที่เราได้ใช้เงินล่วงหน้า แล้วค่อยนำเงินไปชำระภายหลัง โดยทุกเดือนธนาคารจะทำการสรุปยอดบัญชีและส่งเป็นใบแจ้งยอดมาเพื่อให้เราไป ชำระเงินคืน มีจำนวนเงินที่ต้องชำระและวันที่กำหนดชำระที่แน่นอน วันที่กำหนดชำระนี้จะเป็นวันที่เดียวกันทุกเดือน เช่น ทุกวันที่ 10 ของเดือน หรือทุกวันที่ 25 ของเดือน เป็นต้น
หากเป็นไปได้เราควรชำระเงินคืนบัตรเครดิตก่อนหรือไม่เกินวันที่กำหนดชำระ ตามที่แจ้งไว้ในใบแจ้งยอดบัญชี เพื่อไม่ให้โดนคิดดอกเบี้ยหรือค่าปรับกรณีล่าช้าขึ้น รวมถึงไม่ให้สถานะของบัญชีถูกเปลี่ยนจากสถานะปกติเป็นสถานะจ่ายล่าช้าหรือ ผิดนัดด้วย
การคิดดอกเบี้ยจากยอดหนี้ค้างชำระของบัตรเครดิตนั้นเป็นเรื่องที่เราควรทำ ความเข้าใจกัน บัตรเครดิตปกติยอดใช้จ่ายจะ ได้เครดิตสูงสุดที่ 45 หรือ 55 วัน แล้วแต่บัตรและเป็นไปตามรอบบัญชี เมื่อถึงกำหนดตามวันชำระคืนแล้ว แต่เรายังไม่คืนธนาคารจะเริ่มคิดดอกเบี้ยโดยย้อนกลับไปคิดตั้งแต่วันแรกที่ เราทำรายการซื้อสินค้าหรือบริการผ่านบัตรกล่าวคือ ย้อนคิดดอกเบี้ยไปในระยะเวลา 45-55 วัน ที่ธนาคารเคยให้เครดิตไว้ด้วย นอกจากนั้นยังมีค่าใช้จ่ายที่เป็นค่าปรับกรณีจ่ายล่าช้าเป็นจำนวนเงินประมาณ 250-300 บาทต่อครั้ง ที่จ่ายช้าอีกด้วย
ในกรณีที่เรามีเงินไม่เพียงพอที่จะจ่ายคืนหนี้บัตรเครดิตได้เต็มจำนวน อย่างน้อยเราก็ไม่ควรหยุดจ่ายไปเสียเฉย ๆ เราควรจ่ายเท่าที่เราจ่ายได้และอย่างน้อยต้องจ่ายไม่ต่ำกว่าขั้นต่ำตามที่ใบ แจ้งยอดกำหนดไว้เพื่อเป็นการรักษาสถานะของบัญชี และถึงแม้ยอดที่ค้างจะโดนคิดดอกเบี้ย แต่ก็จะไม่โดนคิดค่าปรับหรือค่าทวงถาม
ผู้ใช้บัตรเครดิตบางคนกลัว ลืมจ่ายคืนบัตรตามวันที่กำหนด จึงเลือกที่จะตัดบัญชีบัตรเครดิตผ่านบัญชีเงินฝากของธนาคารทุกเดือน ก็จะทำให้หมดห่วงกังวลในเรื่องจ่ายช้ากว่ากำหนดไปได้ เพียงแต่ต้องมั่นใจว่าในบัญชีเงินฝากธนาคารมีเงินเพียงพอให้ตัดบัตรเครดิต ทุกเดือนเช่นกัน
ผู้ใช้บัตรเครดิตบางคนยังอยากเลือกที่จะจ่ายคืนบัตรเครดิตรายเดือนเอง โดยไม่ตัดบัญชีเงินฝากธนาคารก็เนื่องจากอยากตรวจสอบรายการในใบแจ้งยอดทุก ครั้งก่อนชำระคืน หากมีรายการแปลกปลอมผิดปกติเข้ามาในรายการ จะได้โทรแจ้งสอบถามเพิ่มเติมกับทาง call center ของธนาคารเจ้าของบัตรให้ชัดเจนก่อนที่จะชำระเงินคืน แต่หากเป็นกรณีที่จ่ายผ่านบัญชีเงินฝากธนาคารเมื่อถึงวันครบกำหนดชำระ เงินก็จะถูกตัดออกจากบัญชีธนาคารทันที หากมีรายการผิดพลาดหรือต้องการขอผ่อนผันก็ต้องติดต่อและรอธนาคารทำเรื่อง เครดิตเงินคืนเข้าบัญชีในภายหลัง
กรณีที่จ่ายคืนบัตรเครดิตเองในแต่ละ เดือน ทำให้มีโอกาสที่จะลืมจ่ายได้ มีคำถามว่าเราจะสามารถจ่ายคืนบัตรเครดิตช้ากว่าวันที่กำหนดชำระได้หรือไม่ หาก เราไปถามคำถาม จ่ายคืนบัตรเครดิตช้าได้มากที่สุดกี่วัน ? กับทางเจ้าหน้าที่ธนาคาร คงไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดที่จะตอบเราว่าจ่ายช้ากว่าได้กี่วัน เพราะเมื่อบอกลูกค้าไปลูกค้าก็จะยึดวันตามนั้นเป็นบรรทัดฐานในการจ่ายช้าได้ ตลอดไป
เจ้าหน้าที่มักจะแนะนำให้จ่ายก่อนหรือภายในวันกำหนดชำระเงินเท่านั้น ทั้งที่จริงแล้วเราสามารถจ่ายช้ากว่าวันที่กำหนดชำระในใบแจ้งยอดได้ 2-3 วันทำการ โดยที่ไม่โดนคิดดอกเบี้ยและค่าปรับล่าช้า โดยที่บัญชีของเรายังคงมีสถานปกติด้วย ดังนั้น หากกรณีที่เราลืมจ่ายเมื่อคิดได้ก็ควรรีบจ่ายคืนให้เร็วที่สุดภายใน 2-3 วันนี้ เท่านั้น ถือเป็นระยะเวลาที่ทุกธนาคารเจ้าของบัตรเครดิตอนุโลมให้กับลูกค้าได้ โดยที่รู้กันภายในไม่ได้แจ้งเป็นทางการให้กับลูกค้าทราบ แต่โดยมากเจ้าหน้าที่ธนาคารจะโทรมาทวงหรือส่ง SMS มาเตือนก่อน
นอกจากลืมจ่ายแค่ 2-3 วัน มีบางกรณีที่บางเดือนลูกค้ายุ่งมากจนลืมจ่ายไปเป็นเวลาหลายวัน บางครั้งเกินกว่า 7 วัน ทั้งที่เจ้าหน้าที่ธนาคารโทรมาทวงหรือส่ง SMS มาเตือนแล้วแต่ก็ยังลืม หากเป็นกรณีที่ ลูกค้ามีประวัติการชำระเงินคืนที่ดีตรงเวลามาโดยตลอด ก็สามารถโทรติดต่อเจ้าหน้าที่ธนาคารเพื่อแจ้งและขอความช่วยเหลือเป็นกรณี พิเศษ และอธิบายถึงเหตุผลในการจ่ายช้า เช่น
เดินทางไปต่างประเทศหรือต่างจังหวัดในช่วงที่เป็นวันกำหนดชำระเงินคืน เป็นต้น หากเป็นเหตุผลที่เข้าใจได้และไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย เจ้าหน้าที่ทำการเช็คประวัติแล้ว ลูกค้าจ่ายตรงทุกครั้งก็จะช่วยเหลือด้วยการยกเลิกดอกเบี้ยและค่าปรับล่าช้า ให้ โดยจะทำการปรับยอดบัญชีให้ในเดือนถัดไป
สำหรับยอดดอกเบี้ยหรือค่าปรับที่เข้ามาในบัญชีลูกค้าก็ไม่ต้องจ่ายให้หักออก จากยอดรวม แล้วจ่ายแค่ยอดที่เหลือเท่านั้น ธนาคารเจ้าของบัตรส่วนมากจะยินยอมให้เกิดกรณีแบบนี้ได้เพียงแค่ไม่เกินปีละ 1-2 ครั้ง เท่านั้น ดังนั้น หากลูกค้าลืมจ่ายหลายครั้ง ครั้งต่อ ๆ มาก็ต้องทำความเข้าใจว่าจำเป็นต้องจ่ายดอกเบี้ยและค่าปรับด้วย
ส่วนในกรณีของสถานะของบัญชีบัตรเครดิตที่จะรายงานไปยังเครดิตบูโรนั้น หากจ่ายช้าไปเพียงแค่ 2-3 วัน หรือไม่เกิน 30 วัน ก็ถือว่าไม่เป็นไร บัญชียังเป็นสถานะปกติอยู่ ต้องจ่ายช้าเกิน กว่า 30 วัน ขึ้นไป ก็จะถือว่ามีสถานะจ่ายล่าช้า และหากเกินกว่า 90 วัน ขึ้นไป ก็ถือเป็นหนี้เอ็นพีแอล (NPL) หรือหนี้เสีย ที่จะเริ่มมีปัญหาหากต้องการขอกู้เงินหรือขอสินเชื่อใหม่ในอนาคต
สนับสนุนเนื้อหาโดย MoneyHub