ออมนี้ไม่มีเครียด ฉบับมนุษย์เงินเดือน 20,000 ต้นๆ

ออมนี้ไม่มีเครียด ฉบับมนุษย์เงินเดือน 20,000 ต้นๆ

ออมนี้ไม่มีเครียด ฉบับมนุษย์เงินเดือน 20,000 ต้นๆ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลายคนเมื่อคิดอยากจะมีเงินก้อน แน่นอนว่าต้องคิดถึงเรื่องการออมเงิน ซึ่งการออมเงินนั้นก็มีหลากหลายรูปแบบ ทั้งที่เป็นการออมแบบเก็บเล็กผสมน้อย ออมแบบรายเดือนด้วยตนเอง ออมกับธนาคาร ออมแบบลงทุนให้งอกเงย กับ หุ้น ทองคำ เป็นต้น แต่บางคนก็ยังมีบ่นๆอยู่ว่า จะเอาที่ไหนไปออมล่ะ ในเมื่อแค่ค่ากินก็จะไม่อยู่พอแล้ว ไหนจะค่าครองชีพอื่นๆอีก เงินเดือนก็แค่ 20,000 ต้นๆจะเอาที่ไหนมาออมได้ อยากจะบอกทุกคนเหลือเกินค่ะว่า ไม่ว่าคุณจะมีเงินเดือนเท่าไหร่คุณก็สามารถทำการออมได้ ด้วยการเริ่มต้นจากสิ่งเหล่านี้ 

1. ถ้าคิดจะออม ต้องไม่คิดเรื่องจ่ายเพิ่ม แต่ควรที่จะคิดว่า จะเก็บเงินอย่างไรต่างหาก เคล็ดลับก็อย่างเช่น นั้น เราอาจจะเก็บออม 10 % ของเงินเดือน เงินเดือนเราได้ประจำอยู่ที่ 20,000 บาท หรือน้อยกว่านั้น จะเงินเก็บเดือนละ 10 % ของเงินเดือน

                  10x20,000  = 2,000 บาท

                         100

แค่สองพันบาท จะเก็บไม่ได้เชียวหรือ ? สองพันบาท ใน 1 ปี คุณจะมีเงินทั้งสิ้น = 24,000 บาท

ถึงแม้ว่า เงินจำนวนนี้ อาจจะไม่ใช่เงินที่มีจำนวนมากมายอะไร แต่นี่ก็เป็นวิธีง่ายๆที่จะสร้างนิสัยการเก็บออมในเบื้องต้น สำหรับคนที่เก็บออมเงินเป็นประจำอยู่แล้ว จะบอกว่าแค่นี้ยังน้อยไปค่ะ บางคนเก็บมากกกว่าที่ใช้จ่ายไปเลยก็มี แต่นั่นก็หมายความว่าเราจะต้องควบคุมและมีการวางแผนการเงินที่ดีพอ นั่นเองค่ะ


2. จ่ายเท่าที่จำเป็น ตรงนี้ต้องเตือนตัวเองอยู่เสมอๆว่า เราควรจ่ายให้กับสิ่งที่จำเป็นต่อการดำเนินชีวิตประจำวันเท่านั้น อะไรที่เป็นรายจ่ายฟุ่มเฟือย เช่น ค่าโทรศัพท์ ค่ากิน ค่าช้อปปิ้งรายสัปดาห์ต่างๆ ถ้าไม่จำเป็นก็ควรตัดออกไปค่ะ จะช่วยประหยัดมากขึ้น แถมเรายังสามารถลดรายจ่ายส่วนนั้นเก็บเป็นเงินออมได้ด้วย อย่างคุณผู้หญิง เช่น ปกติตั้งงบในการซื้อเครื่องสำอาง/ครีมบำรุงผิว ไว้ที่เดือนละ2,000 บาท อาจจะลดลงมาเหลือแค่ 1,000 บาท เราก็จะมีเงินเก็บเพิ่มอีกหนึ่งพันบาท

หรือใครที่เลิกงานชอบไปกินบุฟเฟต์ กินชาบูชิปิ้งย่าง สังสรรค์ ปาร์ตี้กับเพื่อนๆบ่อยๆ เราก็ลองงดๆลงเหลือเดือนละ 1-2 ครั้งบ้าง เอาเท่าพอหอมปากหอมคอ จะพบว่าเงินที่เหลือในส่วนนี้มีจำนวนไม่น้อยเลย เพราะถ้าไปแต่ละครั้ง อย่างต่ำๆก็หมดไปทีละพัน ไม่นับค่าออกเดท เลี้ยงสาว เลี้ยงเพื่อน เลยนะ เอาเป็นว่า จ่ายเท่าที่ต้องจ่าย ใช้เท่าที่จำเป็นแล้วกันนะคะ


3. รายได้เสริม เพิ่มเงินออม ถ้าว่างจากการทำงานประจำในช่วงวันยุดเสาร์-อาทิตย์ ลองทำงานเสริมดูสิ ยึดคติ ไม่เลือกงาน ไม่จน บางทีงานเสริมในวันนี้อาจจะเป็นงานประจำที่ดีในอนาคตได้ อย่างคุณสาวๆที่เสื้อผ้าล้นตู้ ตัวใส่บ้างไม่ใส่บ้าง บางตัวก็เก็บจนวุ่นวาย ซักรีดกันจนเหนื่อยแต่นานๆครั้งจะหยิบจับขึ้นมาใส่ซักที อาจจะลองเอามันมาจัดมุมใส่หุ่นหรือไม้แขวนสวยๆ อัพลงในโซเซียล ในกลุ่มขายเสื้อผ้ามือสอง ก็ถือว่าเป็นการหารายได้เสริมแบบเบาๆสบายๆ แถมยังได้เงินเก็บอีกนะเออ อย่างบางคนถึงกับได้ไอเดียความคิดต่อยอดรับเสื้อผ้ามาขายแฟชั่นกันจริงจังก็มีเช่นกัน


4. ฝากสลากออมสิน เก็บไปด้วย ลุ้นรางวัลไปด้วย เหมือนได้โชคสองต่อ อายุของสลากอยู่ที่ 3 ปี เหมาะมากกับใครที่ต้องการออมเงินไปด้วยและอยากจะเสี่ยงดวงไปด้วย แต่งานนี้ไม่เสียเปล่าแบบซื้อหวยหรอกนะคะ เพราะถึงแม้ว่าจะไม่ถูกรางวัลใดๆเลย ก็ได้รับดอกเบี้ยตามอัตราที่ทางธนาคารกำหนดไว้ แถมยังได้เงินต้นคืนครบตามจำนวนอีกด้วย แต่ถ้าถูกรางวัล ก็จะได้รับในส่วนของเงินรางวัลอีกด้วยค่ะ


5. ซื้อทองคำ ใครที่ชื่นชอบการซื้อขายทองคำ ลองเก็บออมกับทองคำดูสิคะ แบ่งเงินออกมาในแต่ละเดือนเช่น หัก 2,000 บาท จากเงินเดือน 20,000 เป็นเวลา 10 เดือน ก็ได้แล้วทอง 1 บาท ทำไปเรื่อยๆ ถ้าเรามีรายได้เพิ่ม ก็เอามาเก็บในส่วนนี้ก็จะได้ซื้อทองคำไวขึ้น เวลาที่ราคาทองปรับตัวสูง ก็นำออกมาขายทำกำไรต่อยอดไปอีกทาง


สำหรับเราชาวมนุษย์เงินเดือนนั้น ถึงมีว่าจะมีภาระเยอะ มีรายจ่ายเป็นร้อยแปดพันอย่างก็จริง แต่สุดท้ายแล้วเราก็ต้องหาสักวิธี เพื่อที่จะเก็บออมเงินให้ได้ วิธีการเก็บเงินของแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไป บางคนเก็บแบบรายเดือนไม่ได้ผล อาจจะเก็บผ่านการฝากธนาคาร หรือนำไปลงทุน เพื่อให้ได้เงินเพิ่มขึ้นมา หรือบางคนอยากจะเก็บ แต่รายจ่ายที่มีในทุกวันนั้นมันจำเป็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เราก็อาจจะต้องปรับพฤติกรรมการใช้เงินของเราใหม่ และพยายามขวนขวายหารายได้เสริม เพิ่มรายได้เพื่อนำเงินเหล่านั้นไปเก็บออม ก็ถือว่าเป็นแนวทางที่ดีเช่นกัน


แต่ไม่ว่าอย่างไร การที่เรามีความคิดอยากจะออมเงินนั้นเป็นเรื่องที่ดีมากๆค่ะ เผื่อวันหนึ่ง มนุษย์เงินเดือน20,000 ต้นๆอย่างเรา จะนำเงินออมเหล่านั้น ไปใช้ต่อยอดทำอย่างอื่น ทำธุรกิจ หรือลงทุน ก็สามารถทำได้ พื้นฐานที่คือต้องรู้จักตนเอง ในเรื่องของการประมาณการใช้จ่าย เอาเท่าที่จำเป็นนั้นเป็นสำคัญ ถึงแม้ว่าจะต้องใช้เวลากันสักหน่อย ก็ดีกว่าไม่ได้เริ่มอะไรเลย ฉะนั้นแล้ว ถ้าคิดจะออมก็ควรเลือกวิธีการให้เหมาะสมกับตนเองที่สุด จะได้ไม่เครียดและกระทบกับการใช้ชีวิตประจำวันอื่นๆ ฝากกันไว้ค่ะ

สนับสนุนเนื้อหาโดย MoneyHub

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook