After You คาเฟ่ขนมหวาน ต้นแบบความสำเร็จธุรกิจ Gen Y

คนรุ่นใหม่ยุคนี้ต่างมีความฝันอยากจะสร้างธุรกิจเป็นของตัวเอง กุลพัชร์ กนกวัฒนาวรรณ กรรมการ บริษัท อาฟเตอร์ ยู จำกัด คือ หนึ่งในนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่ก้าวขึ้นมาโดดเด่นอยู่ในแถวหน้า ด้วยการก่อตั้งแบรนด์คาเฟ่ขนมหวานที่ประสบความสำเร็จอย่าง After You เรื่องราวการทำธุรกิจของเธอได้กลายเป็นกรณีศึกษาและทำให้ชื่อของกุลพัชร์เป็นที่จดจำในฐานะผู้ประกอบการต้นแบบ หรือ Role Model สำหรับคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ที่อยากทำธุรกิจ

จากความหลงใหลและคลั่งไคล้ในการทำขนมมาตั้งแต่เด็ก คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เกิดร้าน After You ซึ่งถือเป็นคาเฟ่ขนมหวาน หรือ Dessert Cafe เจ้าแรกในตลาด แต่กุลพัชร์บอกว่า นั่นไม่ใช่แค่แรงบันดาลใจเดียวที่ทำให้เธอตัดสินใจทำธุรกิจตั้งแต่อายุแค่ 24 ปี แต่เป็นเพราะการสนับสนุนจากครอบครัวที่ทำธุรกิจส่งออกอาหารทะเลแช่แข็ง ซึ่งช่วยบ่มเพาะความเป็นผู้ประกอบการให้กับเธอ

“การเริ่มต้นธุรกิจตั้งแต่อายุยังน้อย ทำให้เรามีความกล้า ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี จริงๆ แล้วเคยขอครอบครัวเปิดร้านขนมตอนอยู่ ม.5 แต่ที่บ้านปฏิเสธ เพราะว่าเรายังเด็กเกินไป คุณพ่อบอกว่าถ้าเรามีความฝันก็ให้วาดเอาไว้ จึงเรียนรู้ฝึกการทำขนมด้วยตนเองและเก็บสะสมประสบการณ์มาเรื่อยๆ เวลาที่เราไปต่างประเทศ เห็นไอเดียในการทำธุรกิจอะไรที่น่าสนใจ ก็เก็บข้อมูลไว้ พอถึงวันที่เปิดร้านขนมของตัวเอง ทุกอย่างก็เลยง่ายเพราะคอนเซ็ปต์ทุกอย่างชัดมาตั้งแต่เริ่มต้น”

เพียงแค่ไม่กี่ปีชื่อของ After You ก็สามารถครองใจผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว สร้างปรากฏการณ์ลูกค้าเข้าคิวยาวที่หน้าร้าน จนต้องขยายสาขาเพิ่มขึ้นและเติบโตอย่างรวดเร็ว จนเตรียมเข้าตลาดหลักทรัพย์ภายในปีหน้า แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ กุลพัชร์บอกว่าเธอและลูกพี่ลูกน้องอย่าง แม่ทัพ ต.สุวรรณ เคยทำธุรกิจร้านอาหารทะเลมาก่อน ทว่าอาจจะยังไม่เส้นทางที่ลงตัว ประสบการณ์ครั้งนั้นจึงเป็นบทเรียนสำคัญที่ทำให้ทั้งคู่เรียนรู้ว่า Location คือ สิ่งสำคัญในการทำธุรกิจร้านอาหาร กุลพัชร์จึงตัดสินใจเลือกเปิดร้าน After You สาขาแรกที่ J Avenue ทองหล่อ โดยเธอบอกว่าเป็นการเลือกจากสัญชาตญาณ เพราะไม่มีใครเห็นภาพของธุรกิจชัดเจนได้ดีเท่ากับตัวเธอเอง

“การทำธุรกิจที่เป็นเจ้าแรกในตลาดง่ายกว่าไปทำตามคนอื่น เพราะการไปสู้กับแบรนด์อื่นที่ดังอยู่แล้ว มันไม่มีประโยชน์ สู้เรามาสร้างแบรนด์ที่เป็นคาแร็กเตอร์ของตัวเอง คนจะซึมซับได้มากกว่า ในขณะที่หากไปสู้กับตลาดที่อิ่มตัวแล้ว การก๊อบปี้ตามอาจจะดูง่าย แต่ในระยาวนั้นเหนื่อยกว่า ถ้าหากทำธุรกิจจาก Passion เราจะสบายใจกว่าการคำนึงถึงแต่ยอดขายหรือตัวเลข เพราะเราจะกดดัน เราต้องทำทั้งสองอย่างควบคู่กันไป Keyword สำคัญของเรา คือ ขายให้ได้ และทำแบรนด์ให้ติดตลาดก่อน แล้วทุกอย่างจะตามมาเอง”

ความสำเร็จของที่เกิดขึ้นของ After You นั้น เกิดจากจิตวิญญาณความเป็นผู้ประกอบการของกุลพัชร์และพี่ชาย ที่เรียนรู้และพัฒนาการผลิตสินค้าและบริการเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า โดยทางร้านจะออกเมนูใหม่ทุกๆ เดือน ซึ่งนับตั้งแต่เปิดร้านสาขาแรก กุลพัชร์ก็ได้คิดค้นสูตรขนมหวานที่จะเป็นพระเอกจานเด่นของร้านมาโดยตลอด หลังจากผ่านการลองผิดลองถูกมาหลายครั้ง จนกระทั่งในที่สุดก็ได้โปรดักต์ที่โดนใจลูกค้าอย่างเช่น เมนูฮันนี่ โทส

“จุดเด่นของเราคือ ขนมที่ทำสดใหม่ทุกจาน ในรูปแบบที่ไม่ซ้ำใคร ทุกเมนูของเรา 80 เปอร์เซ็นต์จะทำมาจากครัวกลาง และอีก 20 เปอร์เซ็นต์จะทำที่หน้าร้านแบบวันต่อวัน เราตั้งใจทำระบบ Management การบริหารจัดการในการผลิตตั้งแต่แรก โดยแยกครัวกลาง หน้าร้าน และออฟฟิศออกจากกัน เพราะเราเคยมีบทเรียนจากการทำร้านอาหารทะเลมาก่อน ข้อดีของการมีครัวกลาง คือเราสามารถควบคุมสูตรในการผลิตขนมทุกอย่างให้เป็นมาตรฐานเดียวกันได้ เพราะการทำขนมมีความละเอียดอ่อนมาก จึงต้องควบคุมคุณภาพให้เหมือนกันทุกสาขา และขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ที่จะใช้เป็นครัวกลางในอนาคต เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตรองรับการขยายธุรกิจในอนาคตด้วย”

ส่วนเรื่องการบริการ เราก็มีการลงทุนซื้อระบบคิวมาช่วยแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้รับความสะดวกมากขึ้น เราพยายามไม่ให้ลูกค้าต้องรอนานเกินไป ตั้งเป้าว่าภายในปีนี้จะขยายสาขาเพิ่มอีก 2 แห่งเพื่อรองรับปริมาณลูกค้าที่เพิ่มขึ้น”

นอกจากนี้ After You ยังโฟกัสกับระบบการบริหารจัดการของร้าน ไม่ว่าจะเป็น การจัดทำคู่มือปฏิบัติงานที่ชัดเจนให้กับพนักงานภายในองค์กรทั้งหมดกว่า 400 คน แบ่งออกเป็นออฟฟิศหลัก ประมาณ 50 คน ที่เหลือกระจายอยู่ตามหน้าร้านต่างๆ ที่มีอยู่กว่า 13 สาขาในปัจจุบัน พร้อมทั้งจัดระบบเทรนนิ่งพนักงานอย่างจริงจัง เพื่อให้การปฏิบัติงานภายในราบรื่นที่สุด


เรื่อง กองบรรณาธิการ
ภาพ กฤษภา ศิลปไชย
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี