คลังเสนอ! ใช้ ม.44 แก้ปัญหาเงินกู้นอกระบบ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอนายกรัฐมนตรีใช้อำนาจมาตรา 44 จัดการนายทุนให้กู้นอกระบบได้รับโทษหนักขึ้น พร้อมยืนยันไม่ปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มจากเดิมร้อยละ 7

วันที่ 5 ส.ค. 59 นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในงานมอบนโยบายแก่ผู้บริหารระดับสูงและข้าราชการในสังกัดในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด ว่า ผลงานของกระทรวงการคลังตลอดช่วงที่ผ่านมามีอย่างต่อเนื่องจำนวนมาก ช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจขยายตัวปีนี้ได้ตามเป้าร้อยละ 3.3 ส่วนไตรมาส 2 คาดว่าขยายตัวได้ถึงร้อยละ 3.4

โดยหลังจากนี้ได้วางแผนงานที่จะผลักดันต่อเนื่อง ทั้งการสร้างวินัยการเงินการคลัง การลดการคอร์รัปชั่น ลดความเหลื่อมล้ำ แก้ปัญหาหนี้นอกระบบ การวางแผนดูแลคนชรารองรับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ การตั้งหน่วยงานใหม่ขึ้นมากำกับดูแลสหกรณ์ออมทรัพย์และสถาบันการเงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทยไม่ได้กำกับดูแล

สำหรับแผนแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ได้เสนอนายกรัฐมนตรีใช้อำนาจตามมาตรา 44 เพื่อจัดการนายทุนให้กู้นอกระบบที่ให้กู้เกินร้อยละ 15 ต่อปีให้ได้รับโทษหนักขึ้นจากกฎหมายแพ่งเดิมที่กำหนดโทษปรับเพียงอย่างเดียว แต่การแก้กฎหมายใหม่จะกำหนดโทษอาญาด้วย ขณะเดียวกันจะให้ธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ตั้งหน่วยงานพิเศษแก้ปัญหาหนี้นอกระบบของลูกค้าโดยรัฐบาลสนับสนุน ซึ่งได้ส่งให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาแล้ว

ส่วนการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มจากปัจจุบันร้อยละ 7 จะไม่มีการปรับขึ้นเพราะการวางระบบการชำระผ่านภาษีทางอิเล็คทรอนิกส์จะมาช่วยให้การจัดเก็บได้เพิ่มขึ้นแทน นอกจากนี้จะมีแผนตั้งเมืองค้าขายชายแดนปลอดภาษีจะตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษที่ติดกับชายแดนประเทศเพื่อนบ้านเพื่อกระตุ้นการค้าและการบริโภคเพิ่มขึ้น

ด้าน นายอภิศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในวันที่ 11 ส.ค.นี้ จะมีการลงนามข้อตกลงกระทรวงคุณธรรมของกระทรวงการคลัง โดยมีอธิบดีทุกกรมและองค์กรด้านคุณธรรมภาคเอกชน เพื่อให้แต่ละกรมไปปฏิบัติการทำงานที่โปร่งใส และเป็นแบบอย่างให้กระทรวงอื่นทำตามต่อไป