เส้นแบ่งสัดส่วนระหว่างหนี้สินกับรายได้ ควรเป็นเท่าไหร่ดี

เส้นแบ่งสัดส่วนระหว่างหนี้สินกับรายได้ ควรเป็นเท่าไหร่ดี

เส้นแบ่งสัดส่วนระหว่างหนี้สินกับรายได้ ควรเป็นเท่าไหร่ดี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หนี้ ก็คือ การที่เรานำเงินของผู้อื่นมาใช้ก่อน แล้วเราค่อยใช้คืนเขาทีหลัง เมื่อพูดถึงหนี้บางคนอาจจะนึกถึงแต่ด้านไม่ดี เช่น รายได้ไม่พอกับค่าใช้จ่ายเลยต้องเป็นหนี้หรืออยากได้โน่นได้นี่แต่เงินไม่พอก็เลยไปสร้างหนี้ เป็นต้น ความหมายของหนี้แบบนี้เป็นความหมายในแง่ลบ หรือเป็นความหมายของการสร้างหนี้แบบไม่ดี แต่การสร้างหนี้ก็มีในมุมบวกเช่นกัน หากการเป็นหนี้นั้นเราตั้งใจและวางแผนไว้ก่อน รวมถึงการเป็นหนี้นั้นมีโอกาสที่จะสร้างความมั่งคั่งให้กับเราได้ ก็จะถือว่าเป็นหนี้คุณภาพหรือเป็นหนี้ที่ดี


มีนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมากมายที่เขาเหล่านั้นอาจจะไม่มีโอกาสแบบวันนี้ได้เลย หากก่อนหน้านี้เขาไม่ได้มีหนี้มาก่อน เพียงแต่การสร้างหนี้ของเขามีการวางแผน เป็นหนี้ที่มีระบบ เป็นหนี้ที่สร้างขึ้นเพื่อทำให้เกิดความมั่งคั่ง หรือเป็นหนี้ที่สามารถสร้างรายได้ให้กับเราได้ เป็นการนำเงินมาต่อเงิน คนที่ไม่มีทุนรอน หากอยากสร้างฐานะหรือความมั่งคงให้กับตนเองหรือครอบครัว บางครั้งก็จำเป็นต้องยืมเงินของคนอื่น เพื่อมาตั้งต้น ตั้งตัวทำอะไรบางอย่างเป็นธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้ เมื่อสร้างรายได้เพียงพอนอกจากสามารถนำเงินไปคืนหนี้ได้แล้ว ก็จะมีเงินเหลือมากพอที่จะต่อยอดขยายธุรกิจต่อไปได้อีกเรื่อย ๆ หนี้ก้อนนั้นก็จะถือเป็นเงินก้อนแรกที่ช่วยให้ธุรกิจก่อกำเนิดขึ้นมาได้


หากจะให้คำจำกัดความที่ชัดเจนของหนี้ที่ดีและหนี้ที่ไม่ดีก็ไม่ยาก

หนี้ที่ดี ก็คือ หนี้ที่สร้างรายได้ให้กับเราได้ เป็นหนี้ที่เมื่อเป็นแล้วไม่ก่อให้เกิดผลกระทบกับสภาพคล่องของตัวเรา

ส่วนหนี้ที่ไม่ดี ก็คือ หนี้ที่ทำให้เราจนลงหรือหนี้ที่มีผลกระทบกับสภาพคล่องของเรา

ยกตัวอย่างให้เห็นภาพแบบง่าย ๆ คือ การกู้เงินเพื่อซื้อรถ หากผ่อนรถยนต์เพื่อนำมาขับเองก็ต้องถือเป็นหนี้ที่ไม่ดี เพราะเมื่อเงินค่างวดที่ผ่อนรถทำให้รายได้ของเราลดลง ถือว่ามีผลกระทบกับสภาพคล่องของเรา ที่สำคัญเมื่อรถยนต์ถูกขับออกจากโชว์รูมแล้ว มูลค่ารถยนต์ก็จะลดลงทันที หากเราขายก็จะได้เงินไม่เท่ากับราคารถที่เราซื้อมา คิดอีกแง่ก็เหมือนเราจนลง

แต่หากเรากู้เงินเพื่อซื้อรถเพื่อนำมาทำเป็นรถเช่า แบบนี้ถือว่าเป็นหนี้ที่ดี เนื่องจากรถคันนั้นสามารถสร้างรายได้ให้กับเราได้ ถึงแม้เราต้องผ่อนรถแต่เราสามารถนำรายได้จากการให้เช่ารถมาผ่อนรถยนต์คันนั้นได้ ทำให้ไม่มีผลกระทบกับสภาพคล่องของเรา

หรือหากเป็นการกู้เงินเพื่อซื้อบ้านเป็นที่อยู่อาศัย ก็ถือเป็นหนี้ที่ดีเพราะเรามีความมั่งคั่งจากการเป็นเจ้าของบ้านและที่ดิน แต่เมื่อไหร่ที่เราผ่อนไม่ไหวเมื่อนั้นหนี้บ้านก็จะกลายเป็นหนี้ไม่ดีได้ เพราะมีผลกระทบกับสภาพคล่องของรายได้ของเรา แต่หากเรากู้เงินซื้อคอนโดเพื่อปล่อยเช่ามีรายได้ แบบนี้ถือว่าเป็นหนี้ที่ดี เป็นต้น


การจะเป็นหนี้นอกจากสิ่งสำคัญที่จะต้องดูถึงความจำเป็นของการก่อหนี้นั้นแล้ว สัดส่วนของหนี้ต่อรายได้ของเราก็เป็นสิ่งสำคัญที่เราควรคำนึงถึงก่อนเราจะสร้างหนี้ด้วย เพราะมันหมายถึงความสามารถของเราในการจัดการกับหนี้สินของเราได้ โดยที่ไม่มีปัญหาหรือไม่เป็นภาระกับเรามากจนเกินไปนั่นเอง การเป็นหนี้แบบปลอดภัยที่มีข้อแนะนำไว้ก็คือ หนี้ทุกประเภทที่เราก่อขึ้นไม่ควรเกิน 50% ของรายได้ เช่น

หากรายได้ของเราเดือนละ 50,000 บาท หนี้ที่จะต้องผ่อนชำระของเราก็ไม่ควรเกิน 25,000 บาท เป็นต้น เหตุผลก็คือเราต้องมีค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต้องใช้ในแต่ละเดือนด้วย หากเราเป็นหนี้ต้องผ่อนต่อเดือนมาก อาจมีผลกับค่าใช้จ่ายที่จำเป็นของเรา อีกทั้งหากยอดหนี้ที่ต้องชำระมากเกินไป ก็ทำให้เสียโอกาสในการนำรายได้ที่เหลือไปลงทุนเพิ่มด้วย เมื่อไรก็ตามที่เราเริ่มมีหนี้ เราอย่าลืมกฎสำคัญข้อนี้ ก็คือ อย่าให้ยอดหนี้ที่ต้องจ่ายเกินกว่า 50% ของรายได้ของเรา อย่าลืม ต้องท่องไว้ในใจตลอดเวลา


การที่หนี้จะไม่กระทบกับชีวิตของเรานั้น ก่อนเป็นหนี้เราต้องพยายามถามคำถามตัวเองก่อน ถามหลาย ๆ รอบเลย ว่าหนี้นั้นมันจำเป็นสำหรับเราหรือไม่ หากเราไม่ก่อหนี้จะเป็นอะไรหรือไม่ มีทางเลือกอื่นไหมที่ทำให้เราไม่เป็นหนี้ เช่น หารายได้เพิ่ม เมื่อเป็นหนี้แล้วเรามั่นใจว่าจะสามารถชำระหนี้ไปได้ตลอดจนกว่าหนี้จะหมดหรือไม่ เมื่อต้องผ่อนคืนหนี้มีผลกระทบอะไรกับรายได้หรือค่าใช้จ่ายที่จำเป็นสำหรับเราหรือไม่ ยืนยันว่าเราต้องถามคำถามเหล่านี้กับตัวเองก่อน เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องทำก่อนคิดจะเป็นหนี้ หากไม่มั่นใจที่หนี้นั้นจะไม่เป็นปัญหาสำหรับเราในอนาคตก็ไม่ควรก่อหนี้ตั้งแต่วันนี้ แต่หากมั่นใจว่าจะสามารถจัดการกับหนี้ต่าง ๆ ได้ก็ไม่มีปัญหาในการก่อหนี้อย่างใด


หากหนี้จำเป็นที่จะต้องเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเราก็ขอให้มีการวางแผนให้ดี เพื่อให้หนี้นั้นเป็นหนี้ที่เราสามารถจัดการได้และเป็นหนี้ที่ไม่สร้างภาระให้กับเรา นอกจากนั้นยังเป็นหนี้ที่จะสร้างความมั่งคั่งให้เราได้อีกเช่นกัน หากเราไม่คิดจะวางแผนเรื่องหนี้ให้ดีตั้งแต่ต้น ก็คิดว่าอย่าเป็นหนี้เลยจะดีกว่า มิเช่นนั้นหนี้นั้นจะกลายเป็นปัญหาในอนาคตสำหรับเราอย่างแน่นอน

สนับสนุนเนื้อหาโดย MoneyHub

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook