AIRLAB จุดนัดพบของคนรักกล้องฟิล์ม
ภาพถ่ายเปรียบเสมือนความทรงจำที่ถูกบันทึกไว้ด้วยกล้องถ่ายรูป ในยุคปัจจุบันที่กลายเป็นยุคแห่งดิจิตอลอย่างเต็มตัว ทุกสิ่งที่ทุกอย่างกลายเป็นเรื่องง่ายและอัตโนมัติ รวมไปถึงการถ่ายภาพก็เช่นกัน กล้อง Digital ได้รับความนิยมมากขึ้นตามยุคสมัย แต่ก็มีคนบางกลุ่มที่ยังคงหลงใหลเสน่ห์ของการถ่ายภาพในยุคเก่าด้วยกล้องฟิล์ม เพราะภาพแต่ละใบมีคุณค่าและต้นทุนต่างจากกล้องดิจิตอล ที่ไม่พอใจก็ลบแล้วถ่ายใหม่ได้ แต่ภาพบนฟิล์มนั้นจะคงอยู่ตลอดกาล มีอีกหนึ่งสถานที่สำหรับผู้ที่รักการถ่ายภาพด้วยกล้องฟิล์มในการให้บริการล้างและอัดภาพฟิล์มแบบ Full Stop Service กับ AIRLAB
ชาติฉกาจ ไวกวี ผู้ก่อตั้ง AIRLAB ชายหนุ่มที่มากด้วยประสบการณ์และความสามารถที่ถูกบ่มเพาะจนแตกดอกออกผลทางด้านการถ่ายภาพ การกำกับโฆษณา นอกจากนี้ ยังเป็นผู้เชี่ยวชาญการทำสิ่งต่างๆ ให้กลายเป็น Viral บนโลกอินเทอร์เน็ตจนมีผู้ติดตามเป็นจำนวนมากและเขานี่เองที่ถูกคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 35 ช่างภาพที่ดีที่สุดในโลก โดยเขาได้เล่าให้ฟังถึงที่มาที่ไปของ AIRLAB หรือสถานที่ที่เขาเรียกว่า อาณาจักรของชาติฉกาจ
“ผมคิดว่ามนุษย์เราทุกคนจะต้องมีเรื่องที่มั่นใจที่สุดหนึ่งเรื่อง เพราะเราเกิดมาเพื่อตายกับสิ่งนั้น สำหรับผมคือเรื่องการถ่ายภาพ AIRLAB เกิดจากการที่ผมอยากมีพื้นที่ที่ใหญ่ขึ้นและครบวงจร AIRLAB คือ แล็บของแอ๊ะ ผมชื่อแอ๊ะ ผมเป็นคนถ่ายรูป เล่นกล้องฟิล์มอยู่แล้ว เพื่อนก็ยุให้เปิดร้าน เราเองก็อยากมีห้องทำงาน มี Studio ของเราเอง เราเองเป็นนักการตลาดออนไลน์ ทำไปทำมา ปรากฏว่าแค่เดือนสองเดือน คนรู้จัก AIRLAB เป็นหมื่น ผมเลยคิดว่าหน้าร้านที่ดีที่สุดของผมก็คือ Facebook”
การให้บริการของ AIRLAB หลักๆ คือการล้างและอัดภาพฟิล์มสำหรับกลุ่มคนที่รักการถ่ายภาพด้วยกล้องฟิล์มแบบสมัยก่อน ซึ่งกระแสการกลับมาของกล้องฟิล์มในปัจจุบันก็ทำให้เกิดกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย
“บ้านเราจะได้ยินคำว่า One Stop Service ของเราคือ Full Stop Service ใหญ่กว่า ผมแอบเชื่อว่าคนไทยชอบถ่ายรูปมาก และยังมีคนไทยอีกหลายกลุ่มที่ยังถ่ายรูปด้วยกล้องฟิล์ม บางคนอาจคิดว่ากล้องฟิล์มตายแล้ว แต่ยังไม่ตาย เขาแค่ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน ร้านที่มีแบบเก่าจะเป็นร้านดั้งเดิม แต่เราทำให้ร้านล้างและอัดภาพฟิล์มกลายเป็น Lab Photography Service เรามี Identity มีเครื่องล้างฟิล์ม สแกนฟิล์ม มีจุดเด่นที่ห้องขาว-ดำ คนสมัยนี้เขาชอบถ่ายรูปขาว-ดำ จ้างเราล้าง อัดเป็นภาพซึ่งได้คุณค่ากว่า”
“ผมขายของที่มูลค่าไม่เยอะแต่คุณค่าเยอะ ผมคิดว่าตอนนี้ฟิล์มเป็นกระแสที่น่าสนใจ ถ่ายรูปด้วยฟิล์ม ดื่มกาแฟดริป ปั่นจักรยาน สะสมกางเกงยีนส์ เล่นรถโบราณ มันคือยุคเดียวกัน มาพร้อมกัน กลุ่มลูกค้าของผมถ้าไม่ขี่จักรยานก็ชอบแต่งตัว ลูกค้าจะหลากหลายมาก บางคนชอบถ่ายเฉยๆ เอาสนุก เท่ดี บางกลุ่มก็เริ่มต้นแบบยังไม่มีความรู้เลย อีกสักพักก็จะวัดกันว่าใครจะอยู่ใครจะไป อยู่ที่ความเบื่อ อีกกลุ่มหนึ่งเลยคือเลือดเก่า คนที่เคยถ่ายอยู่แล้ว คิดว่ากระแสจะกลับมา พวกรุ่นนี้อายุจะมากหน่อย ลูกค้าผมจะมีตั้งแต่วัยรุ่นไปจนถึงอายุ 70 ปีเลย”
สิ่งที่เป็นจุดเด่นที่สุดของ AIRLAB คือการที่ชาติฉกาจได้ปลุกวิธีการถ่ายภาพแบบโบราณเมื่อ 100 กว่าปีก่อนกลับมาเป็นคนแรก นั่นคือ การถ่ายภาพแบบฟิล์มกระจก
“ผมค้นพบวิธีการถ่ายภาพฟิล์มกระจกที่สาบสูญไป คนที่ผมได้ถ่ายคือ คุณฮิวโก้ และคุณเพชรา เชาวราษฎร์ คุณค่ามันมหาศาลมากเพราะนี่คือตำรับต้องห้าม มีแค่คนรวยและคนที่รู้คุณค่าเท่านั้น คุณต้องมีเงินในระดับหนึ่ง ความมัน คือสิ่งที่เป็นส่วนผสมมีสารพิษ ต้องใช้สารเคมี สูดดมเข้าไปในปอดแล้วจะตายเร็ว มีคนถามผมว่า ภาพที่ถ่ายออกมาจะมีตัวตนของผมไหม แน่นอนว่ามีสิ เพราะทุกครั้งที่ผมถ่ายภาพด้วยฟิล์มกระจกให้คุณ อายุผมจะสั้นลง นี่จึงตอบโจทย์ว่าทำไมราคาแพงและมีคุณค่า”
ความโดดเด่นและทำให้ AIRLAB เป็นที่รู้จักในช่วงเวลาอันสั้น นั่นคือความเป็น Community ที่ครบวงจร รวมถึงภายในพื้นที่ของ AIRLAB ยังมีส่วนอื่นไว้คอยให้บริการลูกค้าอีกด้วย
“เรา Run ที่นี่ด้วย Community ซึ่งเป็นส่วนที่ยากที่สุดในการทำธุรกิจ ต้องอาศัยความเชื่อ Royalty ของแบรนด์ ในพื้นที่ AIRLAB นอกจากจะมีส่วนของที่ล้างและอัดภาพฟิล์มแล้วยังมีร้านกาแฟให้คนมานั่งรอฟิล์ม ข้อดีของเราคือรอรับได้เลยแล้วแต่ความยากง่าย เราพยายามทำ Character ด้วยการมีโต๊ะยาวๆ ในร้านกาแฟ โต๊ะเดียวเพราะอยากให้คนรู้จักกัน คุยแลกเปลี่ยนเรื่องการถ่ายภาพ”
“บางวันพื้นที่ที่นี่ถูกเช่าเป็นที่แต่งงาน จัดปาร์ตี้ส่วนตัว มีคนมานอนกลิ้งบนสนามหญ้า และที่ดีใจที่สุดคือทุกเสาร์-อาทิตย์ จะมีเด็กวัยรุ่นที่มานั่งรอฟิล์ม นั่งเล่นช่วง 4-5 โมงเย็นและเขาจะเริ่มเสวนากัน เขาจะเริ่มต้นด้วยคำถามที่น่าสนใจอย่างเราจะเรียนถ่ายภาพไปทำไม ในเมื่อยุคนี้ใครๆ ก็ถ่ายภาพได้”
“บางวันก็มีช่างภาพรุ่นใหญ่มานั่งในวง เหมือนว่าเด็กเขาก็ได้เจอตัวจริงในวงการ นอกจากนี้ ยังมีส่วนของโรงเรียน หรือ Academy เราจะเปิดสอนเรื่อง การถ่ายภาพ การถ่ายวิดีโอ และ Online Marketing เราไม่มีใบประกาศอะไรให้ แต่เรามีประสบการณ์จริงมาสอนตั้งแต่ Basic ไปจนถึงการรับงานแบบ Professional เลย นอกจากนี้ ยังมี Studio มีห้องตัดต่อ ห้องทำสี ทำเสียง คือที่นี่มันเล็กแต่มันจบ ลูกค้ารุ่นใหม่ๆ เริ่มสนุกกับการมาที่นี่”
แม้ว่าการดำเนินธุรกิจของ AIRLAB จะเต็มไปด้วยเรื่องสนุกของชาติฉกาจที่ได้ทดลองสิ่งต่างๆ ภายใต้อาณาจักรทางธุรกิจที่เขาสร้างขึ้น แต่ในช่วงเริ่มต้นก็พบเจอกับอุปสรรคไม่น้อย
“ผมว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลย มีอุปสรรคที่เจอมากมาย โดนหลอกขายของในช่วงแรก โดนหลอก Set ระบบแล้วเจอว่าเป็นของเก๊ เพราะสิ่งของพวกนี้ เครื่องล้างฟิล์ม สแกนฟิล์ม มันไม่มีแล้วบนโลก เขามาขายฝันว่าจะทำให้เครื่องใช้ได้ ปรากฏว่าเช้าแก้ เย็นแก้ เราคุมความเสถียรมันไม่ได้ โดนคนมาหลอกเซ็ตระบบ”
“คำว่า เซ็ตระบบ คือเมื่อเขามาเซ็ตแล้ว เขาจากไป ระบบยังต้องอยู่ด้วยตัวเอง ต้อง Run ให้ได้ ไม่ใช่วางยาไว้แบบขาดเขาไม่ได้ ตอนแรกเราเป๋มาก คนที่มาหลอกทำฟิล์มลูกค้าหายบ้าง ล้างผิดบ้างเพราะเราดันเชื่อว่าเขาทำได้ เราคือเหยื่อรายใหญ่ ต้องเตือนคนรุ่นใหม่ที่จะทำธุรกิจเลยว่า อย่าไปเชื่อ 18 มงกุฎในสายอาชีพนั้น ในทุกวงการจะมี 18 มงกุฎและคนที่เก่งจริง อย่าเชื่อคนที่ชีวิตแย่กว่าคุณ จงทดลองเองหรือไม่ก็เชื่อคนที่เจริญกว่าเรา เก่งกว่าเรา ศึกษาหาข้อมูลให้เยอะ”
สุดท้ายชาติฉกาจได้พูดถึง AIRLAB ของเขาว่า เขาต้องการให้พื้นที่ตรงนี้เป็น Community ที่ดีต่อสังคม และเป็นจุดนัดพบสำหรับคนที่รักการถ่ายภาพในการแลกเปลี่ยนทัศนคติร่วมกัน
AIRLAB
www.facebook.com/airlabbkk
โทร. 09-9464-6535
เรื่อง : ยุวดี ศรีภุมมา
ภาพ : กฤษฎา ศิลปไชย
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี