7 เคล็ดลับรู้ทันซุปเปอร์มาร์เก็ตที่จะช่วยคุณประหยัดเงิน!

7 เคล็ดลับรู้ทันซุปเปอร์มาร์เก็ตที่จะช่วยคุณประหยัดเงิน!

7 เคล็ดลับรู้ทันซุปเปอร์มาร์เก็ตที่จะช่วยคุณประหยัดเงิน!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สวัสดีครับเพื่อนๆ หากพูดถึงเรื่องซุปเปอร์มาร์เก็ตยักษ์ใหญ่ ที่เราเข้าออกกันทุกๆ เดือนในการซื้อของใช้จำเป็นในบ้าน และของกินอยู่เป็นประจำนั้น เพื่อนๆ รู้มั้ยครับว่า ซุปเปอร์มาร์เก็ตเหล่านั่น ทุ่มงบเป็นจำนวนมากในการทำวิจัยและสำรวจ เพื่อให้ได้ผลออกมาว่า คนเรานั้นมีนิสัยการซื้อของอย่างไร และทำอย่างไรจะทำให้เราซื้อมากขึ้นได้ ทำให้ห้างเหล่านั้นมีแทคติกมากมายมาทำให้เรารู้สึกอยากซื้อของมากขึ้น ซึ่งบทความนี้เราจะมาบอกกับเพื่อนๆ ครับว่า บางครั้งถ้าเรารู้ทันแทกติกเหล่านั้น เราก็อาจจะไม่ตกเป็นเหยื่อการตลาดมากจนเกินไป และทำให้เราประหยัดเงินได้มากขึ้นนั่นเอง เรามาดูกันเลยครับว่ามีเรื่องอะไรบ้าง

1. กลเม็ดกำหนดจำนวนซื้อสูงสุดต่อสินค้า
เพื่อนๆ เคยเห็นมั้ยครับ สินค้าบางอย่างจะมีป้ายเขียนไว้ชัดเจนเลยว่า หนึ่งครอบครัว หรือหนึ่งท่านซื้อได้ไม่เกิน 3 แพ็กหรือ 5 แพ็ก เป็นต้น ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องของจิตวิทยาครับ เพราะห้างสรรพสินค้าพวกนี้ทำวิmจัยมาแล้วพบว่า หากลูกค้าเห็นว่ามีการกำหนดจำนวนสูงสุดต่อสินค้าที่ซื้อได้ ย่อมคิดว่าสินค้านี้ดี และเป็นสินค้ายอดนิยม ซึ่งจากที่เราอาจจะต้องการซื้อเพียงแค่ 1 แพ็ก สุดท้ายหลายครอบครัวอาจตกเป็นเหยื่อด้วยการซื้อจำนวนสูงสุดที่ซื้อได้นั่นเองครับ

2. กลยุทธ์การจัดวางสินค้า
สินค้าที่ประเภทเดียวกันแต่แพงกว่าจะถูกจัดวางไว้บนชั้นที่ระดับสายตานะครับ เพราะฉะนั้น หากลูกค้าคนไหนรีบๆ โดยไม่ดูให้ถี่ถ้วนครบทั้งชั้น ก็จะจบลงที่ซื้อของที่แพงกว่า และอาจจะไม่จำเป็นก็ได้ครับ เพราะฉะนั้น ก่อนตัดสินใจหยิบ ลองมองให้ถี่ถ้วนสักนิด อาจจะเจอของที่ดีเหมือนกัน ใช้ได้เหมือนกัน แต่ราคาถูกกว่าก็เป็นได้

3. โปรโมชั่นซื้อสองชิ้น...ในราคาเพียง…
คุณกำลังเดินไปซื้อแชมพูอันโปรดที่ชั้นวางสินค้า แต่สิ่งที่คุณเห็นและทำให้คุณตาวาวก็คือ มันมีราคาแปะว่า ซื้อในราคา 1xx บาท คุณจะได้สินค้าอันนั้น 2 ชิ้น ซึ่งถึงแม้ว่าคุณตั้งใจมาซื้อแค่ชิ้นเดียว หรือขวดเดียว คุณก็อาจจะจบลงด้วยการซื้อสองชิ้นโดยไม่จำเป็น ซึ่งบางครั้งมันก็คุ้มกว่าจริงๆ ครับ เพราะเป็นโปรโมชั่นลดราคาจริงๆ แต่บางครั้งก็อาจจะแพงกว่า วิธีนึงที่คุณอาจจะพอเช็คได้ นั่นคือการดูที่ป้ายราคาด้านล่างของป้ายราคาใหม่ว่า 1 ชิ้นราคาเท่าไหร่ และสองชิ้นที่จ่ายเพิ่มมามันคุ้มค่าหรือไม่นั่นเอง

4. เทียบขนาด ความจุ และราคาเสมอ
บางครั้ง คุณอาจมีความเชื่อว่า ขนาดสินค้าที่ใหญ่กว่า ความจุมากกว่า จะราคาคุ้มค่ากว่าเสมอ โดยที่ไม่ได้เทียบราคาก่อน มันไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไปนะครับ บางครั้งขวดที่เล็กลงมาก อาจจะราคาถูกกว่าเมื่อเทียบกันต่อหน่วยปริมาตร หรือความจุก็เป็นได้ เพราะฉะนั้น เวลาซื้อ ให้นำราคาหารด้วยปริมาตรคร่าวๆ ก่อนเสมอ รับรองว่าประหยัดได้แน่นอนครับ

5. แพคเกจหรือการแสดงสินค้าที่หรูหรา อาจเป็นกลลวง
ซุปเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ๆ นั้น บางครั้งจะมีการจ้างผู้เชี่ยวชาญ เอเจนซี่ มาตกแต่งออกแบบบูธขายสินค้า ตกแต่งให้น่าเข้า มีการใส่รูปคนที่ดูท่าทางมีความสุขเข้าไป เพื่อสื่อออกมาว่า หากใช้หรือบริโภคสินค้านั้นๆ เราก็จะมีความสุขตามไปด้วย ซึ่งมักจะเป็นผลครับ ทั้งๆ ที่เราอาจจะไม่ได้ตั้งใจไปซื้อของชิ้นนั้นๆ เลยก็เป็นได้ เพราะฉะนั้น ตั้งสติ และดูตามรายการสินค้าที่เราจดไปจะดีที่สุดครับ

6. เปลี่ยนที่วางสินค้า ทำทีว่าเซล
สินค้าบางอย่างถูกย้ายที่จากที่เดิม ไปตั้งไว้ที่ขอบด้านหน้า หรือด้านหลังสุดของชั้นวางของ และแปะป้ายเซล ทำให้ลูกค้าเดินผ่านไปผ่านมารู้สึกเตะตา ทั้งๆ ที่มันอาจจะลดราคาจริงๆ หรือไม่ลดก็ได้ ให้ลองเดินเข้าไปตามชั้น อาจจะเจอสินค้าแบบเดียวกันในที่เดิมของมันที่ราคาเท่ากัน แต่ไม่มีป้ายราคาเซลนั่นเองครับ ซึ่งเป็นราคาปกติ ซึ่งทางห้างนำไปจัดวางหลอกตาเท่านั้น

7. ของชิ้นเล็ก ชิ้นน้อยล่อตาล่อใจ ตรงที่จ่ายเงิน
ไม่ว่าจะเป็นลูกอม ช็อกโกแลต หมากฝรั่ง ที่ตั้งรายเรียงอยู่ที่บริเวณจ่ายเงิน คุณอาจคิดว่ามันคิดเป็นเงินไม่กี่บาท และคุณยืนรอนานๆ คุณอาจจะคิดอยากได้ขึ้นมา ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วคุณไม่ใช่คนที่พกลูกอมหรือหมากฝรั่ง และไม่ได้จำเป็นเลยซักนิด เพราะฉะนั้น ข่มใจตั้งสติ และรอจ่ายเงินอย่างเดียวดีกว่าครับ โฟกัสกับสิ่งที่คุณต้องการมาซื้อจริงๆ เท่านั้น

เห็นแล้วใช่มั้ยครับเพื่อนๆ ว่าการไปซุปเปอร์มาร์เก็ตทีนึง มีอะไรล่อตาล่อใจให้เราซื้อของเกินความจำเป็นมากมาย หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ โดยเฉพาะบรรดาแม่บ้านไม่มากก็น้อยนะครับ แล้วเจอกันใหม่เรื่องหน้า มาดูกันว่าพี่หมีโกแบร์จะเอาเรื่องราวอะไรมาฝากกันนะครับ

ติดตามพี่หมีโกแบร์ www.gobear.co.th 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook