รวมค่าธรรมเนียม รูดบัตรเครดิตต่างประเทศ ทุกธนาคาร

รวมค่าธรรมเนียม รูดบัตรเครดิตต่างประเทศ ทุกธนาคาร

รวมค่าธรรมเนียม รูดบัตรเครดิตต่างประเทศ ทุกธนาคาร
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

การรูดบัตรเครดิต ในต่างประเทศ ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนยุคใหม่ ที่ต้องการความสะดวกสบายในการใช้จ่าย โดยไม่ต้องพกเงินสดติดตัวไปไหน มาไหน เป็นการป้องกันอันตราย และป้องกันการสูญหายของทรัพย์สินได้เป็นอย่างดี การที่คุณมีบัตรเครดิตไว้ใช้ในต่างแดนนั้นก็ถือเป็นสิ่งดี แต่สิ่งหนึ่งที่คุณต้องให้ความสำคัญ นั่นก็คือ ค่าธรรมเนียมและค่าบริการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมาพร้อมกับการรูดบัตรเครดิตของคุณ รวมถึงค่าธรรมเนียมความเสี่ยงในการเปลี่ยนแปลงสกุลเงินต่างประเทศที่ทางธนาคารหรือสถาบันทางการเงินอื่น ๆ ได้คิดอัตราความเสี่ยงนี้ไว้เป็น เปอร์เซ็นต์ (%)


ทั้งนี้ อัตราค่าธรรมเนียมความเสี่ยงของการเปลี่ยนแปลงสกุลเงินของแต่ละธนาคาร หรือสถาบันทางการเงินอื่น ๆ ได้ตั้งไว้เพื่อป้องกันการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว โดยทั่วไปจะคิดที่ไม่เกิน 2.0 – 2.5 เปอร์เซ็นต์ ของยอดค่าใช้จ่าย ตามรายละเอียดดังนี้


ตารางอัตราความเสี่ยงของสกุลเงิน

ทั้งนี้ สิทธิประโยชน์ของบัตรเครดิตขอแต่ละแห่งก็ มีความพิเศษที่ไม่เหมือนกัน คุณสามารถเข้าในอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากสถาบันทางการเงินต่าง ๆ โดยตรงได้ทุกวันทำการ นอกจากนี้ คุณควรอ่านคู่มือการใช้งานของบัตรเครดิต เพื่อให้คุณสามารถใช้งานบัตรเครดิตได้ถูกต้อง


การใช้งานบัตรเครดิตให้ปลอดภัยและข้อควรระวัง

• แจ้งสถาบันทางการเงินก่อนออกเดินทาง คุณจะต้องทำการแจ้งสถาบันทางการเงินว่าคุณจะเดินทางไปยังสถานที่ใด และจะพกบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตใบไหนไปใช้ด้วย
• คุณต้องพกบัตรสำรองกันไว้ เพื่อใช้ในยามฉุกเฉิน ติดไปด้วย เพื่อป้องกันบัตรเครดิตสูญหาย หรือว่าวงเงินไม่พอในการใช้จ่ายในต่างประเทศ
• คุณต้องตามให้ทันร้านค้าหัวหมอ การท่องเที่ยวทั่วโลก จะมีร้านค้าหลายร้านเวลาออกใบเสร็จให้กับนักท่องเที่ยง ก็มักจะบอกกับลูกค้าต่างชาติว่า “เดี๋ยวคิดเป็นเงินยูเอสให้เลยก็ได้นะ จะได้ไม่งงในการเทียบอัตราเงินท้องถิ่น” ซึ่งฟังดูแล้วก็เหมือนกับว่าร้านค้าใจดีแต่ในความเป็นจริง ไม่จำเป็นให้เจ้าของร้านค้าเป็นคนเปลี่ยนสกุลเงินให้ เพราะเมื่อคุณรูดบัตรเครดิตปุ๊บ ระบบการคิดเงินของบัตรเครดิต จะจัดการในส่วนของตรงนี้เอง แต่ที่น่าสนใจ นั่นก็คือ ร้านค้าจะได้รับประโยชน์จากการแปลงอัตราเงินท้องถิ่นไปเป็นเงินยูเอส ซึ่งก็เท่ากับว่าได้รับกำไรมากขึ้นอีกนิดในส่วนต่างของเงิน ดังนั้น หากคุณได้รับข้อเสนอเช่นนี้ ให้คุณบอกปฏิเสธทันที และยืนยันว่าจะจ่ายเป็นสกุลเงินท้องถิ่นเท่านั้น


สูตร และตัวอย่างการคำนวณในกรณีบัตร VISA
สูตรการคำนวณเพื่อหาจำนวนค่าใช้จ่ายในสกุลเงินต่างประเทศ ซึ่งจะถูกเรียกเก็บโดยประมาณ

วิธีการคำนวณ (ดังกล่าวยังไม่ได้รวมค่าธรรมเนียมการเบิกถอนเงินสดล่วงหน้า และภาษีมูลค่าเพิ่มที่เกี่ยวข้องในกรณีการเบิกถอนเงินล่วงหน้า) ยกตัวอย่าง กรณีคุณมียอดเงินใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต (บัตรเครดิตของ KTC) ในต่างประเทศแถบยุโรป 100 USD สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2559

• ขั้นที่ 1 คุณต้องจะต้องเข้าไปตรวจสอบค่าของสกุลเงินไทย กับ USD เพื่อนำมาคำนวณหาค่าเงินบาท การตรวจสอบโดยการที่คุณเข้าไปยัง web site ของ VISA
• ขั้นที่ 2 ในช่องแรกให้คุณเลือกสกุลเงิน THB
• ขั้นที่ 3 ช่องถัดมาให้คุณเลือกสกุลเงินตราต่างประเทศที่คุณใช้ผ่านบัตรฯ จากนั้นให้คุณใส่อัตราคำนวณความเสี่ยงในการแปลงสกุลเงิน นั่นคือ 2% ในช่องถัดลงมา
• ขั้นที่ 4 เลือกวันที่เรียกเก็บ หรือวันที่บันทึกในรายการ (Sales Slip) และคำนวณอัตราการเปลี่ยนแปลง ของสกุลเงินต่างประเทศเป็นสกุลเงินบาท
• ขั้นที่ 5 นำอัตราสกุลแปลงต่างประเทศเป็นสกุลเงินบาทที่ได้มาแทนค่าตามสูตรดังนี้


ยอดเงินใช้จ่ายผ่านบัตร VISA เป็นเงิน 100 USD วันที่ 10 สิงหาคม 2559 จะถูกเรียกเก็บจำนวน 3,572 บาท โดยประมาณ ซึ่งเมื่อเราต้องการทราบความเสี่ยงของการแปลงสกุลเงิน คุณก็เพียงแค่ นำจำนวนเงินที่ถูกเรียกเก็บ มาคูณ กับ % ที่ทางธนาคารตั้งความเสี่ยงเอาไว้ อย่างเช่น ยอดเงินเรียกเก็บ 3,572 คูณ ความเสี่ยง 2% คุณจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเป็นเงิน 71.44 บาท (3,572 x 0.02) นั่นเอง


หมายเหตุ : ข้อมูลการคำนวณเรานำมาจากธนาคารกรุงไทย เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2559 และการแปลงสกุลเงินเรานำมาจาก web site ของ VISA โดยตรงเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2559 (ทั้งนี้ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและช่วงเวลาของธนาคารฯ)

สนับสนุนเนื้อหาโดย MoneyHub

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook