กฎทอง 6 ข้อช่วยให้คุณ “ออมเงินระยะยาว” สำเร็จ!

กฎทอง 6 ข้อช่วยให้คุณ “ออมเงินระยะยาว” สำเร็จ!

กฎทอง 6 ข้อช่วยให้คุณ “ออมเงินระยะยาว” สำเร็จ!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สวัสดีครับเพื่อนๆชาวสนุกทุกคน เรามาพบกับเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับการเงินกันอีกแล้วนะครับ วันนี้เรามาดูกันในเรื่องของการออมเงินกันบ้าง ซึ่งเพื่อนๆ อาจจะรู้สึกว่า เรื่องออมเงิน ก็คงไม่มีอะไรมากหรือเปล่า เพียงแค่กันเงินออมไว้ในแต่ละเดือน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญทางการเงินส่วนมาก ก็แนะนำว่า ควรเริ่มตั้งแต่ 10% เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึง 25% ของรายได้ต่อเดือน แต่จริงๆ แล้ว การออมเงิน ให้ประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะการ “ออมเงินระยะยาว” มีอะไรมากกว่านั้น เรามาดูกันเลยครับว่ากฎทอง 6 ข้อที่จะช่วยให้คุณ “ออมเงินระยะยาว” สำเร็จ มีเคล็ดลับอะไรบ้าง

1. เคลียร์หนี้ดอกเบี้ยสูงให้หมดก่อน

ถึงแม้ว่าหลายคน จะรู้สึกว่าการ “เคลียร์หนี้สิน” จะตรงกันข้ามกับ “การออม” อย่างชัดเจน แต่การที่เราจัดการหนี้สินให้หมดนั้น ถือเป็นสิ่งที่ช่วยการออมของเรา โดยเฉพาะการออมระยะยาวได้มากเลยทีเดียวนะครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หนี้สินที่ดอกเบี้ยสูงๆ อย่าง หนี้บัตรเครดิต และหนี้สินเชื่อส่วนบุคคล ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อเงินสด หรือบัตรกดเงินสด หนี้สินเหล่านี้ มีอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ร้อยละ 20 ขึ้นไปทั้งสิ้น เพราะฉะนั้น ยิ่งเราใช้หนี้ให้หมดเร็วเท่าไหร่ เราก็จะมีเงินเหลือเอาไว้ออมเงินมากเท่านั้นครับ และหลังจากที่จัดการหนี้ที่ดอกเบี้ยสูงเสร็จแล้ว ก็ค่อยมาดูหนี้ก้อนต่อๆ ไป ที่ดอกเบี้ยไม่สูงมากนัก อย่าง หนี้บ้าน และหนี้รถ เป็นต้น

2. กันเงินไว้กองทุนสำรองฉุกเฉิน

ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้นในชีวิตหรอกครับ แต่ความแน่นอน คือความไม่แน่นอน หากเกิดอะไรขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นอาการเจ็บป่วย อุบัติเหตุ คนในบ้านที่เราเป็นที่พึ่ง ต้องการใช้เงินด่วน ซึ่งหากเราไม่มีเงินกันไว้ส่วนนี้เลย ปัญหาก็คือ เราก็ต้องไปกู้หนี้ยืมสิน ไม่มีเงินจ่ายค่าใช้จ่ายรายเดือน และต้องกลับไปอยู่ในวังวนของหนี้สินอีก

แล้วควรกันไว้เท่าไหร่?

ผู้เชี่ยวชาญทางการเงิน แนะนำว่า กองทุนสำรองฉุกเฉิน ควรมีเอาไว้ 3-6 เท่าของรายจ่ายต่อเดือนของเราครับ วิธีเก็บเงินในส่วนนี้ก็คือ สมมติว่าคุณมีรายจ่ายต่อเดือนทั้งหมด 20,000 บาท คุณควรมีกองทุนสำรองฉุกเฉินอยู่ที่ 120,000 บาท ซึ่งหากคุณต้องการเก็บก้อนนี้ให้ได้ภายใน 24 เดือน ก็กันเงินแยกบัญชีเอาไว้เดือนละ 5,000 บาท นั่นเองครับ

3. เก็บเงินระยะยาว ไว้ดาวน์บ้าน

มาถึงค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่อีกก้อน ที่ครั้งหนึ่งในชีวิต หลายๆ คนคงต้องได้พบเจอนะครับ กับการซื้อบ้าน ซึ่งในเรื่องนี้ มีหลายคนที่มีความเข้าใจที่ค่อนข้างผิดว่า รอให้เงินเดือนเพิ่มขึ้น และใช้วิธีกู้ธนาคารเพื่อซื้อบ้าน 100% เต็ม หรืออย่างน้อย 95% ก็จะไม่ต้องดาวน์เงินก้อนใหญ่เพื่อซื้อบ้านครับ แต่จริงๆ แล้ว ยิ่งเราวางเงินดาวน์ได้มากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้เรามียอดกู้น้อยลง จ่ายต่อเดือนสบายขึ้น และดอกเบี้ยที่เราเสียก็น้อยลงตามไปด้วย เพราะฉะนั้น หากคุณมีแผนระยะยาวว่าจะซื้อบ้าน กัดฟันเก็บเงินอีกส่วนหนึ่งไว้ดาวน์บ้าน ให้ได้อย่างน้อยถึง 20% ของราคาบ้านที่หมายปองไว้ จะช่วยคุณในระยะยาวได้ดีมากๆ เลยล่ะครับ

4. เก็บเงินระยะยาว ไว้เปลี่ยนรถเมื่อถึงเวลา

แม้ว่าทุกคนจะมีรถยนต์คันโปรดอยู่แล้ว แต่รถยนต์ของเรา ไม่สามารถอยู่กับเราไปได้ตลอดหรอกนะครับ เมื่อขับรถได้เกิน 7 ปี สมรรถนะก็จะเริ่มถดถอย และต้องมีค่าซ่อมแซม ซึ่งบางครั้งก็อาจจะแพงมากๆ จนรู้สึกว่า ซื้อใหม่อาจจะปลอดภัย และคุ้มค่ากว่าครับ เพราะฉะนั้น หากคุณออมเงินระยะยาว ไว้สำหรับรถตั้งแต่วันนี้ พอถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนรถกันจริงๆ ก็จะได้ไม่ต้องไปแตะต้องบัญชีเงินออมส่วนอื่นๆ อาทิ บัญชีสำหรับเกษียณ บัญชีสำหรับเงินฉุกเฉิน และบัญชีสำหรับซื้อบ้านครับ

5. สำคัญที่สุด คือ “กองทุนเพื่อการเกษียณ”

ถือเป็นปัญหาของประเทศไทยในปัจจุบันพอสมควรเลยครับ จากการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ครั้งล่าสุดในปี 2557 พบว่า ผู้สูงอายุในประเทศไทย 55.8% ยังต้องพึ่งพารายได้จากผู้อื่น และกว่า 34% ยังต้องทำงานต่อไป เพื่อหาเลี้ยงชีพ ซึ่งปัญหานี้เกิดจากการขาดการวางแผนเรื่องเกษียณอายุที่มีประสิทธิภาพนั่นเองครับ ซึ่งคำแนะนำก็คือ คุณต้องตั้งเป้าหมายครับว่า สมมติว่าเกษียณอายุตอนอายุ 55 ปี อีก 25 ปีที่เหลืออยู่ คุณจะใช้เงินเดือนละเท่าไหร่ และคูณ 25 ปีแล้ว จะต้องมีเงินเก็บอย่างน้อยเท่าไหร่ และนั่นละครับ คือ กองทุนที่คุณต้องมีไว้ ทันทีที่คุณเกษียณอายุนั่นเอง ทั้งนี้ทั้งนั้น หากคุณมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพจากบริษัทที่ต้องหักต่อเดือนอยู่แล้ว ก็อาจจะออมไม่มากนัก แต่ถ้าบริษัทของเพื่อนๆ ไม่มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเลย ก็คงต้องออมมากหน่อยนั่นเองครับ

6. ซื้อความสุขบ้างด้วย “เงินออมรางวัลชีวิต”

หากข้อ 1-5 คุณได้จัดการเรียบร้อยแล้ว คุณควรกันเงินไว้อีกส่วนหนึ่งครับ เป็นกองทุนที่คุณจะให้รางวัลตัวเองจากการทำงานหนัก จากการเก็บออมเงินในกองทุนนี้ คุณจะสามารถทำอะไรก็ได้ ตามความชอบส่วนบุคคลของคุณครับ ไม่ว่าจะเป็น ท่องเที่ยว หรือซื้อของชิ้นใหญ่ๆ ให้ตัวเอง เป็นต้น เชื่อเถอะครับ หากคุณให้รางวัลตัวเองนานๆ ทีแล้ว คุณจะมีกำลังใจในการทำงานมากขึ้นจริงๆ ครับ

หวังว่ากฎทอง 6 ข้อนี้ จะทำให้เพื่อนๆ วางแผนการ “ออมเงินระยะยาว” ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นนะครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก GoBear.co.th

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook