หมอวรงค์ อัด ปู ขายข้าวหอมมะลิ กก.ละ 20 บาทตัดราคาชาวนา
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์โพสเฟซบุ๊กส่วนตัว อัด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ขายข้าว กิโลกรัม 20 บาทตัดราคาชาวนา เป็นการซ้ำเติมขายต่ำกว่าที่ชาวนาขายเองที่ กิโลละ 30-35 บาท
วันนี้ นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรมได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว "Warong Dechgitvigrom" วิจารณ์การขายข้าวของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรี ที่นำข้าวหอมมะลิของชาวนามาขายให้ประชาชน ในกิโลกรัมละ 20 บาท เป็นการขายตัดราคาชาวนาทั่วไปเป็นการขายต่ำกว่าราคาปรกติที่ชาวนาขายกันที่กิโลกรัมละ 30-35 บาท
โดยมีรายละเอียดดังนี้
มีคนไทยที่เป็นนักข่าวของหนังสือพิมพ์ญี่ปุ่น โทรศัพท์มาคุยกับผม 2 ประเด็นคือ
1.เขาบอกว่าได้รับภาพที่มีการส่งมาให้สื่อ กรณีน.ส.ยิ่งลักษณ์ไปขายข้าวสารหอมมะลิที่ห้างสำโรง เพื่อช่วยชาวนา กิโลละ 20บาท
ผมแสดงความเห็นผ่านสื่อญี่ปุ่นไปว่า คนเป็นอดีตนายก ขยับอะไรที มีผลต่อกระแสสังคมมาก ในเมื่อตอนนี้ข้าวเปลือกราคาตกต่ำ สังคมต้องการช่วยชาวนา แทนที่ชาวนาจะขายข้าวเปลือก ก็ให้สีเป็นข้าวสารมาขายจะได้ราคาดีขึ้น ชาวนาก็มีการสีเป็นข้าวสารหอมมะลิ ปกติก็ชาวนาขายกันกิโลละ 30-35บาท ถ้าน.ส.ยิ่งลักษณ์อยากช่วยชาวนาจริง ควรจะช่วยขายราคาที่ชาวนาเขาขายกัน ไม่ใช่ไปขายตัดราคา เพราะระดับอดีตนายกขยับที สื่อเต็มไปหมด ในทางจิตวิทยาย่อมมีผลต่อเสถียรภาพราคา ในเมื่อข้าวราคาตก แต่เล่นมาขายต่ำกว่าราคาที่ชาวนาขายแล้วมาบอกว่าช่วยชาวนา ก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร เขาควรจะขายราคานี้ในช่วงข้าวมีราคาแพงมาก เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อน แต่ก็ยังดื้อดึง ผมถือว่าเคยเตือนกันไปแล้วยังอยากทำอีกก็ช่วยไม่ได้ ผมยังบอกผ่านสื่อญี่ปุ่นว่าเขาช่างใจร้ายจริงๆ
2.สื่อถามผมว่าจำนำยุ้งฉางของรัฐบาลประยุทธ์ ต่างกับจำนำข้าวรัฐบาลยิ่งลักษณ์อย่างไร และพรรคเพื่อไทยบอกว่าทำตามเขา
ผมตอบว่าต่างกันโดยสิ้นเชิง การรับจำนำยุ้งฉางรัฐบาลให้ราคารับจำนำที่ 90% ของราคาตลาด เช่นข้าวหอมมะลิ 36กรัม ความชื้น 15% ราคาเฉลี่ยที่ 11000 บาท รัฐบาลรับจำนำ 9500 บาทในปริมาณจำกัด แต่มีเงินช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวตันละ 2000 บาท และค่าเช่ายุ้งฉางของชาวนาตันละ 1500 บาท สองรายการหลังถือว่ารัฐบาลช่วย ถ้ารอเมื่อข้าวราคาสูงขึ้น เช่นตันละ 14000 บาท ชาวบ้านก็ไถ่ถอนไปขาย เอาเงิน 9500 บาทคืนรัฐบาล ชาวบ้านยังได้เงินส่วนที่เพิ่มขึ้นอีก 4500 บาทหรือชาวบ้านจะเลือกเอาข้าวไปสีก็ได้ สิทธิในข้าวยังเป็นของชาวบ้านที่จะไถ่ถอนไปขายหรือนำไปสีเป็นข้าวสาร
ส่วนจำนำข้าวสมัยยิ่งลักษณ์นั้น ไม่ใช่การรับจำนำ แต่เป็นการรับซื้อในราคาที่สูงกว่าตลาดมาก เช่นข้าวเปลือกเจ้าราคาตลาด 9000-10000 บาทต่อตัน รับซื้อที่ 15000บาทต่อตัน สิทธิในข้าวเปลือกจึงเป็นของรัฐบาล เพราะไม่มีใครมาไถ่ถอน รัฐบาลจึงนำไปสีเป็นข้าวสาร นำไปเก็บโกดัง และเมื่อไปขายก็ขายยากเพราะราคาสูงมาก ส่วนใหญ่จึงขายแบบจีทูจี ที่สำคัญรับซื้อทุกเมล็ดด้วย จึงนำไปสู่การทุจริตอย่างมโหฬารในทุกขั้นตอน
นักข่าวถามผมต่อว่า ในเมื่อของยิ่งลักษณ์ไม่ใช่จำนำข้าว ทำไมยอมให้เขาเรียกว่ารับจำนำ
ผมตอบว่าก็เขาอยากจะเรียกของเขาแบบนี้ เขามีอำนาจ มีสื่ออยู่ในมือ ผมจึงต้องช่วยอธิบายว่าไม่เหมือนกันอย่างสิ้นเชิง
ท้ายนี้ขอขอบคุณคนไทย ที่เป็นนักข่าวหนังสือพิมพ์ญี่ปุ่น ที่มีการตรวจสอบข้อมูลจากหลายแหล่ง เพื่อจะได้เผยแพร่ข้อเท็จจริง ให้ชาวโลกและชาวญี่ปุ่นเข้าใจในสิ่งที่ถูกต้อง
ข้อมูลและภาพจาก เฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom