เวนคืนที่ 1.4 หมื่นแปลง! สร้างรถไฟทางคู่ 2 เส้น ปั่นราคาที่ดินพุ่ง 10 เท่า
เวนคืนที่ 1.4 หมื่นแปลง สร้างรถไฟทางคู่ 2 เส้น ปั่นราคาที่ดิน อ.เชียงของ พุ่ง 10 เท่า
วันที่ 15 พ.ย. 59 การรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ ร.ฟ.ท. ขอที่ดิน 30,000 ไร่ สร้าง 2 ทางคู่ใหม่ ลงเขตเศรษฐกิจ “เด่นชัย-เชียงราย” เเละ “บ้านไผ่-นครพนม” ชาวบ้านโดนกราวรูด 1.4 หมื่นแปลง บ้าน 2,000 หลัง เศรษฐีในพื้นที่นกรู้ตุนที่ดิน ผุด “สถานีเชียงของ” 80 ไร่ ฟันกำไรเหนาะ ๆ 10 เท่า จากไร่ละ 600,000 บาท หลังขยับหลายตลบตั้งแต่สะพานโขง 4 ฉุดต้นทุนรัฐพุ่งเท่าตัว
ทั้งนี้ แผนปฏิบัติการ 4โครงสร้างพื้นฐานทางรางเชื่อมเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดน ประกอบด้วย รถไฟทางคู่ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ, ทางคู่สาย บ้านไผ่–มุกดาหาร-นครพนม, ทางคู่สายขอนแก่น-หนองคาย และทางคู่สายรถไฟฟ้า หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ต่อยอดแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งจาก 30 โครงการขนาดใหญ่ ที่กระทรวงคมนาคมเเละการรถไฟเเห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ผลักดันเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัปดาห์หน้า
ซึ่งทางคู่เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ถือว่าพร้อมสุดที่จะประมูลกลางปี 2560 หลังล่าช้ามา 56 ปี และก่อนหน้านี้เคยมีแผนเวนคืนเมื่อ 3ปีก่อน แต่สุดท้ายต้องชะลอออกไป โดยนายบุญส่ง เตชะมณีสถิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย สะท้อนความเห็นว่า หากเส้นทางรถไฟสายดังกล่าวเชื่อมมาถึง จ.เชียงราย จะช่วยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจและลดต้นทุนการขนส่ง โดยเฉพาะ จ.เชียงราย โดดเด่นด้านมูลค่าการค้าชายแดนที่เติบโตสวนกระแสการค้าโลก แน่นอนว่า หากรถไฟเส้นนี้เกิดขึ้นจะช่วยเพิ่มมูลค่าการค้าได้มากขึ้นและเป็นผลดีต่อการเดินทางเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน
สอดรับกับ ดร.อนุรัตน์ อินทร ประธานคณะกรรมการหอการค้าจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า โครงการนี้ยืดเยื้อมานานร่วม 56 ปี เกิดจาก แต่ละรัฐบาลจะผลัดกันศึกษาใหม่ ขณะที่คนในพื้นที่เรียกร้องให้ขับเคลื่อนกระทั่งปัจจุบันถือว่าก้าวหน้ามาก โดยเฉพาะการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ)
อย่างไรก็ดีวันที่ 28 พ.ย. 2559 นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาตรวจเยี่ยม ภาคเอกชนจะเสนอให้อนุมัติงบประมาณก่อสร้างตามที่ ร.ฟ.ท. เสนอ ขณะที่ น.ส.ผกามาศ เวียรา รองประธานหอการค้าจังหวัดเชียงรายและประธานกรรมการสาขาเชียงราย สมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-เมียนมา รถไฟเด่นชัยเชียงราย-เชียงของ จะเชื่อมต่อกับโครงการรถไฟคุนหมิง มณฑลยูนนาน, สปป.ลาว ซึ่งจะช่วยขนส่งสินค้าได้สะดวกขึ้นเป็นต้น
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวได้สำรวจความเคลื่อนไหวการซื้อขายที่ดินในรัศมีรอบสถานีสำคัญ ๆ ใน อ.เชียงของ จ.เชียงราย โดยทราบข้อมูลจากผู้คร่ำหวอดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อ.เชียงของ รายหนึ่ง ระบุว่า “มีเศรษฐีในพื้นที่สะสมที่ดินราคาถูก และที่ผ่านมาได้ซื้อที่ดินแปลงใหญ่ 70-80 ไร่ ปัจจุบันอยู่ในแนวเวนคืนก่อสร้างสถานีรถไฟเชียงพอดี แน่นอนว่า แม้ที่ดินแปลงนั้นจะถูกเวนคืน แต่เจ้าของที่ถือกรรมสิทธิ์จะได้กำไรทันที”
แหล่งข่าวคนนี้กล่าวต่อว่า เเต่เดิมนั้นเจ้าของที่ดินได้ทำโครงการบ้านจัดสรร แต่ไม่ประสบความสำเร็จ จนสถาบันการเงินฟ้องแล้วนำที่ดินทั้งหมดไปขายทอดตลาด จึงเปลี่ยนมือตกเป็นของลูกหลานคหบดีเก่า อ.เชียงของ ไปประมูลซื้อจากกรมบังคับคดีเมื่อ 10 ปีที่เเล้ว ไร่ละประมาณ 650,000 บาท (ก่อนที่จะมีสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4) แต่หลังมีสะพานเเห่งนี้เกิดขึ้น ปรากฏว่ามีคนสนใจสอบถามเเละทราบว่าที่ดินแปลงติดถนน ไร่ละ 5-6 ล้านบาท สุดท้ายเจ้าของที่ดินเเปลงนี้ยังไม่ยอมเปลี่ยนมือ อย่างไรก็ดีประเมินว่า เจ้าของที่ดินจะได้กำไรไม่ต่ำกว่า 10 เท่า เนื่องจากการคำนวนค่าชดเชยให้เจ้าของที่ดิน ปัจจุบันจะอิงราคาตลาด และราคาประเมินที่ดินปัจจุบัน
สอดคล้องกับนายพีระพล ถาวรสุภเจริญ รองปลัดกระทรวงคมนาคม อธิบายว่า ราคาที่ดิน อ.เชียงของ ขยับต่อเนื่องมาหลายรอบ เริ่มจากก่อนที่จะสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาวเเห่งที่ 4 จากการสอบถามราคาที่ดินเพื่อพัฒนาศูนย์เปลี่ยนสินค้า ใกล้สะพาน ราคาเพียง 50,000 บาทต่อไร่ เท่านั้น เมื่อก่อสร้างสะพาน ที่ดินเเปลงนั้นมีการปักป้ายขาย 1.5 ล้านบาทต่อไร่ และวันที่สะพานก่อสร้างขยับไปที่ 4-5 ล้านบาทต่อไร่ แน่นอนว่า เมื่อรถไฟทางคู่เริ่มเวนคืน เชื่อว่าราคาที่ดินจะขยับขึ้นอีก
ส่วนแหล่งข่าวจาก ร.ฟ.ท. เปิดเผยว่า โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ มีความพร้อมที่สุดและ ประมาณต้นเดือน ธ.ค. นี้ การทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมจะได้รับอนุมัติจากสำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) และ ครม. จะอนุมัติโครงการเพื่อก่อสร้างไม่เกินเดือน เม.ย. 2560 จากนั้นจะเริ่มเวนคืนกลางปี 2560 ไปพร้อมกับประกวดราคาหาผู้รับจ้างและแบ่งการก่อสร้างเป็น 4 ตอน ซึ่งจะใช้เวลาก่อสร้าง 6 ปี ระยะทาง 326 กิโลเมตร ซึ่งการเวนคืน 9,600 ไร่ จำนวน 7,000 แปลง สิ่งปลูกสร้าง 1,200 หลังคาเรือน
ส่วนสายบ้านไผ่-มุกดาหาร –นครพนม ระยะทาง 367 กิโลเมตร มูลค่า 50,000-60,000 ล้านบาท จะเวนคืนไล่เลี่ยกัน คือ กลางปี 2560 ทั้งหมด 1.74 หมื่นไร่ แปลงที่ดิน 7,100 แปลง สิ่งปลูกสร้าง 930 หลังคาเรือน รวมพื้นที่ที่ต้องเวลนคืนทั้ง 2 เส้นทาง 2.9 หมื่นไร่ แปลงที่ดิน 1.41 หมื่นแปลง สิ่งปลูกสร้าง 2,130 หลังคาเรือน
อย่างไรก็ดี ราคาที่ดินที่มีศักยภาพอ.เชียงของ ที่ผ่านมา ร.ฟ.ท. ได้แนะนำนักธุรกิจในพื้นที่ ซื้อที่ดินใกล้สะพานมิตรภาพ และใกล้กับสถานีรถไฟเชียงของ ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาราคาซื้อไร่ละ 7,000,000 บาท และล่าสุดขายต่อราคาสูงถึง 13 ล้านบาท ทำเลเวียงเชียงรุ้ง 3 ปีที่ผ่านมา ประเมินไว้ ไร่ละ 10,000-20,000 บาท แต่ขณะนี้ ต้องประเมินใหม่ ราคาจะเพิ่มเท่าตัวซึ่งต้นทุนค่าก่อสร้างที่มีที่ดินเป็นตัวแปรสำคัญเพราะจะบวก เพิ่ม 2.5 เท่า จากราคาประเมินที่ดินของกรมธนารักษ์ที่จะปรับใหม่ปี 2560 และราคาตลาด
ล่าสุด ร.ฟ.ท.เตรียมเสนอนายกรัฐมนตรีขอเพิ่มงบประมาณเวนคืนอีก 10,000 ล้านบาท จากที่ตั้งไว้ 3 ปีที่ผ่านมา เพียง 10,000 ล้านบาท ทำให้ค่าก่อสร้างสายเด่นชัย-เชียงรายสูงถึง 8.5 หมื่นล้านบาทจากเดิม 7.7 หมื่นล้านบาท ส่วนเส้นทางอื่น ๆ อาทิ บ้านไผ่-นครพนม ราคาที่ดินยังไม่สูงมากซึ่ง รถไฟทางคู่ทั้ง 2 สายทางนับเป็นโครงการใหม่ที่ต้องเวนคืน 100% ส่วนเส้นทางอื่นจะเป็นเส้นทางที่มีอยู่ก่อนแล้วจึงเวนคืนน้อยมาก