เทคนิคเก็บเงินล้าน ฉบับมนุษย์เงินเดือนและฟรีแลนซ์
“ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์เงินเดือนหรือฟรีแลนซ์ เพียงเก็บออมเงินอย่างสม่ำเสมอและถูกวิธี
รวมทั้งมีการป้องกันความเสี่ยงด้วยประกัน เป้าหมายเงินล้านก็ไม่ใช่ฝันอีกต่อไป”
หลายต่อหลายคนใฝ่ฝันที่จะมีเงินล้าน แต่การจะมีเงินล้านแรกนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ซึ่งจำเป็นที่จะต้องมีเทคนิคในการบริหารเงิน สำหรับคนที่เป็นมนุษย์เงินเดือนและฟรีแลนซ์นั้น เทคนิคในการบริหารเงินก็ย่อมแตกต่างกัน ส่วนจะต้องทำอย่างไรที่จะทำให้มีเงินล้านได้นั้น K-Expert มีคำแนะนำ
มนุษย์เงินเดือน
สำหรับคนที่เป็นมนุษย์เงินเดือนที่มีรายได้สม่ำเสมอ การจะลงทุนหรือออมเพื่อให้มีเงินล้านนั้น ไม่ใช่เรื่องยาก อย่างเมื่อเงินเดือนเข้ามาในบัญชี แนะนำให้หักเงินไปออมหรือลงทุนก่อนที่จะนำเงินไปใช้จ่าย วิธีนี้จะช่วยให้เราเก็บเงินได้อย่างสม่ำเสมอ โดยช่องทางในการเก็บออมก็มีตั้งแต่บัญชีเงินฝากแบบปลอดภาษี ซึ่งเหมาะกับคนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ ผลตอบแทนประมาณ 2-3% ต่อปี
ส่วนคนที่รับความเสี่ยงได้สูงขึ้น การลงทุนในกองทุนรวมก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ซึ่งเราจะเหมาะกับกองทุนประเภทไหนนั้น คงต้องดูว่ารับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน ถ้ารับความเสี่ยงได้สูง กองทุนหุ้นก็น่าสนใจ ผลตอบแทนเฉลี่ย 10% ต่อปี แต่ถ้ารับความเสี่ยงได้บ้างแบบกลางๆ แนะนำลงทุนในกองทุนผสมซึ่งลงทุนในหุ้นและตราสารหนี้ ผลตอบแทนเฉลี่ย 5-7% ต่อปี
ส่วนวิธีลงทุนนั้น ปัจจุบันสถาบันการเงินมีตัวช่วยในการลงทุน ทำให้เราสามารถหักเงินไปออมทุกเดือนได้สม่ำเสมอ อย่างถ้าจะฝากเงินในบัญชีเงินฝากแบบปลอดภาษีทุกเดือน สามารถสมัครใช้บริการนำฝากเงินอัตโนมัติ ซึ่งหักเงินจากบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ไปฝากในบัญชีเงินฝากแบบปลอดภาษี ส่วนคนที่เลือกลงทุนกองทุนรวม ก็สามารถสมัครใช้บริการ Saving Plan ซึ่งเป็นบริการหักเงินจากบัญชีออมทรัพย์ไปลงทุนในกองทุนรวมทุกเดือน โดยมียอดเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 500 บาท ซึ่งยอดเงินออมและลงทุนที่ K-Expert อยากแนะนำคือ 20% ของรายได้
เมื่อเงินเดือนออก ก็ให้หักเงินไปออมหรือลงทุนทันที ยกตัวอย่างเช่น ถ้านำเงินไปลงทุนในกองทุนหุ้นเดือนละ 5,000 บาท ใช้เวลา 10 ปี ก็จะเป็นเจ้าของเงินล้านได้ แต่ถ้าเก็บเงินได้มากขึ้น เช่น เดือนละ 10,000 บาท และลงทุนได้นาน 10 ปีเช่นกัน เงินที่จะเก็บออมได้ก็จะทวีคูณเป็น 2 ล้านบาท
แต่ก่อนที่จะเก็บเงินเพื่อเป้าหมายเงินล้าน อย่าลืมสำรวจตัวเองก่อนว่า มีสำรองเงินเผื่อไว้ใช้กรณีฉุกเฉินหรือไม่ โดย K-Expert แนะนำให้มีเงินสำรองส่วนนี้ 6 เท่าของค่าใช้จ่ายรายเดือน เพราะหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันอย่างอุบัติเหตุ ซ่อมบ้าน หรือตกงาน เงินสำรองส่วนนี้จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนจากเหตุการณ์เหล่านี้ ทำให้เราไม่ต้องนำเงินที่ตั้งใจเก็บออมเพื่อให้ได้เงินล้าน ออกมาใช้จ่าย เราจะสามารถออมเงินได้สม่ำเสมออย่างที่ตั้งใจไว้ได้
ฟรีแลนซ์
สำหรับคนที่เป็นฟรีแลนซ์ หรือประกอบอาชีพอิสระนั้น ช่องทางในการเก็บออมเงินที่แนะนำจะเหมือนกับของมนุษย์เงินเดือนคือ เงินฝากแบบปลอดภาษี และกองทุนรวม แต่วิธีในการเก็บออมนั้นจะแตกต่างออกไป เพราะฟรีแลนซ์ไม่ได้มีรายได้สม่ำเสมอ เพราะได้รับเงินเป็นงานๆ
ดังนั้นการหักเงินไปออมหรือลงทุนอัตโนมัติแบบมนุษย์เงินเดือนนั้น ไม่ใช่วิธีที่เหมาะสม วิธีที่อยากแนะนำคือ เมื่อมีรายได้เข้ามาจากแต่ละงาน ให้หักเงินไปออมหรือลงทุนไว้เลย อย่างถ้าตั้งใจจะเก็บเดือนละ 20% ของรายได้ เมื่อมีรายได้เข้ามา 5,000 บาท ก็ให้หักเงินไปออมหรือลงทุนทันที 1,000 บาท โดยแยกบัญชีที่จะเก็บเงินออมออกจากบัญชีใช้จ่าย และเมื่อรวบรวมเงินได้ก้อนหนึ่งแล้ว ก็นำไปฝากหรือลงทุนต่างๆ ตามระดับความเสี่ยงที่เรายอมรับได้
ส่วนการเก็บออมเงินสำรองเผื่อฉุกเฉินนั้น แนะนำให้สำรองไว้ 6 เท่าของค่าใช้จ่ายรายเดือนเหมือนกับมนุษย์เงินเดือน แต่สิ่งที่อยากแนะนำให้ทำเพิ่มเติมคือ ประกันแบบชดเชยรายได้ เพราะฟรีแลนซ์ไม่ได้มีรายได้ประจำ ถ้าเกิดเจ็บป่วยต้องนอนโรงพยาบาลขึ้นมา รายได้ที่เคยได้รับก็จะหดหายไป การทำประกันชดเชยรายได้จึงเป็นสิ่งจำเป็น
นอกจากนี้ หากกังวลว่า จะต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลที่สูงเมื่อเจ็บป่วย การทำประกันสุขภาพก็สามารถบรรเทาค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ลงได้ เพราะคงไม่ดีแน่ๆ หากเราต้องนำเงินที่ตั้งใจเก็บเพื่อสะสมให้ได้เงินล้าน มาใช้กับค่ารักษาพยาบาลของตัวเรา โดยถ้าทำประกันสุขภาพ K-Expert แนะนำให้มีความคุ้มครองในส่วนของค่าห้องอย่างน้อย 3,000 บาท
การเก็บออมให้มีเงินล้านไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่เก็บออมเงินอย่างสม่ำเสมอและถูกวิธี รวมทั้งมีการป้องกันความเสี่ยงด้วยประกัน เพียงเท่านี้เป้าหมายเงินล้านก็ไม่ใช่ฝันอีกต่อไป
โดย : ปานตา ฉัตรมาศ CFP®
ฝ่ายวางแผนและให้คำปรึกษาลูกค้าบุคคล ธนาคารกสิกรไทย
www.K-expert.askkbank.com