หุ้น AOT แตกพาร์ ควรซื้อหรือไม่?

หุ้น AOT แตกพาร์ ควรซื้อหรือไม่?

หุ้น AOT แตกพาร์ ควรซื้อหรือไม่?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เพื่อนๆ นักลงทุนคงรู้จักชื่อนี้กันดี การท่าอากาศยานไทย หรือหุ้น AOT ซึ่งเป็นหุ้นบูลชิพยอดนิยมอีกหนึ่งตัวของทั้งนักลงทุนชาวไทยและต่างชาติ โดยประกอบธุรกิจท่าอากาศยานของประเทศไทย มีธุรกิจหลักประกอบด้วย การจัดการ การดำเนินงาน และการพัฒนาท่าอากาศยาน โดยมีท่าอากาศยานในความรับผิดชอบ 6 แห่ง คือ


ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ ซึ่งท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งนี้ ให้บริการเที่ยวบินภายในประเทศและระหว่างประเทศ โดยมีท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศ


- มติบอร์ดอนุมัติให้แตกพาร์ ?

ข่าวล่าสุด มติอนุมัติเรื่องสำคัญจากบอร์ดบริหารให้แตกพาร์หุ้นที่ตราไว้ของ AOT จากหุ้นละ 10 บาท เป็นหุ้นละ 1 บาท ในการประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 29/11/2016 ที่ผ่านมาเอง
ทั้งนี้ทั้งนั้น แม้ว่าจะการเปลี่ยนแปลงมูลค่าพาร์หุ้นที่ตราไว้นี้ แต่จะไม่ทำให้ทุนจดทะเบียนของบริษัท AOT เปลี่ยนแปลงไปแต่อย่างใด หรือทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วยังเท่าเดิม
แต่กลับจะทำให้มีจำนวนหุ้นเพิ่มขึ้น จากก่อนการเปลี่ยนแปลง 1,428,570,000 หุ้น ไปเป็น 14,285,700,000 หุ้น โดยคาดว่าจะมีการผ่านการประชุมผู้ถือหุ้นอีกครั้งในช่วงต้นปีหน้า

- การแตกพาร์เป็นเรื่องของจิตวิทยา พื้นฐานมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ?

ยังไงก็ตาม การแตกพาร์ไม่ได้กระทบพื้นฐานของธุรกิจแต่อย่างใด แต่กลับทำให้มีจำนวนหุ้นเพิ่มขึ้นที่จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องในการซื้อขายของนักลงทุน เป็นเรื่องของจิตวิทยาการลงทุนมากกว่า


- ผลประกอบการของหุ้น AOT


รายได้และกำไรสุทธิของ AOT ยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ในกราฟตั้งแต่ปี 2012- 9M16 มีในช่วงปี 2014 ที่รายได้และกำไรปรับลดลงไป นอกจากนั้น ในส่วนของฐานะการเงินยังแข็งแกร่ง โดยดูจากการ D/E อยู่ที่ประมาณ 0.42 เท่านั้นเอง

P/E ปัจจุบันอยู่บนความคาดหวังที่สูง ?

ปัจจุบันค่า P/E ของ AOT อยู่ที่ประมาณ 26 เท่า พอๆกับเมื่อปีที่แล้ว แต่ P/BV มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมา สะท้อนถึงความคาดหวังของนักลงทุนต่อหุ้น AOT ที่เพิ่มขึ้นด้วย

- ปัจจัยที่จะดันให้รายได้และกำไรของ AOT โตทันความคาดหวัง

AOT มีการเติบโตของกำไรดี ได้ปัจจัยหนุนทั้งจาก รายได้บริษัทการบินที่โตขึ้น และรายได้จากการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ใช้บริการ สิ่งที่น่าจับตาดู คงจะเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่จะไหลเข้ามาท่องเที่ยวในไทยเพิ่มมากขึ้นอยู่หรือไม่ แต่ทั้งนี้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนอาจจะชอลอตัวลง จากนโยบายการปราบทัวร์ศูนย์เหรียญ

นอกจากนั้น ยังได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐ ที่มีการยกเว้นยกเว้นค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา พร้อมกับการขยายเวลาการพำนักในราชอาณาจักรไทย (Long Visa) จะส่งผลเชิงบวกต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในไทยเรามากขึ้น ช่วยหนุนตัวเลขจำนวนผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวบินเติบโดได้ดี บวกกับแผนในอนาคตที่การขยายสนามบินเพื่อรองรับการเติบโตต่อไป



- สรุป
ราคาหุ้น AOT เริ่มกลับมาปรับตัวแตะระดับเกือบ 400 บาทอีกครั้ง (ข้อมูล ณ 30/11/59) ไม่ว่า AOT จะแตกพาร์หรือไม่แตกพาร์ เป็นเรื่องจิตวิทยาการลงทุนมากกว่า ช่วยหนุนเรื่องสภาพคล่องของหุ้นให้ดีขึ้น ท้ายที่สุดราคาไปตามปัจจัยพื้นฐานอยู่ดี


ทั้งนี้แล้ว AOT ยังประกาศจ่ายเงินปันผลงวดสุดท้ายของปีนี้ ที่ 6.83 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็น dividend yield ที่ประมาณ 1.8% โดยจะขึ้น XD ในวันที่ 8/12/2016 สำหรับในอนาคตนักลงทุนยังต้องติดตามตัวเลขข้อมูลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยและแนวโน้มการเติบโตของจำนวนผู้โดยสารต่อไป

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook