เคล็ด (ไม่) ลับ ใช้เงินอย่างไรให้รวย รวย รวย
ใครบ้างไม่อยากรวย จริงไหมคะ แต่จะทำอย่างไรให้รวยได้นี่สิ เป็นเรื่องยากอย่างกับเข็นครกขึ้นภูเขาไม่รู้ตั้งกี่ลูก แต่ก็ไม่ใช่เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ซะหน่อย วันนี้เรามีเคล็ด (ไม่) ลับเกี่ยวกับการใช้เงินของคนรวยมาแอบกระซิบให้ฟังกันค่ะ ว่าเขาใช้เงินกันอย่างไร ทำไมถึงได้รวย รวย รวย กันแบบนี้
• ใช้เงินแบบมีจุดมุ่งหมาย เงินทุกบาททุกสตางค์ที่คนรวยจ่ายออกไปจะต้องมีจุดมุ่งหมาย จะต้องผ่านกระบวนการวางแผนและการคิดพิจารณาอย่างรอบคอบ คนรวยจะไม่พูดว่า โอ๊ะ! ไม่รู้อะไรพาให้เราเข้ามานั่งในร้านนี้ หรือ โอ๊ะ! ไม่รู้อะไรดลใจให้ซื้อรองเท้าคู่นี้มา ถ้าจะซื้อหรือจะทานอะไร ก็จะไม่มีคำว่า หลง หรือ งง ที่ทำให้เราต้องหลวมตัวใช้เงินแบบไม่ตั้งใจหรือไม่ได้วางแผนไว้
• ใช้เงินแบบมีเหตุผล ทุกครั้งที่คนรวยจ่ายเงินออกไปจะต้องถามตัวเองเสมอว่า ทำไมเราต้องจ่าย เราจ่ายเงินก้อนนี้ไปเพื่ออะไร การถามตัวเองก็เพื่อให้ได้คำตอบที่มีเหตุผลรองรับการใช้เงินในแต่ละครั้งของเรา เช่น ทำไมเราต้องซื้อกระเป๋าใบนี้ คำตอบคือมันสวยถูกใจ ถามต่อ แล้วที่บ้านมีกระเป๋าแล้วกี่ใบ คำตอบคือ 5 ใบ ถามต่อ แล้วเราจำเป็นต้องซื้อเพิ่มอีกหรือไม่ คำตอบคือไม่ได้จำเป็นแต่อยากได้ ถามต่อ ใช้ใบอื่นไปก่อนได้ไหม คำตอบคือ ก็ได้นะ นี่คือการพยายามหาเหตุผลให้กับตัวเอง เราควรระงับการใช้เงินของเราไว้ก่อน หากเรายังหาเหตุผลดีดีสำหรับการใช้เงินในเรื่องนั้น ๆ ไม่ได้
• ใช้เงินแบบคุ้มค่า คนรวยส่วนใหญ่มักจะไม่มองข้ามค่าใช้จ่ายเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เป็นการจ่ายแบบน่าเสียดาย หรือจ่ายแล้วไม่ได้ได้อะไรตอบแทนกลับมา ยกตัวอย่างเช่น ค่าที่จอดรถ ขนาดอภิมหาเศรษฐีระดับโลกอย่าง บิล เกตต์ ยังเคยต้องเข้าประชุมสายมาแล้ว ด้วยเหตุผลในการวนรถเพื่อหาที่จอดรถที่ราคาถูกกว่า เพราะที่จอดรถใกล้ที่ประชุมนั้นแพงมาก คนส่วนใหญ่มักคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ค่าใช้จ่ายนิด ๆ หน่อย ๆ ใครจะมาคอยนั่งคิดเรื่องพวกนี้ ที่จริงแล้วเรื่องนี้เป็นเรื่องของทัศนคติและความคิดในเรื่องของการใช้เงินที่นำไปสู่พฤติกรรมในการใช้เงินของคนรวย ที่พวกเขาจะไม่มองข้ามเรื่องเล็กน้อยอย่างค่าที่จอดรถ และใส่ใจในรายละเอียดทุก ๆ เรื่อง
• ใช้เงินแบบรู้ที่มาของเงิน คนรวยมักใส่ใจในรายละเอียดทั้งเรื่องที่มาและที่ไปของเงิน ทำให้คนรวยรู้สถานะการเงินของตัวเองอยู่ตลอดเวลา นิสัยของคนรวยข้อนี้เราสามารถนำมาเป็นแบบอย่างได้ โดยที่ก่อนใช้เงินทุกครั้งให้เราถามตัวเองก่อนว่าเงินที่เรากำลังจะจ่ายออกไปนี้มีที่มาจากไหน อ๋อ เป็น 5% ของเงินเก็บ หรือเป็น 10% ของรายได้เดือนที่ผ่าน หรือเป็นเงินของเดือนหน้า เราก็จะรู้ว่าเราสมควรใช้มันหรือไม่
• ใช้เงินเพื่อใช้ไม่ใช่เพื่อโชว์ คนรวยจะใช้เงินเพื่อซื้อสิ่งของที่จำเป็นต้องใช้ ไม่ซื้อสิ่งของที่ซื้อเพื่อใช้โชว์หรือใส่โชว์ ดังนั้นของที่คนรวยซื้อจะเน้นในเรื่องของการใช้งาน ไม่จำเป็นต้องเป็นแบรนด์เนมสุดหรู หรือเป็นของที่มีราคาแพง ใช้หรือสวมใส่แล้วทำให้ดูมีหน้ามีตาในสังคม แต่ในกระเป๋าไม่มีเงิน แบบนั้นไม่เอา คนที่ยอมรับคนอื่นเพียงเพราะข้าวของหรือเครื่องใช้ภายนอกที่เขาใช้หรือสวมใส่เป็นความฉาบฉวย อย่าลืมว่าคุณค่าของคนอยู่ที่ภายในจิตใจถ้าเราอยากให้คนอื่นยอมรับเรา
• ใช้เงินให้น้อยกว่าเก็บ สูตรลับของเศรษฐีก็คือต้องใช้เงินหลังจากที่แบ่งเงินเก็บไว้แล้ว เคล็ดลับของคนรวยส่วนใหญ่เขามักจะเก็บเงินมากกว่าใช้เงินกันด้วยนะ บางคนอาจเถียงว่าก็เพราะเงินของพวกเขามันมากเสียจนใช้เท่าไหร่ก็ไม่หมดเลยเหลือเก็บเยอะ นั่นก็อาจเป็นเหตุผลได้ เราไม่จำเป็นต้องเก็บเงินเท่ากับที่คนรวยเก็บก็ได้ แต่ก็ต้องเก็บให้มากและนำเงินไปลงทุนเพื่อให้ได้ผลตอบแทน เพื่อให้เงินทำงานสร้างรายได้ที่เราไม่ต้องออกแรงทำงานเหนื่อยด้วย เงินถ้าหาเท่าไหร่ก็ใช้หมด โอกาสรวยคงจะยากมาก
• ใช้เงินทำงานสร้างผลตอบแทน เงินต้องนำไปลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนจึงจะรวยได้ การลงทุนมีหลายรูปแบบ มีทั้งลงทุนทำธุรกิจ ลงทุนในตราสารหนี้ ลงทุนในหุ้น ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ คนรวยเลือกลงทุนในสิ่งที่ตนเองมีความรู้ ความเชี่ยวชาญ เพื่อให้เงินนั้นไปทำงานสร้างเงินให้มากขึ้นต่อ ๆ ไป เป็นการสร้างรายได้จากหลาย ๆ ทาง
• ใช้เงินซื้อทรัพย์สินสร้างมูลค่าเพิ่ม มีคนรวยระดับโลกหลายคนที่เลือกใช้รถยนต์ราคาไม่แพง หรือบางคนก็ไม่ซื้อรถก็มี ด้วยเหตุผลว่ารถยนต์เป็นทรัพย์สินที่ไม่น่าลงทุน เมื่อซื้อแล้วมูลค่าลดลงทันที ไม่มีโอกาสกำไรหรือสร้างผลตอบแทนอะไรเลย
• ใช้เงินเพื่อแบ่งปัน คนรวยส่วนใหญ่เมื่อมีเงินแล้วก็ไม่ลืมที่จะแบ่งปันให้กับคนอื่น ๆ ในสังคมด้วย การแบ่งปันถือเป็นความดีที่ใครก็สามารถทำได้ เป็นการสะสมบุญ สะสมความดี ที่เมื่อถึงจุดหนึ่งที่เรามีเงินพอสมควร เราก็ไม่ควรลืมที่จะแบ่งปันให้กับคนที่เขาต้องการความช่วยเหลือ คนที่มีแล้วรู้จักแบ่งปันเท่านั้น จึงจะเรียกว่าเป็นคนรวยจริง
อ่านแล้วเป็นอย่างไรกันบ้างคะกับเคล็ด (ไม่) ลับของคนรวยที่คุณก็มีโอกาสเป็นได้ จะว่ายากก็ยาก จะว่าไม่ยากมันก็ทำได้ค่ะ อย่าลืมนะ เงิน ถ้าเก็บ ลงทุน หรือใช้อย่างถูกวิธี เงินก็ยังเป็นเงินของเรา แต่ถ้าเราใช้โดยที่ไม่คิดหรือใช้อย่างไม่มีเหตุผล เงินก็จะไม่ได้กลายเป็นของเราอีกต่อไป มันจะหนีไปอยู่ในกระเป๋าของคนอื่นค่ะ