ประกันชั้น 1 เหมาะกับรถทุกคัน เสมอไปหรือไม่?
เมื่อคุณออกรถใหม่ สิ่งที่จะขาดไม่ได้เลยจากการมีรถยนต์ก็คือ การทำประกันภัยรถยนต์นั่นเอง ซึ่งก็มักจะมีคนสงสัยกันอยู่เหมือนกันว่า การทำประกันภัยรถยนต์นั้นจะต้องทำ ประกันชั้น 1 เสมอไปหรือเปล่า? คุณเลือกที่จะทำแบบอื่นได้หรือเปล่า? ซึ่งก่อนที่คุณจะเลือกทำ ประกันชั้น 1 เราลองมาดูเหตุผลกับ MoneyGuru.co.th กันเสียก่อนว่าทำไมจะต้องทำประกันภัยรถยนต์ค่ะ
ทำไมต้องทำประกันภัยรถยนต์?
การทำประกันภัยรถยนต์นั้น เป็นการช่วยแบ่งเบาภาระและความเดือดร้อนทางด้านการเงินให้กับคุณ ในฐานะผู้ที่ทำประกันภัยรถยนต์ ไม่ว่าจะเกิดอุบัติเหตุรถเสีย ทำให้คนเดินถนนเดือนร้อนจากการขับรถของคุณ รถยนต์สูญหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม ซึ่งความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมดเหล่านี้ บริษัทประกันจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าความเสียหาย ให้ตามจำนวนทุนประกันที่คุณซื้อไว้ค่ะ
ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ
เพราะฉะนั้น ถ้าคุณเลือกที่จะให้บริษัทประกันภัยเป็นผู้รับผิดชอบ ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ของคุณ ในเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น ตามจำนวนทุนประกันที่ซื้อไว้นั้น เราจะเรียกการทำประกันภัยรถยนต์แบบนี้ว่า ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ นั่นก็คือ ไม่มีกฎหมายบังคับให้ทำ แต่เป็นความพึงพอใจของเจ้าของรถที่จะเลือกทำหรือไม่ทำประกันภัยนี้ โดยประกันภัยภาคสมัครใจ สามารถแบ่งออกได้หลายประเภท เพื่อให้คุณหรือเจ้าของรถยนต์มีทางเลือกในการซื้อความคุ้มครองให้ตรงกับความต้องการมากที่สุดค่ะ
ข้อดีข้อเสียของ ประกันชั้น 1
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 นั้น มีข้อดีตรงที่คุ้มครองครอบคลุมทุกเรื่อง ถือเป็นประกันภัยรถยนต์ที่มีความคุ้มครองสูงที่สุด ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์สูญหาย ไฟไหม้ ภัยธรรมชาติอื่น ๆ อุบัติเหตุไม่ว่าจะเป็นฝ่ายถูกหรือผิด และทุนประกันที่ได้รับก็ถือว่าเป็นจำนวนที่สูงเกือบเทียบเท่ากับราคารถยนต์ ส่วนข้อเสียคือ ค่าเบี้ยประกันก็จะสูงขึ้นไปตามทุนประกันด้วยนั่นเอง ดังนั้น จึงทำให้การซื้อรถยนต์ด้วยเงินผ่อนนั้น จะถูกบังคับให้ทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 เพราะสถาบันการเงินที่ให้สินเชื่อรถยนต์ทั้งหลายก็ไม่ต้องการรับภาระค่าความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับรถยนต์คันที่ให้สินเชื่อไว้เท่านั้นเอง
จำเป็นต้องประกันภัยชั้น 1 เท่านั้นหรือไม่?
อันที่จริงแล้ว แม้ว่าประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 จะครอบคลุมความคุ้มครองแทบจะทุกเรื่อง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ามันจะเหมาะสมกับผู้ขับขี่และรถยนต์ทุกคัน ผู้ขับขี่บางคนอาจจะมีความเสี่ยงในการสูญหายของรถน้อย เพราะจอดในที่ที่มีรั่วรอบขอบชิด หรือไม่ใช่รถใหม่ซึ่งเป็นที่หมายปองของเหล่ามิจฉาชีพ ก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันชั้น 1 แพง ๆ เพื่อสิ่งที่คุณไม่มีความเสี่ยง คุณอาจจะเลือกประกันชั้น 3+ ที่ครอบคลุมเกี่ยบกับรถชนรถเท่านั้น ก็เพียงพอแล้ว เพื่อประหยัดค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ ดังนั้น การเลือกประเภทของประกันรถยนต์ ไม่จำเป็นต้องเป็นประกันชั้น 1 เสมอไป แต่ควรเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานรถยนต์ของคุณจะดีกว่า
ค่าเบี้ยประกันภัย จะถูกจะแพง ดูที่อะไร?
สิ่งที่จะนำมาใช้คิดค่าเบี้ยประกันภัยว่าควรจะเป็นเท่าไรนั้น ประกอบไปด้วย ประเภทของประกันภัยที่คุณเลือก การระบุชื่อผู้ขับขี่ อายุและเพศผู้ขับขี่ ประเภท ขนาด ลักษณะการใช้งาน และอายุการใช้งานของรถยนต์ รวมไปถึง การตบแต่งที่ทำเพิ่มพิเศษจากสภาพที่ออกจากโรงงานของรถยนต์ เช่น รถยนต์ที่นำไปแต่งเครื่องยนต์ หรือรถยนต์ที่ไปติดแก๊สเอง สิ่งเหล่านี้ทั้งหมดจะเป็นเงื่อนไขในการกำหนดค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ของคุณ
วิธีทำให้ค่าเบี้ยประกันภัยได้รับส่วนลด
– หากเป็นบ้านที่มีรถยนต์ตั้งแต่ 3 คันขึ้นไป สามารถเลือกทำประกันภัยแบบกลุ่ม จะทำให้คุณได้เรตค่าเบี้ยประกันที่ถูกลง โดยใช้หลักการเดียวกับการซื้อของยกโหล ยิ่งซื้อจำนวนมาก ราคาต่อหน่วยจะยิ่งถูกลงนั่นเอง
– ขับรถดี ไม่มีเคลม หรือที่เราจะได้ยินบ่อยว่าเป็นรถยนต์ที่มีประวัติดี ซึ่งคุณจะได้ส่วนลดค่าเบี้ยประกันภัยในปีที่ต่ออายุ โดยจะได้รับส่วนลด 20% 30% 40% หรือ 50% ของค่าเบี้ยประกันภัยปีแรก สำหรับการทำประกันภัยในปีที่ 2 – 5 ตามลำดับ (จำนวนส่วนลดขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของบริษัทประกันภัยแต่ละที่)
– ถ้าคุณทำประกันภัยแบบระบุชื่อผู้ขับขี่ไว้แล้ว แต่เอาไปให้เพื่อนหรือคนอื่น ที่ไม่ได้มีชื่อเป็นผู้ขับรถยนต์ตามกรมธรรม์ขับขี่ ซึ่งหากเกิดอุบัติเหตุ คุณจะต้องรับผิดชอบค่าเสียหายส่วนแรก หรือค่า Excess เอง โดยจะต้องจ่าย 2,000 บาทแรกของความเสียหายต่อทรัพย์สินบุคคลภายนอก และ 6,000 บาทแรกของความเสียหายต่อรถยนต์คันเอาประกันภัย แล้วถ้านำรถไปใช้ผิดประเภท เช่น จดทะเบียนรถยนต์เป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคลธรรมดา แต่นำไปใช้รับจ้างปรือปล่อยเช่า หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา บริษัทประกันภัยสามารถปฏิเสธความคุ้มครอง แต่จะรับผิดชอบให้ในส่วนที่เป็นความเสียหายต่อทรัพย์สินบุคคลภายนอกซึ่งเจ้าของรถก็ต้องจ่ายค่า Exess 2,000 บาท เองค่ะ
ประเด็นที่แท้จริงในการเลือกประกันรถยนต์ คือการเลือกให้ตรงกับการใช้งานรถยนต์ของคุณมากที่สุด ซึ่งไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นประกันชั้น 1 เท่านั้นเสมอไป และหากท่านใดอยากจะติดตามบทความและข่าวสารเกี่ยวกับรถยนต์ การเงิน สินเชื่อ บัตรเครดิต และประกันรถยนต์ ก็สามารถกด Subscribe เพื่อรับสาระความรู้แบบนี้จาก MoneyGuru.co.th ได้เลยค่ะ เราจะส่งตรงถึงอีเมลของคุณทุก ๆ สัปดาห์