คปภ.เผยปี 59 ถอนใบอนุญาติตัวแทน- นายหน้าประกันกว่าครึ่งร้อย
รายงานจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันธุรกิจประกันภัยทั้งระบบมีตัวแทน/นายหน้าประกันภัย จำนวน 520,069 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบุคลากรที่มีมาตรฐานและคุณภาพที่ดี
สำหรับตัวแทน/นายหน้าประกันภัยที่กระทำผิดกฎหมายสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน โดยสำนักงาน คปภ. ได้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานพิสูจน์ยืนยันแล้ว จึงได้ดำเนินการลงโทษอย่างเคร่งครัดด้วยการเพิกถอนใบอนุญาต ซึ่งในไตรมาสที่ 4 ของปี 2559 (ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม - 31 ธันวาคม) นายทะเบียนได้มีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตตัวแทน/นายหน้าประกันภัย รวม 4 ราย โดยมีตัวแทนประกันชีวิตจำนวน 3 ราย และนายหน้าประกันชีวิต 1 ราย
ทั้งนี้ผู้ที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาต ทั้ง 4 ราย จะไม่สามารถกระทำการเป็นตัวแทน/นายหน้าประกันภัยหรือขอรับใบอนุญาตใหม่ได้ภายใน 5 ปี นับแต่วันที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาต หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
ส่วนสาเหตุของการกระทำความผิดของบุคคลทั้ง 4 ราย ที่นำไปสู่การเพิกถอนใบอนุญาตในครั้งนี้เกิดขึ้นใน 2 ลักษณะ คือ ได้รับชำระเงินค่าเบี้ยประกันภัยจากผู้เอาประกันภัย แต่มิได้นำเงินค่าเบี้ยประกันภัยส่งให้บริษัท และกระทำการชี้ช่องให้ผู้เอาประกันภัยทราบว่าหากสะสมเงินผ่านบัตรเครดิต ครบ 12 รอบบิล จะจ่ายเงินคืนเข้าบัตรเครดิต โดยมิได้อธิบายให้ชัดแจ้งว่าเป็นการเสนอขายกรมธรรม์ประกันชีวิต
ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กล่าวว่า ที่ผ่านมาสำนักงาน คปภ. ได้ให้ความสำคัญเกี่ยวกับคุณภาพของตัวแทน/นายหน้าประกันภัยอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การเสนอขายจนถึงการให้บริการหลังการขาย รวมถึงมีการอบรม การสอบ การขอต่ออายุ เพื่อขอรับใบอนุญาตเป็นตัวแทน/นายหน้าประกันภัย
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการคุ้มครองประชาชนผู้เอาประกันภัยไม่ให้ถูกเอารัดเอาเปรียบ สำนักงาน คปภ. ได้ดำเนินการตรวจสอบและพิจารณาลงโทษอย่างเคร่งครัด จริงจัง และต่อเนื่อง ทั้งนี้จากสถิติของปี 2559 (มกราคม – ธันวาคม) นายทะเบียนได้มีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตเป็นตัวแทน/นายหน้าประกันภัยทั้งสิ้น รวม 47 ราย แยกเป็นตัวแทนประกันชีวิต 36 ราย นายหน้าประกันวินาศภัย 9 ราย และนิติบุคคล 2 ราย
โดยลักษณะของการกระทำความผิดจนนำไปสู่การเพิกถอนใบอนุญาต 5 อันดับแรก คือ ได้รับชำระเงินค่าเบี้ยประกันภัยจากผู้เอาประกันภัย แต่มิได้แจ้งขอเอาประกันและนำเงินค่าเบี้ยประกันภัยส่งให้บริษัท ,กระทำการทุจริตการสอบ โดยสวมสิทธิ์เข้าสอบความรู้เพื่อขอรับใบอนุญาตเป็นตัวแทนประกันชีวิต , ยินยอมให้ผู้อื่น กระทำการเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยโดยไม่มีใบอนุญาตเป็นตัวแทน/นายหน้าประกันภัย , กระทำการชี้ช่อง ชักชวน ให้ผู้เอาประกันภัยทำสัญญาประกันภัยโดยมิได้อธิบายเงื่อนไขให้ชัดแจ้ง และกระทำการปลอมลายมือชื่อผู้เอาประกันภัยและแก้ไขข้อมูลของผู้ประกันภัย
อนึ่งสำนักงานคปภ.อยู่ระหว่างการเสนอแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติประกันชีวิตและพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย ซึ่งได้ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีแล้ว โดยจะมีบทบัญญัติเกี่ยวกับการฉ้อฉลประกันภัย ซึ่งมีบทกำหนดโทษทางอาญาทั้งจำคุกและปรับด้วย ทั้งนี้ในอนาคตหากตัวแทนและนายหน้าประกันภัยกระทำผิด นอกจากจะถูกเพิกถอนใบอนุญาตแล้ว ถ้าการกระทำเข้าองค์ประกอบความผิดเรื่องการฉ้อฉลประกันภัยก็อาจถูกดำเนินคดีจนถึงขั้นจำคุกและปรับอีกด้วย
ดร.สุทธิพล กล่าวทิ้งท้ายว่า เพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชนในอันที่จะได้รับข้อมูลที่ครบถ้วน ถูกต้อง จากการซื้อประกันภัยจากตัวแทน/นายหน้าประกันภัยที่มีคุณภาพ ประชาชนควรตรวจสอบว่าผู้เสนอขายประกันภัย เป็นตัวแทน/นายหน้าประกันภัยที่ได้รับใบอนุญาตถูกต้อง โดยสามารถตรวจสอบสถานะตัวแทน/นายหน้าประกันภัย ได้จากเว็บไซต์ของสำนักงาน คปภ. www.oic.or.th หรือสอบถามได้ที่สายด่วนประกันภัย 1186