4 วิธีออมเงินให้ตรงกับไลฟ์สไตล์หรือบุคลิกของคุณ
ไม่ว่าคุณต้องการที่จะเก็บเงินไว้สำหรับค่าเล่าเรียนของลูก หรือจะเก็บเงินเพื่อเกษียณอายุก็ตาม วันนี้ MoneyGuru.co.th มีวิธีออมเงินให้ตรงกับไลฟ์สไตล์หรือบุคลิกของคุณมาฝากค่ะ ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญทางการเงินยังกล่าวด้วยว่า การซื่อสัตย์กับพฤติกรรมทางการเงินของคุณ จะช่วยให้คุณเข้าถึงเป้าหมายทางการเงินได้ดียิ่งขึ้นค่ะ
เรียนรู้ไว เบื่ออะไรที่ซ้ำซากจำเจ เปลี่ยนงานบ่อย
อุปสรรคของคนที่มีบุคลิกภาพแบบนี้ คือ มักจะมีการตั้งเป้าหมายเรื่องเงินสูง และพวกเขามักจะพยายามหาเงินแบบรวดเร็วเกินไป อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงช้า ๆ คือการเปลี่ยนแปลงที่ดีนะ ซึ่งหมายความว่า คุณควรตั้งเป้าหมายทางการเงินของคุณด้วยเป้าหมายที่มีขนาดเล็กก่อน แล้วค่อย ๆ พัฒนาเป้าหมายทางการเงินของคุณขึ้นไปทีเล็กทีละน้อย โดยไม่ต้องพยายามที่จะบังคับตัวเองให้ทำตามเป้าหมายสำเร็จ เพราะหากคุณเร่งทำตามเป้าหมายของตัวเองเกินไปนัก มันอาจจะทำให้เป้าหมายของคุณพังทลายได้ค่ะ
ชอบวางแผนระยะยาว คิดไกลไปข้างหน้า แต่ชีวิตจะเขวทันที หากเกิดการเปลี่ยนแปลง
แม้ว่าคุณจะทำงานเพื่อทำให้ชีวิตของตัวเองไปสู่เป้าหมายระยะยาวตามที่คุณวางแผนเอาไว้ เช่น การประหยัดเงิน เพื่อเอาเงินไปจ่ายหนี้ ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่ดี แต่คุณอย่าลืมว่าเราไม่สามารถล่วงรู้อนาคตได้ ชีวิตของคุณอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้น ๆ ลง ๆ อยู่เสมอ อาจจะในปีหน้าหรือในเดือนหน้านี้
นอกจากนี้ การที่คุณชอบวางแผนระยะยาว มันอาจจะทำให้มีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันมาขัดขวางหนทางที่จะนำไปสู่เป้าหมายของคุณก็เป็นได้ ดังนั้น มันจะดีกว่าหากคุณสามารถวางแผนเผื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันด้วย หรือควรวางแผนล่วงหน้าแค่ภายใน 1 ปี หรือน้อยกว่า 1 ปีค่ะ
คุณมีเป้าหมายมากมาย ไม่ชอบอยู่กับเป้าหมายเดียว
การที่คุณมีเป้าหมายมากมาย ไม่ชอบอยู่กับเป้าหมายเดียวอาจจะเป็นเรื่องที่น่าท้าทายก็จริง แต่การตั้งเป้าหมายระยะสั้น แล้วทำมันให้สำเร็จเป็นเรื่องที่น่าท้าทายมากกว่า เพราะการตั้งค่าเป้าหมายที่ไม่จำเป็น จะทำให้เราไปไม่ถึงเป้าหมายที่สำคัญเสียที ดังนั้น การตั้งเป้าหมายระยะสั้นแล้วทำมันให้สำเร็จจะเป็นเรื่องที่น่าท้าทายกว่า
ใช้เงินเก่ง คุณไม่สามารถต้านทานการใช้จ่ายเงินไปกับสิ่งที่คุณอยากได้
ในขณะที่คุณมีเป้าหมายระยะยาวของคุณเอง แต่ในระหว่างทางที่คุณจะไปถึงเป้าหมายนั้น กลับมีสิ่งกระตุ้นที่จะทำให้คุณเสียเงินมากมาย ซึ่งท้ายที่สุดแล้วอาจจะทำให้คุณไปไม่ถึงเป้าหมายเสียที ดังนั้น เพื่อป้องกันสิ่งที่มาขัดขวางเป้าหมายของคุณ ให้คุณใช้เงินที่เหลือจากงบประมาณรายเดือนของคุณซื้อของที่อยากได้แทน และอย่าลืมโอนเงินเก็บเข้าบัญชีเงินฝากก่อนจะใช้จ่ายเงินไปกับอย่างอื่นด้วยนะคะ
อีกวิธีหนึ่งที่จะทำให้คุณไม่เผลอหยิบเงินเป้าหมายของคุณมาใช้ คือการแยกบัญชีค่ะ โดยการให้ทางธนาคารหักเงินตามจำนวนเงินที่คุณจะเก็บ หลังจากที่เงินเดือนเข้าทันที ซึ่งวิธีนี้จะทำให้คุณไม่ได้เห็นจำนวนเงินที่ถูกหักออกไป ทำให้คุณไม่รู้สึกเสียดายหรือโหยหาเงินก้อนนั้น อีกทั้งวิธีนี้ยังทำให้คุณสามารถไปถึงเป้าหมายได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย
และหากคุณอยากรู้ข้อมูลทางการเงินและประกันรถยนต์ ก็สามารถกด Subscribe เพื่อรับสาระความรู้แบบนี้จาก MoneyGuru.co.th ได้เลย เราจะส่งตรงถึงอีเมลของคุณทุก ๆ สัปดาห์