กรณ์ เผยสัปดาห์หน้าข่าวดี น้ำมัน ลดแน่!! ลดส่งเงินกองทุนน้ำมัน ยันลุยเดินหน้า พ.ร.ก.เพิ่มเพดานภาษี

"กรณ์"เผยสัปดาห์หน้ามีข่าวดี ราคา"น้ำมัน"ลดแน่ เผยมาตรการแรกลดเงินนำส่งกองทุนน้ำมัน หากยังพุ่งค่อยลดภาษีสรรพสามิตช่วย ยันเดินหน้า พ.ร.ก.เพิ่มเพดานภาษี ดันเข้าสภาล่างอีกครั้ง กพช.เล็งดึงเงินกองทุนอนุรักษ์ 6 พันล้านช่วยเสริม

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากการประชุมร่วมกันระหว่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมตรีว่าการกระทรวงการคลัง นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือถึงแนวทางบรรเทาปัญหาราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม แต่ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ ที่ประชุมจึงมอบหมายให้กระทรวงพลังงานกลับไปทำรายละเอียดแล้วเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 11 สิงหาคม

นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 7 สิงหาคมว่า ในวันที่ 10 สิงหาคม จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เป็นวาระเร่งด่วน โดยเลื่อนจากเดิมที่จะมีการประชุมวันที่ 24 สิงหาคม เพื่อหาข้อสรุปตัวเลขการลดเงินนำส่งกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง และกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน 50 สตางค์/ลิตร เพื่อช่วยลดผลกระทบประชาชนช่วงที่ราคาน้ำมันไปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น

แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงานกล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างศึกษาเกณฑ์การลดการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน โดยหลักการเบื้องต้นจะศึกษาก่อนว่าราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศระดับใดที่จะมีผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน และต้นทุนค่าขนส่งอย่างแท้จริง จากนั้นจะสร้างทางเลือกในการลดการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ 2-3 แนวทาง หากราคาน้ำมันถึงระดับที่จะกระทบต่อค่าครองชีพ โดยจะกำหนดกรอบเวลาที่จะดำเนินการเอาไว้ เพราะการใช้กลไกกองทุนน้ำมันฯลดผลกระทบให้กับประชาชนนานเกินไป จะเกิดภาระหนี้สินกับกองทุนฯ เหมือนในอดีต แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจทางการเมือง

แหล่งข่าวกล่าวว่า ส่วนเรื่องเงินกองทุนส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ที่เรียกเก็บจากเบนซิน 95 เบนซิน 91 และดีเซล ในอัตรา 50 สตางค์/ลิตร ซึ่งเดิมมีเป้าหมายจะนำไปใช้ในโครงการก่อสร้างระบบรถไฟฟ้า ขณะนี้จัดเก็บได้แล้ว ประมาณ 6,000 ล้านบาท ก็จะมีการเสนอต่อที่ประชุม กพช. ด้วยว่าจะนำเงินดังกล่าวมาดำเนินการอย่างไร เพื่อลดภาระราคาน้ำมัน เนื่องจากการก่อสร้างรถไฟฟ้ารัฐบาลมีแผนที่จะกู้เงินมาดำเนินการอยู่แล้ว

"ก่อนหน้านี้ กระทรวงพลังงานเสนอให้ลดการเก็บเงินเข้ากองทุนอนุรักษ์พลังงานลง 50 สตางค์ต่อลิตร แต่คาดว่าจะไม่เพียงพอ จึงต้องนำเงินจากกองทุนน้ำมันฯเข้ามาเสริมด้วย โดยเบื้องต้นจะนำเงินกองทุนน้ำมันฯเข้าไปพยุงไม่ให้ราคาน้ำมันดีเซลเกิน 30 บาทต่อลิตร แต่กระทรวงพลังงานยังเป็นห่วงสถานะกองทุนน้ำมันฯ แม้ขณะนี้จะมีเงินสะสมอยู่ประมาณ 1.6 หมื่นล้านบาท แต่มีภาระที่ต้องจ่ายจำนวนมาก โดยเฉพาะการชดเชยราคาก๊าซแอลพีจี (ก๊าซหุงต้ม) ที่บริษัท ปตท จำกัด (มหาชน) จ่ายสำรองในการนำเข้าช่วงก๊าซแอลพีจีขาดแคลนช่วงกลางปีที่แล้ว ประมาณ 1หมื่นล้านบาท หากลดการเก็บเงินเข้ากองทุนมากๆ ก็อาจจะกระทบกับสถานะของเงินกองทุนน้ำมันฯ" แหล่งข่าวกล่าว

แหล่งข่าวกล่าวว่า เบื้องต้นวางเกณฑ์ไว้ว่าหากราคาน้ำมันดีเซลปรับขึ้นถึง 30 บาท/ลิตร จะเป็นจุดเฝ้าระวังที่กระทรวงพลังงานต้องนำเงินกองทุนน้ำมันฯออกมาช่วย ซึ่งราคาดังกล่าวสะท้อนราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ประมาณ 90 เหรียญสหรัฐสหรัฐ/บาร์เรล แต่ขณะนี้ยังเห็นว่าราคาน้ำมันยังมีความผันผวน อาจมีการปรับราคาลงได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯจัดเก็บจากก๊าซโซฮอล์ อี 20 และ อี 85 อยู่ที่ 6 ล้านบาท/เดือน ไบโอดีเซล บี 5 อยู่ที่ 570 ล้านบาท/เดือน ส่วนด้านภาระการนำเข้าก๊าซหุงต้ม จากต่างประเทศขณะนี้ มีหนี้ที่ต้องชดเชยการนำเข้าช่วงปี 2551 ค้างอยู่ที่ประมาณ 7,000-8,000 ล้านบาท ส่วนปี 2552 อีกประมาณ 1,000-2,000 ล้านบาท

นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า รัฐบาลยืนยันจะผลักดันร่างพ.ร.ก.พิกัดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ที่เพิ่มเพดานอัตราภาษีจากเดิมลิตรละ 5 บาท เป็นลิตรละ 10 บาท เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้งในสมัยการประชุมนี้ หลังจากที่ไม่ผ่านความเห็นชอบของวุฒิสมาชิกในการประชุมสภาที่ผ่านมา และมั่นใจว่าจะได้รับความเห็นชอบผ่านสภา เพื่อออกเป็น พ.ร.บ.ต่อไป

นายกรณ์ กล่าวว่า การประชุม ครม.สัปดาห์หน้า จะมีข่าวดี ที่จะทำให้ราคาน้ำมันหน้าปั๊มปรับลดลง โดยกระทรวงพลังงานจะเสนอลดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ซึ่งจะเป็นมาตรการส่วนแรก หากราคาน้ำมันยังปรับเพิ่มอีกจนทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน กระทรวงการคลังพร้อมจะพิจารณาลดการเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันลง แต่ขณะนี้เห็นว่าการคงภาษีสรรพสามิตน้ำมันยังมีความจำเป็น เนื่องจากรัฐบาลมีบริการสาธารณะจำนวนมากที่ต้องใช้งบประมาณ ไม่ว่าจะเป็นโครงการเรียนฟรี 15 ปี เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และการประกันราคาพืชผล

พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ประธานกรรมาธิการการพลังงาน วุฒิสภา กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมัน 2 บาทต่อลิตรมาตั้งแต่แรก เพราะในที่สุดเมื่อราคาน้ำมันตลาดโลกปรับขึ้น ก็ต้องดึงเงินกองทุนน้ำมันฯ มาชดเชยส่วนที่ปรับขึ้นไป และเมื่อกองทุนน้ำมันฯเรียกเก็บคืนก็ส่งผลให้ราคาน้ำมันไม่ลดลงในช่วงที่ผ่านมา ในที่สุดจะกลับมากระทบประชาชนอีก นอกจากนี้ ยังเห็นว่าควรนำเงินจากกองทุนอนุรักษ์พลังงานที่จัดเก็บไว้สร้างระบบรถไฟฟ้า 6,000 ล้านบาท มาอุดหนุนราคาน้ำมันให้กับประชาชนส่วนหนึ่งด้วย