ไม่ลงทุนก็ไม่เสี่ยง…จริงเหรอ?
“เริ่มต้นลงทุนกองทุนรวมตั้งแต่วันนี้
เพื่อสร้างความมั่งคั่ง และยังช่วยป้องกันไม่ให้มูลค่าเงินลดลง”
- K-Expert -
หลายคนคงเคยได้ยินประโยคที่ว่า “การลงทุนมีความเสี่ยง…” และเชื่อว่ามีบางคนที่กลัวความเสี่ยงมากๆ จนไม่กล้านำเงินไปลงทุนเลย เพราะกลัวว่าเงินที่อุตส่าห์เก็บหอมรอมริบมาทั้งชีวิตจะหดหายไป แต่รู้หรือไม่ว่า การที่เราไม่ลงทุนเลยนั้นมีความเสี่ยงมากกว่า และน่ากลัวกว่าการนำเงินไปลงทุนเสียอีก แต่จะเสี่ยงกว่าและน่ากลัวอย่างไรนั้น K-Expert มีคำตอบในเรื่องนี้มาฝากกันค่ะ
ข้อเสียของการไม่ลงทุน
สำหรับใครที่กลัวความเสี่ยงจนไม่กล้านำเงินบางส่วนที่มีไปลงทุน โดยปล่อยให้เงินเก็บทั้งหมดที่หามาได้นอนแน่นิ่งอยู่ในบัญชีเงินฝากเพียงอย่างเดียว สิ่งที่เราจะต้องเจออย่างแน่นอนเลยคือ
1. มูลค่าเงินลดลง
สิ่งที่เราต้องเจออย่างแรก และไม่มีทางจะหลีกเลี่ยงได้เลยก็คือ มูลค่าเงินของเราจะลดลง เนื่องจากเมื่อเวลาผ่านไป เงินเฟ้อก็เพิ่มสูงขึ้นทุกปีๆ ปีละประมาณ 3% ทำให้ข้าวของเครื่องใช้มีราคาสูงขึ้น แต่เงินเก็บที่มีกลับนอนแน่นิ่งอยู่ในบัญชี ได้ดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์เพียงแค่ 0.5% ต่อปีเท่านั้น ไม่งอกเงยเท่าทันเงินเฟ้อ ดังนั้น จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยที่มูลค่าเงินของเราจะลดน้อยถอยลงไปเรื่อยๆ และเมื่อถอนเงินออกมาใช้จ่ายจึงนำไปจับจ่ายซื้อของได้น้อยลง หรือเรียกง่ายๆ ว่าทำให้เราจนลงๆ นั่นเอง
2. คุณภาพชีวิตแย่ลง
เมื่อมูลค่าเงินลดลงไปเรื่อยๆ หากเราไม่ได้มีรายได้มากขึ้น หรือไม่ได้ขยันหารายได้เสริมเพิ่มเติมเข้ามา ก็ย่อมส่งผลให้คุณภาพชีวิตของเราแย่ลงไปด้วยจริงไหมคะ เพราะจากเดิมที่เคยจับจ่ายใช้สอยได้อย่างเต็มที่ แต่เมื่อเวลาผ่านไป เงินที่มีกลับนำไปซื้อของที่ต้องการได้น้อยลงจึงต้องหันมาประหยัดค่าใช้จ่ายกันมากขึ้น และส่งผลกระทบต่อไลฟ์สไตล์การชีวิต รวมถึงคุณภาพชีวิตของเราได้ในที่สุด หากปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ไม่แน่ในอนาคต เราอาจโชคร้ายถึงขั้นต้องหันไปพึ่งพาสถานสงเคราะห์คนชรา เพราะไม่มีเงินเก็บไว้ใช้ในวัยเกษียณก็เป็นได้ค่ะ
3. มีเงินไม่พอทำตามฝัน
ในเมื่อเงินเก็บที่มีทั้งหมดได้ลดมูลค่าลงไปเรื่อยๆ โอกาสที่เราจะเก็บเงินได้ครบตามที่ตั้งใจไว้เพื่อเอาไปทำตามฝันก็คงเป็นไปได้ยากมาก หรือต้องใช้เวลานานมากกว่าจะทำสำเร็จได้ โดยเฉพาะความฝันที่มีมูลค่าค่อนข้างสูง อย่างการซื้อบ้าน ซื้อรถ หรือการส่งลูกไปเรียนต่อต่างประเทศ เรียกว่าขยันทำงานเก็บเงินเท่าไรก็ยังไม่ครบสักที ความฝันที่มีก็ยังเป็นเพียงแค่ความฝันต่อไป ไม่มีทางจะสำเร็จลงได้อย่างที่ตั้งใจไว้ค่ะ
มาเริ่มต้นลงทุนกันเถอะ
เมื่อเห็นถึงความเสี่ยงและความน่ากลัวของการไม่ลงทุนแล้ว เพื่อเป็นการตัดไฟตั้งแต่ต้นลม เรามาเริ่มต้นลงทุนกันตั้งแต่วันนี้ดีกว่าค่ะ โดยเริ่มจากการนำเงินที่เหลือจากการเก็บออมเป็นเงินสำรองเผื่อฉุกเฉิน 6 เท่าของรายจ่ายต่อเดือน ไปลงทุนในสินทรัพย์ที่เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่เรารับได้และเหมาะสมกับระยะเวลาที่ต้องการใช้เงิน สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้นลงทุน ขอแนะนำให้เริ่มจากการลงทุนในกองทุนรวมก่อนค่ะ เนื่องจากกองทุนรวมจะมีผู้จัดการกองทุนที่มีความเชี่ยวชาญคอยบริหารเงินลงทุนให้เรา จึงเหมาะกับคนที่เพิ่งเริ่มต้นลงทุน หรือคนที่ไม่มีเวลาติดตามสถานการณ์การลงทุน แถมยังมีกองทุนมากมาย ระดับความเสี่ยงหลากหลายให้ได้เลือกลงทุน ที่สำคัญคือ มีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากทั่วไป และกำไรที่ได้รับยังไม่ต้องเสียภาษีอีกด้วยค่ะ
และเพื่อให้เห็นภาพ เห็นความแตกต่างที่เกิดขึ้นระหว่างค่าอาหารที่เพิ่มขึ้นจากอัตราเงินเฟ้อ 3% ต่อปี การฝากเงิน และการนำเงินไปลงทุนในกองทุนผสมที่มีนโยบายการลงทุนในหุ้นและตราสารหนี้ ลองดูจากตารางนี้ค่ะ
รู้อย่างนี้แล้ว อยากให้ลองเปิดใจรับความเสี่ยงกันดูสักนิด ในเมื่อไม่ลงทุนแล้วเสี่ยงกว่า ก็อย่ารอช้าที่จะเริ่มต้นลงทุนกันตั้งแต่วันนี้ โดยศึกษารายละเอียดเงื่อนไขของกองทุนรวมที่เราสนใจก่อนตัดสินใจลงทุน และจัดสรรเงินส่วนหนึ่งมาลงทุนเพื่อเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น ทั้งนี้ ก็เพื่ออนาคตที่สดใส และสุขภาพการเงินที่แข็งแรง เพิ่มพูน มั่งคั่งต่อไปในอนาคตนั่นเองค่ะ
โดย : สุวิมล ยิ่งเจริญรุ่งโรจน์ AFPT
ฝ่ายวางแผนและให้คำปรึกษาลูกค้าบุคคล ธนาคารกสิกรไทย