หุ้นไทยผลกระทบจากนโยบายภาษี(ใหม่)ของทรัมป์
การลดภาษีส่วนบุคคลและนิติบุคคลเป็นหนึ่งในนโยบายการหาเสียงของทรัมป์ ภายหลังเข้ารับตำแหน่งมีความพยายามลดภาษีทั้ง ภาษีบุคคลธรรมดา ภาษีนิติบุคคล และภาษีที่เรียกเก็บจากตลาดทุน ซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ดัชนีดาวโจนส์ ทำ New High ในช่วงที่ผ่านมา
แผนปฏิรูปภาษี สรุปได้ดังนี้
กระบวนการแก้ภาษี
ตามรัฐธรรมนูญของสหรัฐฯ ต้องลงคะแนนผ่าน Senate หรือ House of Representatives ซึ่งเ Republican ป็นเสียงข้างมากของทั้ง 2 สภา คาดว่าจะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาภายใน 3 เดือน
อย่างไรก็ตาม สภาก็มีแผนภาษีของตนเองที่แตกต่างกันออกไป ทำให้อาจต้องเกิดการเจรจาต่อรองกัน !
ผลกระทบต่อตลาดหุ้นสหรัฐ
The Earning Scout บริษัทวิเคราะห์ของสหรัฐ ประเมินว่า นโยบาย Effective Tax Rate หากผลักดันนโยบายภาษีได้สำเร็จ จะทำให้ Corporate Tax Rate อยู่ที่ 15% จาก 24%
ดังนั้นจะช่วยลดภาษีให้บริษัทจดทะเบียนได้ประมาณ 9% และกำไรต่อหุ้นของดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้นจากเติบโต 11% เป็น 20% และทำให้ P/E ของตลาดหุ้นในปี 2017 เหลือเพียง 17.9 เท่า
ผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทย
บริษัทที่มีโรงงานผลิตที่สหรัฐฯ ได้รับผลบวกโดยตรงจากนโยบายการลดภาษี ในแง่ของเรื่องค่าใช้จ่ายที่ลดลง และการลดภาษีนิติบุคคลเงินได้ ดังนั้นหุ้นในตลาดหุ้นไทยที่น่าจะได้รับประโยชน์ อาทิ
- HANA ซึ่งมีโรงงาน 1 โรงงานที่มลรัฐโอไอโฮ ชื่อบริษัท ฮานา ไมโครดิสเพลย์ เทคโนโลยี อิงค์จำกัด สำหรับผลิต Liquid Crystal on Silicon โดยคิดเป็นสัดส่วนรายได้ประมาณ 5 % ของรายได้ทั้งหมด หากมีการลดภาษีจาก 35% เป็น 15% คาดว่าจะช่วยหนุนกำไรให้ Hana เพิ่มขึ้นประมาณ 1%
- IVL ได้ผลบวก จาดโรงงานที่ตั้งในพื้นเกือบครบวงจร มีกำลังการผลิตประมาณ 26% ของทั้งหมด ขณะที่ค่า EBITDA คิดเป็น 30-40% ของทั้งหมด คาดลดภาษี จะช่วยให้ค่าใช้จ่ายภาษีลดลงประมาณ 23% ซึ่งจะส่งผลให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นราว ๆ 4%
- สุดท้าย TU ได้ผลเชิงบวกโดยตรงจากมาตรภาษีนิติบุคคลดังกล่าว เนื่องจากมีรายได้กว่า 40% มาจากในสหรัฐ และผลบวกทางอ้อมจากการลดภาษีบุคคลธรรมดา ช่วยทำให้การบริโภคดีขึ้น
ทั้งนี้ยังต้องเฝ้าติดตามในระยะยาวต่อไปว่า บริษัทเหล่านี้จะสามารถรักษายอดขายและความสามารถในการทำกำไรได้ต่อไปหรือไม่ ยังมีปัจจัยในด้านอื่นๆ ที่ต้องติดตามอีกด้วยเช่นกัน
ขอบคุณแหล่งข้อมูล : บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ KTBST, SET
จากทีมงาน Content : stock2morrow