กำไรสุทธิ บจ.สูงสุดใน 5 ปี แตะ 9 แสนล้าน
ตลาดหลักทรัพย์ เผย กำไรสุทธิ บจ.สูงสุด รอบ 5 ปี กว่า 9 แสนล้านบาท ขณะ mai แตะ 3,890 ล้านบาท
ดร.สันติ กีระนันทน์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในปี 2559 มีบริษัท จดทะเบียน (บจ.) ใน SET จำนวน 567 บริษัท หรือคิดเป็น 96.10% จากทั้งหมด 590 บริษัท และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (IFF) นำส่งผลการดำเนินงาน งวดปี 2559 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2559 บจ.มีกำไรสุทธิจำนวน 461 บริษัท คิดเป็น 81.31% ของบริษัทที่นำส่งงบการเงินทั้งหมด โดยมีต้นทุนการผลิตรวมลดลง ทำให้มีกำไรขั้นต้น 2,502,380 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.37% ประกอบกับไม่มีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน และไม่มีผลกระทบค่าใช้จ่ายการด้อยค่าสินทรัพย์ ส่งผลให้มีกำไรสุทธิ 908,855 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.41% เมื่อเทียบกับปี 2558 โดยมียอดขายรวม 10,125,805 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย
ทั้งนี้ ผลประกอบการของ บจ. เพิ่มขึ้นนั้น สอดคล้องกับเศรษฐกิจที่มีการขยายตัวด้านการอุปโภคบริโภค และเป็นปีที่ บจ. มีกำไรสุทธิสูงสุดในรอบ 5 ปี โดยเฉพาะในหมวดธุรกิจที่ได้รับผลดีจากนโยบายรัฐบาล คือ หมวดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ หมวดวัสดุก่อสร้าง หมวดพาณิชย์ และหมวดการแพทย์ และหากพิจารณาในมิติของ บจ. ที่อยู่ในอุตสาหกรรมเป้าหมาย 10 กลุ่มตามนโยบาย Thailand 4.0 พบว่ากลุ่ม บจ. ดังกล่าวมีผลประกอบการในเกณฑ์ดีและแข็งแรงมาก โดยมีกำไรสุทธิเติบโตราว 20% จากปี 2558 และสำหรับผลการดำเนินงานงวด ไตรมาส 4/2559 บจ. มีกำไรสุทธิ 204,850 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.15% จากไตรมาส 4/2558 และลดลง 1.47% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2559
อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานของ บจ. ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในปี 2559 มีกำไรสุทธิ 3,890 ล้านบาท ลดลง 8.73% เมื่อเทียบกับปี 2558 ส่วนหนึ่งเป็นผลจากรายการพิเศษในบริษัทขนาดใหญ่บางแห่ง และสำหรับในไตรมาส 4/2559 มีขาดทุนสุทธิ 472 ล้านบาท เทียบกับไตรมาส 4/2558 ที่มีผลขาดทุนสุทธิ 233 ล้านบาท