เฝ้าระวัง "4 ธุรกิจขายตรง"

น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าผลการหารือร่วมกับ 12 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบและติดตามนิติบุคคลที่ประกอบธุรกิจที่สุ่มเสี่ยงไปในทางหลอกลวงประชาชนและป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในทำนองเดียวกับบริษัทเวลท์เอเวอร์หรือคดีซินแสโชกุนและเป็นการบูรณาการข้อมูลร่วมกัน

อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากล่าวว่า เบื้องต้นที่ประชุมเห็นตรงกันว่าควรกำหนดให้มีการเชื่อมโยงข้อมูลนิติบุคคล บุคคลที่ต้องติดตามเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ( Watch List) เน้น 4 กลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วยธุรกิจขายตรง, การตลาดแบบตรงธุรกิจท่องเที่ยว, ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ และธุรกิจจำหน่ายอาหารเสริม เพราะทั้ง 4 ธุรกิจได้รับข้อร้องเรียนจากประชาชนเพิ่มมากขึ้น และถือเป็นการนำร่องการบูรณาการการทำงานร่วมกันพิจารณาจากข้อร้องเรียนของประชาชนเป็นหลัก และจะตั้งคณะทำงานร่วมเฉพาะกิจขึ้นเพื่อตรวจสอบเชิงลึกธุรกิจดังกล่าวเพื่อเป็นการป้องกันการหลอกลวงประชาชนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากล่าวว่า การเชื่อมโยงข้อมูลนิติบุคคล บุคคลที่ต้องติดตามเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ใน 4 ธุรกิจเป้าหมายที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค กรมการท่องเที่ยว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมการปกครอง มีฐานข้อมูลดังกล่าวอยู่แล้ว ทำให้สามารถเชื่อมโยงและใช้ข้อมูลร่วมกันได้ทันทีก่อนออกใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจ ซึ่งจะสามารถลดความเสี่ยง ป้องกันความเสียหายของประชาชนได้ในระดับหนึ่ง รวมถึงสามารถใช้ตรวจสอบนิติบุคคลหรือบุคคลต้องสงสัยที่จะกระทำความผิดในธุรกิจอื่นๆ ได้อีกด้วย

น.ส.บรรจงจิตต์ กล่าวว่า นอกจากนั้นต้องเร่งประชาสัมพันธ์สร้างความรับรู้ของประชาชน เพื่อให้สามารถตรวจสอบรายละเอียดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งเรื่องการจดทะเบียนธุรกิจจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ตรวจสอบการทำธุรกิจท่องเที่ยวจากกรมการท่องเที่ยว และรายชื่อผู้ได้รับอนุญาตให้ทำธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง ตามพรบ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พศ. 2545 จากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค

น.ส.บรรจงจิตต์ กล่าวว่า และยังมีข้อเสนอให้จัดตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนของประชาชนจากการถูกฉ้อโกงหรือหลอกลวงก่อนส่งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงใช้กฎหมายเอาผิด และจะเชิญหน่วยงานอื่นๆ เช่นกรมสรรพากร สำนักพัฒนาธุรกรรมทางอิเลกทรอนิกส์ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เชื่อมโยงข้อมูลมากขึ้น เพื่ออุดช่องโหว่-ปิดช่องว่างไม่ให้บริษัทที่ได้จดทะเบียนนำธุรกิจมาหาประโยชน์โดยมิชอบต่อไป